พาไปทำความรู้จัก สถานปฏิบัติธรรม วิโมกสิวาลัย

พาไปทำความรู้จัก สถานปฏิบัติธรรม วิโมกสิวาลัย

กรณีนายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือ ปอ เจ้าของเรือสปีดโบ๊ต และนายไพบูลย์ ศรีกาญจนานันท์ หรือ โรบิร์ต ผู้ขับเรือสปีดโบ๊ต ทั้งคู่เป็นผู้ต้องหาคดีสาวแตงโมพลัดตกเรือ ประกาศขอบวชที่วัดท่าไม้ ต.ท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เพื่อจะอุทิศส่วนบุญกุศลให้กับแตงโม

ทั้งนี้ ภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าเวลา 05.03 น. มีรถกระบะ สีขาว 4 ประตู ขับมาจอดบริเวณประตูทางเข้าวัดก่อนมีพระสงฆ์ 1 รูป ออกมาเปิดประตูและก้าวขึ้นรถไป จากนั้นเวลา 05.14 น. รถเก๋งโตโยต้าซึ่งจอดอยู่บริเวณลานจอดรถ ขับตามกระบะสีขาวออกไป ไม่ชัดเจนว่าเป็นรถของทีมงานในวัดหรือไม่

ทีมข่าวตรวจสอบภาพวงจรปิดไปกว่า 1 ชม. พบว่ามีรถยนต์ขับเข้าวัดไปประมาณ 2 คัน โดยไม่พบรถของไฮโซปอ และโรเบิร์ตมาที่วัดท่าไม้แต่อย่างใด ขณะที่คนใกล้ชิดพระอาจารย์ เปิดเผยกับทีมข่าวว่า พระอาจารย์อุเทน ออกจากวัดท่าไม้ ไปสำรวจพื้นที่ธรรมสถาน วิโมกสิวาลัย ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (15 มี.ค.65) ก่อนเดินทางไปฉันเพลบ้านลูกศิษย์ และปฏิบัติกิจของสงฆ์ต่อเนื่องอยู่ที่ธรรมสถาน

จากนั้นนายปอ และนายโรเบิร์ต เดินทางไปถึงธรรมสถาน เวลา 19.00 น. ก่อนมีการร่วมพูดคุย และสวดมนต์ไหว้พระ และนอนอยู่ที่ธรรมสถาน จากนั้นช่วงเช้าเวลา 04.00 น. ทั้งคู่ออกมาสวดมนต์ทำกิจพร้อมพระ ต่อมาเวลา 08.00 น. พระอาจารย์ก็เริ่มทำพิธีโกนผม และเข้าสู่ช่วงพิธีรับศีล 8 ห่มชุดสีกระสีน้ำตาล เสร็จสิ้นพิธีการเวลา 10.00 น. จากนั้นทำกิจวัตรตามที่วางไว้

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ที่ใกล้กับสถานที่ปฏิบัติธรรมที่สุด พบว่ารถของไฮโซปอ เดินทางเข้ามาในพื้นที่ ใกล้กับสถานที่ปฏิบัติธรรม ในเวลา 21.15 น. ของวันที่ 15 มีนาคม 65 ซึ่งภาพวงจรปิดจับภาพได้ตามข้อมูลที่ ทีมข่าวได้รับมา คือ รถตู้สีขาวขเดินทางมาถึง และไม่ได้เลี้ยวไปที่สถานที่ปฏิบัติธรรม แต่เดินทางไปพักที่รีสอร์ตใกล้เคียง

โดยวงจรปิดช่วงเช้าของวันที่ 16 มีนาคม 65 จับภาพรถของไฮโซปอ ขับมาจากรีสอร์ต มุ่งหน้าไปยังสถานที่ปฏิบัติธรรม ในเวลา 07.48 น. ขณะเดียวกัน ทีมข่าวยังได้เดินทางไปยังรีสอร์ตดังกล่าว จึงทราบว่าเมื่อคืนนี้มีผู้ชายโทรมาจองห้องพัก จำนวน 3 ห้อง โดยไม่ขอระบุชื่อ และมาถึงที่รีสอร์ต ประมาณ 21.00-22.00 น. ขับรถเข้ามาที่รีสอร์ต จำนวน 2 คัน มีรถตู้ 1 คันและรถยนต์ 1 คัน มากัน 5 คน ผู้ชาย 3 ผู้หญิง 2 ซึ่งทุกคนใส่ชุดสีขาว จากนั้นทั้ง 5 คน ได้เดินทางออกจากรีสอร์ต ในเวลาประมาณ 07.00-08.00 น. โดยไม่ขอรับอาหารเช้า

ทีมข่าวเดินทางไปยังสถานที่ปฏิบัติธรรม วิโมกสิวาลัย เจริญวิปัสสนากรรมฐาน ในพื้นที่อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี พบว่าบรรยากาศเงียบเงา ไม่ให้บุคคลภายนอกเข้า จากนั้น เวลา 15.45 น. มีรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า ด้านข้างประตู ติดโลโก้สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ ขับเข้ามาบริเวณด้านหน้าสถานที่ปฏิบัติธรรม

นายต้นไม้ (นามสมมติ) ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยว่า สำหรับสถานที่ปฏิบัติธรรมดังกล่าว เป็นที่รู้กันว่าชาวบ้านจะไม่ใส่บาตรกับพระที่นี่ เนื่องจากเมื่อครั้งที่สถานที่แห่งนี้สร้างแล้วเสร็จ ชาวบ้านจะเข้าไปทำบุญภายในก็ยากลำบาก แต่ถ้าเป็นกลุ่มของ VIP จะได้รับการดูแลต้อนรับเป็นอย่างดี ส่วนสาวแตงโมและไฮโซปอและนายโรเบิร์ต ก็อาจจะเคยเข้ามาแต่ตนไม่ได้สังเกต "วันนี้ไหน ๆ จะพูดก็ขอพูดถึงพฤติกรรมของพระ เปิดเสียงบทสวดรบกวนชาวบ้าน ซึ่งตอนที่เข้าไปตามแมว แล้วพระมองหน้าไม่พอใจ ก็อยากจะให้สำนักพุทธ เข้ามาตรวจสอบว่า ทำไมสถานที่แห่งนี้ถึงต้องปิดเหมือนมีอะไรปกปิดอยู่ด้านใน คนธรรมดาเข้าไม่ได้ แต่ VIP เข้าได้ ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวให้ฟัง

นายจตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการด้านศาสนา กล่าวว่า โดยปกติแล้วไฮโซปอ และนายโรเบิร์ต ไม่สามารถบวชได้อยู่แล้ว ตามกฎของมหาเถรสมาคม รวมถึงกฎหมายต่าง ๆ ก็ไม่สามารถบวชได้ แต่การโกนผมครั้งนี้เป็นการดื้อแพ่ง เพื่อจะได้เอาตัวเองไปอยู่ในสำนวน ก่อนอัยการสั่งฟ้อง และาจจะหวังผลให้ผู้พิพากษาเมตตาบรรเทาโทษหรือไม่ สำหรับตนไม่เห็นว่าการโกนผมเหล่านี้จะได้ผลอะไร ซึ่งต้องเข้าใจคำว่า พราหมณ์ คำนี้มาจากอินเดีย สืบทอดทางสายเลือด ไม่จำเป็นต้องบวช แต่การปลงผลบวช หรือโกนหัวแบบนี้ไม่ใช่พราหมณ์ แต่สังคมไทยก็เรียกกันจนติดปากว่า บวชพราหมณ์ ๆ ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริง คือ การถือศีล 8 หรือถือศีล 10

นอกจากนี้ การที่หลวงพี่อุเทนอ้างว่าให้ทั้ง 2 คนโกนผมถือศีล เพื่อจะได้มาอยู่ใกล้ตัวแล้วให้พูดความจริงนั้น ก็เป็นสิทธิ์ของท่าน โดยปกติการบวชแบบไม่ปลงผมเรียกว่า บวชชีพราหมณ์ ตามประเพณีไทย แต่กรณีที่ปลงผมผู้หญิงเรียกว่า แม่ชี ผู้ชายเรียกว่า พ่อนาค หรือ อุบาสก เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ต่อไป อาจจะต้องอยู่วัด 3-5 เดือนจนกว่านิสัยจะผ่านจนบวชได้ ทั้งนี้ กรณีที่มีคดีติดตัวมาก็บวชได้ ตนอยากให้ไปถามทางฝั่งพราหมณ์มากกว่า เพราะคิดว่าไม่เกี่ยวกับประเพณีพุทธ ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นก็ไม่ใช่การปล้นผ้าเหลือง เพราะไม่ได้ใส่ผ้าเหลือง แต่เป็นการไปบังคับคนใส่ผ้าเหลืองมาโกนผมให้หรือไม่ เพราะตามหลักไม่มีคำว่าบวชพราหมณ์

อย่างไรก็ดี พระญาณวิกรม (พระอาจารย์อุเทน สิริสาโร) เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ กล่าวว่า หากตำรวจจำเป็นต้องเรียกทั้ง 2 คนไปให้ปากคำเพิ่มเติม ระหว่างถือศีล ก็สามารถติดต่อได้กับพระเลขา และไม่ต้องกังวลว่าทั้ง 2 คนจะหลบหนี ไปในเส้นทางชายแดนไทยเมียนมา เนื่องจากมีทหาร ดูแลความปลอดภัยตลอดแนวชายแดน ส่วนที่หลายคนกลัวว่าระหว่างปฏิบัติกิจภายนอก โดยเฉพาะการเดินบิณฑบาตมีฆราวาสอาจจะไม่พอในทั้งคู่และมาทำร้าย นั่นคือกรรมของเขา

อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตยังได้แชร์ประโยคหนึ่ง จากภาพยนตร์นาคปรก ดังต่อไปนี้

พระ พุทธศาสนานั้นศักดิ์สิทธิ์เกินกว่าที่จะทำล าย ได้

ฆราวาส ทั้ง ๆ ที่หลวงตาก็รู้ว่าพวกผมทำอะไรมา ทำไมยังบวชให้อีก

พระ การบวชมันต้องมีพิธีกรรม แต่ที่โยมทำเขาเรียกว่าปล้นผ้าเหลือง

คลิป

ขอบคุณ Amarin News

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ