มดดำ คชาภา  ตั้งคำถาม แม่เป็นอะไร ทำไมถึงเปลี่ยนไป

มดดำ คชาภา ตั้งคำถาม แม่เป็นอะไร ทำไมถึงเปลี่ยนไป

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวและเหตุการณ์ที่ยังคงเป็นที่น่าสนใจของชาวโซเชียลเป็นอย่างมากซึ่งก็ได้ผ่านมาแล้วกว่า 1 เดือน แต่ก็ยังคงหาคำตอบของเรื่องนี้กันต่อไปที่ยังคงไม่คลี่คลาย รวมถึงยังมีประเด็นใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาอยู่ตลอดเวลา รวมถึงในประเด็นของ คุณแม่ภนิดา ศิระยุทธโยธิน หรือแม่แตงโม กับ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์

ได้พากันไปยื่นหนังสือให้ กมธ.ปลดคดีของดาราสาวออก จนกลายเป็นกระแสพูดถึงอย่างหนักล่าสุด (29 มี.ค.) มดดำ คชาภา พิธีกรชื่อดัง ได้เล่าความคืบหน้าของคดีของดาราสาว ผ่านรายการ รวมถึงในประเด็นของคุณแม่ที่หลายคนสงสัยหนักว่าทำไมถึงเปลี่ยนไปมาแบบนี้

ทำไมวันนี้ทนายเดชาจากตอนแรกจะอยู่ข้างแตงโม จะหาความจริง ทำไมวันนี้ทนายเดชาเปลี่ยนไป มีคนพูดถึงกันเยอะมาก พร้อมกับเล่าในประเด็นที่ ทนายและคุณแม่ได้ขอยื่น ถอดถอน เต๊ะ-ศตวรรษ เศรษฐกร และ แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ออกจากผู้สังเกตการณ์อีกด้วย

และตั้งถามขึ้นมาว่า แม๊ เป็นอะไรอะ เป็นอะไรก่อน ทำไมกลับลำแบบนี้ สังคมเลยตั้งข้อสงสัยว่าเป็นเพราะทนายเดชาหรือเปล่า ที่แม่เปลี่ยนใจได้ขนาดนี้ ตอนวันงานแม่ยังพูดเองว่าจะสู้ ปรากฏผ่านไปเดือนกว่าแม่ไม่สู้แล้วเหรอ จากนั้น มดดำ ได้เล่าประเด็นที่นักข่าวช่อง 8

ได้เข้าไปสัมภาษณ์ ทนายเดชา ตรง ๆ ว่าทำไมเปลี่ยนไปคนละคนเลย ก่อนหน้าที่ ทนายเดชา จะมาทำคดีทุกคนชื่นชมหมด จะล่าหาความจริงให้ได้ พอมาทำจริงๆ เป็นอะไร เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยทนายเดชา บอกว่าก่อนหน้านี้ที่ยังไม่เห็นหลักฐานก็มโนไปเรื่อย ๆ

เหมือนกับคนนั่งมโนกันตอนนี้ไง ขอนไม้ก็เป็นคน อ้างว่ามีคนมารอที่โรงแรม พอมาเห็นแล้วก็เป็นอย่างที่แถลง จนคนบอกว่าตอนนี้ทนายเดชาเข้าข้างตำรวจหมดเลย เขาบอกเขายินดีที่จะมองว่ามีเพื่อนเป็นตำรวจเยอะ แต่ถ้าใครจะบอกว่าเอนเอียงก็อยากให้ปรับสายตา

เพราะตัวเองพูดไปตามหลักฐานที่เห็น มองว่าไม่มีประโยชน์ที่จะไปนั่งว่าตำรวจ เพราะเราเป็นผู้เสียหาย หลายคนบอกตอนแรกๆ แม่บอกจะสู้แล้ว จะเอาความจริงว่าบุตรได้ยังไง วันนั้นฉันอยู่ แม่เขาประกาศสู้ แล้วพี่เอ ศุภชัย ก็พาพวกทนายทั้งหลายมาเจอแม่ พี่ชายแตงโมก็เคยพูดไว้อยู่แล้ว

ว่าอย่างเดียวคืออย่าให้แม่เปลี่ยนใจไม่สู้นะ แล้ววันนั้นก็มาจริงๆ ประเด็นที่มีสังคมพูดถึงว่า แม่เปลี่ยนไปด้วยเหมือนกัน เพราะ ทนายเดชา ไปเสี้ยม จนทำให้แม่ขัดแย้งกับคนที่ออกมาช่วยคดีของแตงโม ทนายเดชา บอกคุณแม่คิดเอง แม่คิดเองได้ ไม่ใช่ควาย ยืนหยัดแม่คิดเองได้ ไม่ใช่กระบือ

และมองว่าคนพูดถึงมีปมด้อย พอเห็นคุณแม่ออกทีวีทุกวัน ก็อาจจะอยากเเป็นบ้าง เพราะตอนนี้คุณแม่ดังที่สุดแล้ว ดารายังสู้ไม่ได้ แต่คุณแม่ไม่เครียด ใช้ชีวิตมีความสุข หลังจากนี้จะนัดกันไปร้องคาราโอเกะ แกมีความรู้สึกนึกคิด การศึกษาแกธรรมดาที่ไหน แกไม่ใช่กระบือ ใครจะไปเสี้ยมได้

ส่วนทนายกฤษณะ ก็ได้ออกมาปกป้องตัวเองว่า วันที่ผมไปรับทำคดีแม่ลืมหลักฐานชิ้นนี้ไปหรือเปล่า ย้อนกลับไปที่ โบ TK ว่ากระติกเคยพูดอะไรก็ออกมาพูดความจริง โบพูดสั้นแต่ได้ใจความสุด ๆ ปรากฏว่าทนายกฤษณะเขาบอกว่าหลักฐานสำคัญคือกล้องหน้ารถ โบ เป็นคนรถแตงโม กลับไปส่งกระติก

กล้องหน้ารถบันทึกเสียงที่กระติกกับโบคุยไว้หมดเลย ซึ่งทนายกฤษณะยืนยันว่า คุณแม่ไม่เคยเปิดไปฟังเลย เหตุว่าทำไม่เป็น ได้ยินแต่คนอื่นพูดให้ฟัง ซึ่งหลังจากส่งหลักฐานให้ตำรวจ แม่ก็รู้มานานแล้วว่าวิดีโอนั้นไม่มีเสียง มีแต่ภาพ ก็ใช้เป็นหลักฐานไม่ได้ ทนายกฤษณะก็จะเผยข้อมูล

จึงเป็นเหตุให้คุณแม่โกรธมาก จึงจะทวงเงิน 35,000 บาทคืน และการเปิดเผยความลับของบุตรความ ถ้าทำจริงก็คงต้องไปร้องสภาทนายความเหมือนกัน ถอนใบอนุญาตหน่อย มาเปิดเผยความลับได้ยังไง พอสิ้นประโยคดังกล่าว มดดำ ถึงกับอุทานออกมาทันที แม่เป็นอะไรอะ และสรุปว่า หลักฐานตกไปแล้ว 1 แต่หลักฐานนั้น ถ้าโบ TK พูดออกมา ก็รู้หมดนะ

เรียบเรียงโดย ทีมงาน siamnews

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ