เก็บเงินมาทั้งชีวิต พ่อค้าซาลาเปาถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงินเกือบ 4 ล้าน
เหตุการณ์ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงินคนเมืองแพร่โดนไปเกือบ 4 ล้านบาทรายนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 09.30 น. ของวันที่ 19 มีนาคม 2565 ที่ นายสิงห์ (นามสมมุติ) พ่อค้าขายซาลาเปา บ้านช่อแฮ ต.ช่อแฮ อ.เมืองแพร่ ที่ได้รับหมายศาลอุทธรณ์ ภาค 5 ในคดีฟอกเงิน 8,560,000 บาท ของ นายสมศักดิ์ ศักดิ์ดี ผู้ต้องหาที่ถูกจับ โดยที่ ศาลยุติธรรม ได้ออกหมายศาลอายัดบัญชีธนาคาร ทุกธนาคาร ของ นายทสิงห์(นามสมมุติ) ตามหมายเลขประชาชน ที่มีส่วนเข้ามาเกี่ยวข้องกับ ผู้ต้องหาในบัญชีเงินฝาก จึงขออายัด บ/ช เพื่อตรวจสอบและจะคืนให้ภายหลังหากตรวจสอบแล้วไม่เกี่ยวข้อง โดยให้ นายทสิงห์(นามสมุติ) ต้องโอนเงิน เข้า บ/ช ไปที่ น.ส รัตติกาล แก้วศรี เจ้าหน้าที่,พ.ต.ต สราวุฒิ คละไฮ หน.ชุด ฉก.ปป.ลส.ศก(บก.ปป.สตช) และ ร.ต.ต ศรัญย์ ศรีวิชัย หน.ชุด ฉก.ปป.ลส.ศก.(บก.ปป.สตช) ที่รวมแล้ว เป็นเงินร่วม 3 ล้าน 7 แสนกว่าบาท
พร้อมทั้ง ได้ติดต่อ นายสิงห์ (นามสมมุติ) เปิดรับไลน์ ของ คนร้าย ที่ได้ส่งภาพ หลักฐานการจับกุมผู้ต้องหา และหมายศาล พร้อม จนท.ตำรวจที่จับกุม ประทับตรา สนง.ตำรวจแห่งชาติ จนเป็นที่น่าเชื่อถือว่าเป็นของจริง จน นายทุ่ง(นามสมมุติ) หลงเชื่อ โอนเงินให้กับ แก้งค์คอลเซ็นเตอร์ดังกล่าว
นายสิงห์ ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนบ่ายของวันที่ 18 มี.ค.65 มีเสียงโทรศัพท์เข้ามาเป็นเบอร์ 063-5649216 มีผู้หญิงแจ้งว่า ตนเองเป็นผู้เกี่ยวข้องในคดีการฟอกเงิน ที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาที่จับกุมได้แล้ว ที่ จ.เชียงใหม่ โดยได้รับแจ้งข่าวบริษัท dhl สาขาเชียงใหม่ ตรงข้ามเซนทัล แอฟอต วันที่จัดส่ง 28 กพ.65 เวลา 10.32 พนักงานผู้แจ้งเรื่อง น.ส.วนิดา รุ่งเรืองทรัพย์ มีพัสดุของผู้รับ หวาง ต้าหมิง +8613912737889 99 ถนนเทียนอัน มนฑลปักกิ่ง ประเทศจีน 100023 หมายเลขอ้างอิง จากกรมศุลกากร เชียงใหม่ 0089637846326 สิ่งของในพัสดุหนังสือเดินทาง 14 เล่ม บัตร atm 10 ใบ เสื้อผ้า 8 ชุด ซึ่งทาง เจ้าหน้าที่ จะทำการอายัด บ/ช ของนายสมิง เพื่อทำการตรวจสอบ
โดยให้ ตนเองโอนเงินใน บ/ช ไปยัง เจ้าหน้าที่ ทั้ง สามคน เพื่อตรวจสอบ และหากพบว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ก็จะคืนเงินทั้งหมดกลับคืนมาให้ และให้เปิดไลน์ของ สำนักงานปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อดูหลักฐานจนเป็น ที่น่าเชื่อถือ โดยที่ ตนเองก็หลงเชื่อ แต่มาเอะใจ เมื่อโอนเงิน จำนวน 8 ครั้งไปให้แล้ว ร่วม 3 ล้าน 7 แสนกว่าบาท แต่ คนร้ายยังแจ้งให้ โอนเงินไปอีก จำนวน 1,200,000 บาท เพื่อเป็นเงินค้ำประกัน จึงเอะใจที่ตนเองยังไม่เป็นผู้ต้องหาและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับ คนร้ายที่ถูกจับกุม จึงอ้างว่าจะขอเอาเงินสดไปให้ที่ จ.เชียงใหม่ แต่คนร้ายไม่ยอม และบอกให้โอนเช่นเดิม ก่อนที่จะวางสายไป จึงรู้ว่าถูกหลอกแน่นอน ก่อนไปแจ้งความกับตำรวจ ที่ สภ.พระธาตุช่อแฮ เพื่อเป็นหลักฐานกันต่อไป
ซึ่งเรื่องนี้ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร จุกอกไปหมด เพราะที่ผ่านมาตนเองอยู่บ้าน ไม่ว่าจะมีคนมาหรือเพื่อนบ้านที่มาดื่มกินด้วยกัน ตนเองจะเตือนตลอดว่า ให้ระวังแกงค์คอลเซ็นเตอร์ พร้อมบอกหมายเลขต่างๆ ว่า เบอร์แบบนี้ อย่ารับ แต่สุดท้าย กลับมาเจอด้วยตัวเอง โดยไม่รู้ตัว ว่าตนเองเคลิ้มตามคำพูดต่างๆ ได้อย่างไร จนต้องโอนเงินจากบัญชีต่างๆ ไปให้ บุคคลเหล่านี้ได้ จึงขอฝากเตือนทุกๆ ท่าน หากมีเบอร์แปลก โทรมาให้ ตัดสายทิ้ง ทันที ไม่ต้องพูดคุยอะไร กับพวกนั้นเลย หากเผลอไปคุยด้วย อาจจะถูกเกลี้ยกล่อม และตกเป็นเหยื่อแบบนี้ได้ นายทุ่ง กล่าวปิดท้าย
ทาง ร.ต.อ พินัย เหรา พนักงานสอบสวนเวร ที่ได้รับแจ้งความไว้ ได้ฝากเตือนผู้รับโทรศัพท์แปลกๆเข้ามา ให้ตั้งมั่นในสติ และหากเป้ฯไปได้ ก่อนรับก็ควรจะมีคนอื่นร่วมอยู่ได้ เพื่อจะได้ช่วยกันคิดว่า เป็นบอร์ของคนดี หรือคนร้าย ก่อนที่จะตัดสินใจโอนเงินไป และสำหรับคดีนี้ ทางตำรวจ ได้แจ้งอายัดเงินจาก บ/ช ดังกล่าวไปแล้ว แต่ทราบว่า คนร้ายได้ย้าย บ/ชไปที่ใหม่แล้ว จึงกำลังติดตามอายัดกันต่อไป
ข่าวโดย สมฤทธิ์ ชัยพลังฤทธิ์ ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดแพร่