จ่อปิดคดีแตงโม เผยเหตุที่คดียืดเยื้อ ไม่อย่างนั้นจบนานแล้ว
วันที่ 22 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ในฐานะทนายความคดีแตงโม นิดา เปิดเผยว่า ยังคงอัปเดตความคืบหน้ากับ ผบก.สส.ภ.1 ทุกวัน คาดว่าตำรวจจะสามารถปิดคดีได้ภายในสิ้นเดือนมีนาคม หรือไม่เกิน 15 วัน เนื่องจากการสืบสวนสอบสวนใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว หากไม่มีพยานหลักฐานใหม่เพิ่มเติม หรือผลการตรวจพิสูจน์ใหม่ที่แตกต่างจากปัจจุบัน
ตอนนี้ พยานหลักฐานใหม่ยังไม่มี มีแต่ในโซเชียลเท่านั้น หากใครคิดว่ามีพยานหลักฐานจริงชิ้นใหม่ ขอให้แจ้งมาที่ตนเพื่อนำส่งพนักงานสอบสวน เรื่องที่โซเชียลตั้งข้อสงสัยนั้น ตำรวจได้นำมาเปรียบเทียบตรวจสอบทั้งหมดว่าอันไหนจริง อันไหนเท็จ และมีการรายงานให้ตนทราบทุกวัน
โดยทิศทางของสำนวนเป็นอุบัติเหตุ ความประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่ในอนาคตจะมีการเปลี่ยนแปลงข้อหา หรือจะมีผู้ต้องหาเพิ่มมากกว่า 2 คนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานว่าจะไปถึงใครบ้าง
ทั้งนี้ ตนกับคุณแม่ก็มีข้อสงสัยต่าง ๆ เกิดขึ้นแทบทุกวัน ซึ่งได้สอบถามตำรวจและประสานงานกันตลอด เพียงแต่ไม่ได้นำมาเปิดเผย ส่วนเรื่องที่คุณแม่สงสัยการสลับเรือ ตนได้สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจและเคลียร์ชัดเจนแล้ว และคุณแม่ก็สงสัยเรื่องคราบเลือด ซึ่งก็ได้อธิบายว่า ถ้าหากมีการทำร้ายร่างกายบนเรือจริงก็จะปรากฏคราบเลือดบนเรือ ส่วนเรื่องบาดแผลเล็ก ๆ 22 จุด ของ แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ เป็นประเด็นที่คุณแม่สงสัยเช่นกัน แต่ตนได้ถามตำรวจไปแล้ว เจ้าหน้าที่มีการชี้แจงทุกประเด็นซึ่งคลายข้อสงสัยได้
ส่วนกรณีทัวร์ลง ทนายเดชา เปิดเผยว่า ตนโดนทัวร์ลงหลายครั้งแล้ว หากใครจะด่าก็ด่าได้เต็มที่ ยืนยันว่าไม่ฟ้องแน่นอน ส่วนเรื่องการให้สัมภาษณ์ในที่ต่าง ๆ ระมัดระวังเสมอ โดยจะแจ้งคุณแม่ให้ทราบก่อนที่จะดำเนินการอะไร และถ้าอนาคตจะถูกเปลี่ยนทนายความก็ขอให้คุณแม่แจ้งก่อน เดี๋ยวตนลาออกเอง
ทนายเดชา ระบุอีกว่า สาเหตุที่คดีนี้ยุ่งยากเพราะมีนักกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องตั้งแต่แรก มีแหล่งข่าวเชิงลึกระบุว่า ตั้งแต่หลังเกิดเหตุ มีนักกฎหมายแนะนำกลุ่มคนที่อยู่บนเรือว่าอย่าเพิ่งเข้าพบพนักงานสอบสวน แต่ให้ไปพบทนายความก่อน ทำให้คำพูดที่พูดออกมาย่อมเปลี่ยนไป ซึ่งข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของทั้ง 5 คน ตำรวจมีทั้งหมด จึงรู้ว่ามีการนัดหมายทนาย 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มแรกที่ปั๊มน้ำมันเชลล์, กลุ่ม 2 ที่ จ.ราชบุรี และกลุ่ม 3 ที่ร้านอาหารสุขุมวิท
สาเหตุที่ไปหาทนายก่อนและไปหาทนายหลายคนเพราะไม่อยากติดคุก คดีนี้ถ้าคนบนเรือไม่ไปหาทนายก่อน คดีน่าจะจบไปแล้ว ซึ่งคดีประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ถ้ามีการเยียวยา รับสารภาพ แม้ศาลสั่งจำคุก แต่อาจรอลงอาญา รอการลงโทษ และการไปหาทนายความหลังเกิดเหตุก็ทำให้คนสงสัยและทำให้คดียุ่งยากถึงทุกวันนี้ อย่างไรก็ตาม ขอให้รอดูวันแถลงข่าว อลังการแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว