จากประเด็นที่้ ไฮโซปอ ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ และ โรเบิร์ตไพบูลย์ ผู้ต้องหาคดีของนักแสดงสาว แตงโม นิดา เตรียมบวชให้กับนักแสดงสาว ในวันที่ 16 มี.ค.65 โดยเบื้องต้นทราบว่า ไฮโซปอ ไปติดต่อที่วัดท่าไม้จ.สมุทรสาคร ซึ่งจากการติดต่อไปยังคนสนิทของหลวงพี่อุเทน เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ ให้ข้อมูลว่า ไฮโซปอ ติดต่อมาที่วัดจริง เพื่อติดต่อขอบวช แต่หลวงพ่ออุเทน ปฏิบัติธรรมในภาคเหนือ ให้รอตรวจสอบก่อนว่าทั้ง 2 คน จะบวชได้หรือไม่ เนื่องจากอยู่ระหว่างดำเนินคดีที่เกิดขึ้นอยู่ ซึ่งจากกรณีที่เกิดขึ้น เข้าข่ายเดียวกับเมื่อครั้งคดี "หมอกระต่าย ที่ ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ผู้ขับขี่รถบิ๊กไบค์ ได้ขอบวช เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศล ให้กับ หมอกระต่าย จากกรณีที่เกิดขึ้น ทำให้สังคมเกิดความสงสัยว่า ผู้มีคดีความ สามารถบวชได้หรือไม่

ผู้ที่จะบวชเป็นสามเณรหรือพระได้ต้องมีคุณสมบัติดังนี้

หากจะพูดถึง กรณีของ ไฮโซปอ กับ โรเบิร์ต"จึงถือว่าอยู่ในกลุ่มคนต้องห้าม ไม่สามารถบวชได้ กรณีพระอุปัชฌาย์บวชให้ ทั้งที่รู้ว่าเป็นบุคคลต้องห้าม จะมีความผิด ผู้บังคับบัญชาอาจสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่พระอุปัชฌาย์ แต่ไม่ถึงขั้นอาบัติ เพราะถือว่าทำความผิดในฐานะพระอุปัชฌาย์ ส่วนกรณีที่พระอุปัชฌาย์ไม่รู้ว่าต้องโทษ แล้วหนีมาบวช ตรงนี้พระอุปัชฌาย์จะไม่มีความผิด แต่เมื่อรู้แล้วจะต้องให้ลาสิกขาทันที

นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีผู้ที่หนีคดีแล้ว มาบวชค่อนข้างมาก ส่วนใหญ่จะเป็นกรณีที่พระอุปัชฌาย์ไม่ทราบ พอทราบก็ให้ลาสิกขาทันที การที่หนีคดีแล้วมาบวช ไม่ใช่ว่าจะพ้นผิด บางคนอยากบวช เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ผู้ที่ถูกกระทำ ซึ่งตรงนี้อยากบอกว่าในฐานะชาวพุทธ ต้องเข้าใจว่ากระทำความผิดระดับใด ไม่สามารถไปบวชได้ แม้จะสำนึกผิด และอยากใช้ศาสนาเป็นที่พึ่ง แต่ขอให้รับโทษทางกฎหมายให้จบก่อน เมื่อรับโทษจบแล้ว อยากจะสร้างบุญให้กับผู้ที่ถูกกระทำ สามารถไปบวชทีหลังได้ ตรงนี้ต้องเข้าใจ และลำดับขั้นตอนให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด

ขอบคุณ คมชัดลึก