หมอพรทิพย์ เผยเจอบาดแผลที่ต้นขาซ้ายของ แตงโม
วันที่ 21 มี.ค.2565 ที่รัฐสภา พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ส.ว. ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมกมธ. เพื่อพิจารณากรณีนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของ น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม นักแสดงชื่อดัง ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมและขอให้แต่งตั้งคณะกรรมการร่วมตรวจสอบการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในคดีการเสียชีวิตของแตงโมว่า
วันนี้เชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจากสถาบันนิติเวชมา โดยจะถามความคืบหน้าประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวกับคดี รวมถึงการรายงานเพื่อทราบว่า จากการลงพื้นที่สังเกตการณ์มีประเด็นอะไรเพิ่มเติมหรือไม่
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ส่วนที่แพทย์ผู้ชันสูตรไม่กล้าออกมาแถลงความชัดเจน อาจเป็นเพราะสังคมตั้งแง่ว่าอาจจะไม่น่าเชื่อถือ ตนจึงแถลงในประเด็นที่สังคมสงสัยโดยเฉพาะแผลบนใบหน้า และสิ่งที่แถลงเพิ่มเติมคือ พบว่าสิ่งที่หมอนิติเวชชุดแรกทำการตรวจค่อนข้างสมบูรณ์ โดยเฉพาะประเด็นน้ำในลูกตาที่เหมือนมีแอลกอฮอล์ติดอยู่
สำหรับประเด็นการตรวจหาสารยูเรียในปัสสาวะ ไม่มีการแปรผล ส่วนบาดแผลนอกเหนือจากต้นขาขวาแล้วยังมีบาดแผลที่ต้นขาซ้ายและรอยช้ำที่เห็นได้ชัดขึ้น
การพูดครั้งนี้เพื่อประสานไปยังพนักงานสอบสวน หากได้ทำงานร่วมกัน ตนก็อาจจะตอบคำถามหลายๆ อย่างได้มากขึ้น แต่ประเด็นที่สงสัยว่าถูกทำร้ายนั้น ไม่มีการถูกทำร้าย แต่ยังคงหาคำตอบอยู่ว่าต้นเหตุของการตกลงไปในน้ำและแผลเกิดจากอะไร
ภาพรวมคุณแม่แตงโมก็ยังไว้ใจตนอยู่ แต่คดีนี้ยังไม่สามารถสรุปชี้ชัดได้ว่าเป็นฆาตกรรมตามที่ตั้งข้อสงสัยหรือไม่ แต่หลักฐานที่ใช้ประกอบกันคือหลักฐานที่ศพ หลักฐานที่เรือ รวมถึงคำให้การบุคคลทั้ง 5 และหลักฐานที่ใจต่างๆ ด้วย
คดีนี้แม้จะมีหลักฐานเยอะ แต่อยู่ที่การประมวลหลักฐานว่าจะสรุปอย่างไร แต่ไม่อาจสรุปได้ว่าบาดแผลที่เกิดขึ้นเกิดจากการไปปัสสาวะหรือโดนใบพัดเรืออย่างเดียว ต้องทำหลายอย่างร่วมกัน
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวด้วยว่า ส่วนข้อสงสัยที่ว่าลักษณะของบาดแผลจะเกิดก่อนการเสียชีวิตหรือไม่จะต้องมีการพูดคุยกันวันนี้ เมื่อแพทย์ผู้ชันสูตรยืนยันว่าเป็นแผลก่อนเสียชีวิต
สิ่งที่ต้องยืนยันคือเป็นแผลช่วงก่อนตกน้ำหรือตกน้ำไปแล้ว โดยปล่อยให้เป็นการสืบสวนของตำรวจ ซึ่งในส่วนนี้มีแนวทางในการสอบสวนอยู่ แต่เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่จะดำเนินการ
สำหรับประเด็นที่ตนอาจจะถูกพาดพิงโจมตีเรื่องการเข้าร่วมชันสูตรนั้น ตนรู้สึกชินแล้ว ไม่ว่าใครจะพูดอะไรก็ไม่ได้สนใจ มั่นใจว่าอดีตที่ผ่านมาก็บ่งบอกอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นจะเลือกไปทำด้านนิติเวชทำไม ตนไม่เคยได้อะไรพิเศษจากหน่วยงานไหนหรือเอกชนใด และยืนยันว่าจะทำเรื่องนี้อย่างเต็มที่เพื่อให้ความจริงปรากฏ
อย่างไรก็ตาม หากมความคืบหน้าอย่างไร จะรายงานให้ทราบต่อไปค่ะ