ไทด์ ไม่หวั่นถูกขู่เอาผิด ยืนยันเห็นจริง ถ้าไม่พูดคงเสียใจ
ภายหลังคุณแม่ของแตงโมหรือ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน พร้อมด้วย นายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ทนายความ และนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ ในฐานะที่ปรึกษาคดีแตงโม เดินทางมายังสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อพบเจ้าหน้าที่
โดยใช้เวลากว่า 3 ชม. ในการรับทราบผลผ่าพิสูจน์ ได้ข้อสรุปว่าไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย หน้าไม่มีแผล ฟันไม่หัก ส่วนร่องรอยบาดเเผลใหญ่บริเวณต้นขาพบมาจากของมีคมนั้น
ล่าสุด ไทด์-เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ นักแสดง และหัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู กล่าวว่า ในช่วงที่นำร่างส่งมานิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ตนอยู่ในรถตู้กับร่างของแตงโม ยืนยันว่าเห็นแตงโมตาบวมปิด 1 ข้าง และตาถลนอีก 1 ข้าง ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ทำการบีบปากแตงโมเพื่อตรวจเนื้อเยื่อในกระพุ้งแก้ม ตนก็เห็นว่าฟันบนซี่หน้าหักครึ่ง
ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้พูด ระหว่างนั้นมีข่าวว่าตำรวจจะแถลงปิดสำนวนคดี ก็แปลกที่ใจว่าทำไมไม่มีใครพูดเรื่องนี้ ตนจึงตัดสินใจพูดเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้แตงโม เพราะตนอยู่ใกล้ร่างที่สุด เป็นคนพลิกร่างให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
โดยวันที่นำร่างไปส่งนิติเวช คุณแม่ภนิดายังมาถามตนว่าทำไมหน้าแตงโมเป็นแบบนี้ ตนยังปลอบว่า อย่าไปดูเลย ให้จดจำหน้าสวย ๆ ไว้ดีกว่า
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
ซึ่งเรื่องฟันหักก็ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้แตงโมเสียชีวิตอยู่แล้ว แต่ที่พูดออกไป เพราะอยากรู้ว่าหักเพราะอะไร ถูกทำร้ายหรือไม่ แต่หลังจากที่มีการแถลงแล้วก็จบ โดยการที่มีกระแสว่าจะมีการเอาผิดนั้น ตนคิดว่าไม่ใช่ เพราะตนพูดก่อนที่จะมีการแถลงเรื่องการชันสูตร แต่ตนพูดก่อน และไม่ได้ไปแย้งผลการชันสูตร
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
ซึ่งหลังการแถลงแล้วก็ยอมรับว่ายังติดใจ แต่ก็ต้องยอมรับผลการชันสูตรจากนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ ยืนยันตนไม่ได้ก้าวก่าย แค่สอบถาม รู้สึกว่าหากวันนั้นตนไม่พูดแล้วฟันหักจริง จะรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
ทั้งนี้ ตนยืนยันว่ากู้ภัยพูดในสิ่งที่จำเป็น แต่ตนเป็นคนที่กล้าพูดมากกว่าคนอื่น เพราะตนเห็นและอยู่ในช่วงที่ตรวจสอบ โดยตนยังรู้สึกขอบคุณคนที่ทำภาพร่างของแตงโมหลุด เพราะจะได้ช่วยยืนยันสิ่งที่ตนเห็น ยังเสียใจว่าน่าจะให้คนที่บีบปากแตงโมลองจับฟันดูในวันดังกล่าวเพื่อจะได้ชัดเจนขึ้น
อย่างไรก็ตาม หากมีความคืบหน้าอย่างไร จะรายงานให้ทราบต่อไปค่ะ
ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว