วันที่ 28 มี.ค. ที่ สภ.เมืองนนทบุรี นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ พร้อมกับทีมงาน ได้เดินทางมาขอโทษ นายวินิต ตรีปัญญา หรือลุงนิด คนหาปลา ตามคำขอของเจ้าตัว หลังจากที่ได้พูดพาดพิง ทำให้สังคมเข้าใจว่า ไม่ยอมช่วยเหลือแตงโม จนนายวินิตถูกวิจารณ์ในด้านลบ

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า วันนี้มาขอโทษ นายวินิต เนื่องจากว่าอายุมากกว่า แล้วการให้สัมภาษณ์ของตน ไปพาดพิงโดยที่ไม่ได้ตั้งใจแล้วทำให้นายวินิต เสียหาย ตนก็สามารถขอโทษได้

ซึ่งตนไม่มีสิทธิ์ที่จะไปมีปากเสียงกับประชาชนอยู่แล้ว ยิ่งเป็นผู้แทนราษฏรที่ประชาชนเลือกมา จะมามีปากเสียงกับประชาชน ก็คงไม่ใข่เหตุผล ส่วนหลังจากที่ขอโทษแล้ว เรื่องคดีจะฟ้องร้องต่อถือถอนฟ้อง เป็นสิทธิ์ของนายวินิต ตนไม่ก้าวก่าย

ก่อนหน้านี้ ที่บอกว่า หากจะขอโทษ ก็ต้องโทษต่อหน้านายสิระ เจนจาคะ ตนมองว่าหาเรื่องนี้ นายสิระ จะเข้ามาช่วยเหลือคดีแตงโม ก็ยินดี เพราะการเคลื่อนไหวของ นายสิระ สามารถทำได้มากกว่าตน โดยที่ไม่ต้องคำนึงถึงรัฐธรรมนูญมาตรา 185 โดยหากไม่มีปัญหา นายสิระก็สามารถตามงานต่อจากตนได้ เพราะวันนี้ ทางคุณแม่ของแตงโมและทนายเดชา จะไปถอนเรื่องคดีแตงโมออกจากกรรมาธิการ

หากนายสิระมาช่วยก็จะเป็นประโยชน์ ในส่วนหลังจากนี้ที่ขอถอนตัวออกจากคดีแตงโม ตนได้ทำอยู่เงียบ ๆ ซึ่งได้ จัดตั้งทีมทนายขึ้นมาดูคดีแตงโมโดยเฉพาะ และนอกจากนี้ ยังรับดูคดีของพี่น้องประชาชนด้วย

ต่อมา นายวินิต มาถึงที่ สภ.เมืองนนทบุรี นายมงคลกิตติ์ ได้ถือเครื่องดื่มบำรุงเพื่อมอบให้กับนายวินิตพร้อมกับจับมือแล้วกล่าวขอโทษด้วย นายวินิต กล่าวว่า ก่อนหน้านี้นายมงคลกิตติ์ได้โทรศัพท์ขอโทษตนมาแล้วครั้งนึง แต่ตนไม่รับคำขอโทษทางโทรศัพท์ ขอให้นายมงคลกิตติ์มาขอโทษตนต่อหน้าสื่อมวลชน

ส่วนเรื่องของค่าเสียหายตนไม่เคยพูดถึง ขึ้นอยู่กับนายมงคลกิตติ์ ว่าจะเยียวยาตนอย่างไร เท่าไหร่ พร้อม อภัยนายมงคลกิตติ์ ถึงแม้ก่อนหน้านี้ ตัวเองโดนต่อว่าอย่างหนัก จากสังคมส่งผลกระทบถึงครอบครัวและการใช้ชีวิต เมื่อนายมงคลกิตติ์ ออกมาขอโทษแบบนี้ตัวเองพร้อมให้อภัย

ยืนยันว่าหากคลิปที่ นายมงคลกิตติ์ส่งให้กับพนักงานสอบสวนเพื่อเป็นหลักฐานในคดีคุณแตงโมหากภายในคลิป เป็นคนจริง ตัวเองก็คงช่วยไปแล้ว โดยหลังจากนี้เรื่องคดีก็จะปรึกษาผู้ใหญ่ก่อนว่าจะถอดฟ้อง นายมงคลกิตติ์เต้หรือจะยังคงดำเนินคดีอยู่

อย่างไรก็ตาม เต้ ขอโทษคนหาปลา รับไม่สมควรมีปากเสียงกับประชาชน ยืนยันไม่ได้กลัวโดนฟ้อง