ย้อนบทสัมภาษณ์ แตงโม เคยเล่าไม่ลงรอยกับแม่มานาน 10 ปี แม่แยกทางกับพ่อตั้งแต่ 3 ขวบ

ย้อนบทสัมภาษณ์ แตงโม เคยเล่าไม่ลงรอยกับแม่มานาน 10 ปี แม่แยกทางกับพ่อตั้งแต่ 3 ขวบ

ย้อนบทสัมภาษณ์ที่ แตงโม นิดา และ แม่แตงโม เคยออกรายการด้วยกันเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้วมาให้อ่านกัน

คุณพ่อ คุณแม่แยกทางกันตั้งแต่ 3 ขวบ

แตงโม ใช่ค่ะ ตอนนั้นถามว่ารู้ไหม ก็ยังงงๆ ก็จะพอทราบอยู่ว่าคุณพ่อ คุณแม่มีปากเสียง สักพักก็จะคิดว่าทำไมเหลือแต่คุณพ่อคนเดียว จนโตขึ้นมาหน่อยถึงรู้ว่าคุณพ่อ คุณแม่แยกทางกัน ตอนที่อยู่กับคุณพ่อ อย่างที่หลายๆ คนเห็น คุณพ่อเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว ลองผิด ลองถูกด้วยตัวเอง คุณพ่อพยายามเติมเต็มให้เรา เพราะว่าเราไม่ได้อยู่กับคุณแม่ แต่บางเรื่องที่เป็นเรื่องผู้หญิง เช่น เรื่องของประจำเดือน คุณพ่อก็ยังยกให้เป็นหน้าที่ของคุณแม่อยู่ในเรื่องของการปรึกษาอะไรพวกนี้

ตอนเด็กเราอยู่กับพ่อจริง แต่เรายังคุยกับคุณแม่ตลอด

แตงโม ใช่ค่ะ เขาจะตกลงกัน เสาร์-อาทิตย์ ไปอยู่กับคุณแม่ ปิดเทอมไปอยู่กับคุณแม่ วันธรรมดาก็จะอยู่กับคุณพ่อ

แล้วช่วงที่ขาดการติดต่อกับคุณแม่ไป ช่วงวัยไหน

แตงโม น่าจะเป็นช่วงที่เข้าวงการมาแล้วสักพัก ที่ห่างกับคุณแม่เพราะว่าตอนนั้นคุณแม่ก็มีครอบครัวด้วย คุณแม่แต่งงานกับคุณท่านนึง ซึ่งเราเองก็อยากให้เกียรติด้วยที่จะไม่เอ่ยถึงเขา เพราะว่าเขาเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว

แล้วทำไมตอนเด็กๆ ถึงย้ายบ้านหนีแม่

แตงโม คุณแม่มีครอบครัวใหม่ ตัวโมเองก็ทำงานค่อนข้างเยอะมากๆ เพราะฉะนั้นโอเค เราต่างคนต่างอยู่ดีกว่า คือเราคิดเอง เราไปดีกว่า โดยที่ไม่ได้บอกอะไรคุณแม่เลย ตอนนั้นเป็นช่วงที่ตัวโมเองยังเป็นวัยรุ่นที่ยังคิดไม่ได้ รู้สึกว่าคุยกันทีไรไม่ค่อยรู้เรื่อง ทัศนคติไม่ค่อยลงรอยก็เลยหนี

ตอนเด็กที่เราหนีแม่ไปกับพ่อ มีแอบคิดไหมว่าแม่ไม่รักเรา

แตงโม อันนี้เป็นปมตั้งแต่เด็กๆ เลย ด้วยความที่คุณแม่มีพี่ชายมาก่อน แต่คนละคุณพ่อกัน เราจะคิดว่าคุณแม่รักพี่ชายมากกว่า เพราะว่าเขาเป็นลูกคนแรกและเป็นลูกชาย เรามีความรู้สึกว่าทำไมคนสองคนมีลูก แต่ทำไมไม่ยอมดีกันเพื่อลูก เรามีความรู้สึกว่าทำไมผู้ใหญ่สองคนนี้เขาไม่ได้รักเราจริงเหรอ ถ้าเขารักเราจริง เขาต้องทนอยู่กันได้เพื่อลูก อันนี้คือความคิดของตอนที่เป็นเด็ก แต่พอเราโตขึ้นมาพอที่จะรู้ความแล้ว เริ่มมีแฟน ได้ประสบการณ์ความรักของตัวเอง และจากการที่เรามีลูกเอง เราขะเข้าใจแม่มากขึ้นเรื่อยๆ

แม่รู้ไหม ตอนเด็กๆ เขาคิดแบบนี้

แตงโม รู้ๆ แต่แม่ไม่อยากทำลายครอบครัว คือคุณพ่อรักเขามาก ดูแลทุกอย่างไปรับ ไปส่งกองถ่าย เขาอยู่กับพ่อก็ดีกว่าไปอยู่กับคนอื่น เราก็ปล่อยเขาไป แต่ขอแค่เราตามให้เจอ แค่นั้น

นานขนาดไหนที่พี่โมกับคุณแม่ แยกออกจากกัน ไม่ติดต่อกันเลย

แตงโม เคยเกินปีนะ 3 ปีเคยมี

แล้วมันกลับมารักกัน สนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่

แตงโม สมัยก่อน เราก็กำหนดไว้ชัดเจนว่าเราอยู่กับพ่อ เจอกับคุณแม่เป็นบางครั้ง มีอยู่ช่วงนึงประมาณ 1-2 ปีที่แล้ว โมไม่สบายมากๆ คือโมเป็นซึมเศร้าหนักมากในช่วงที่คุณพ่อก็เพิ่งเริ่มป่ว ย แล้วโมมีเรื่องส่วนตัวที่โมเจ็บหนักมาก และเสียใจมาก ไม่สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง โมก็เลยไปโรงพยาบาล อยู่ในวอร์ดจิตเวชประมาณ 7 วัน โมรู้สึกว่าอยู่ในนั้นคล้ายๆ อยู่ในคุ กดีๆ นี่แหละ ทุกอย่างสื่อสารกันไม่ได้ ห้ามคนไข้คุยกัน แล้วมีความรู้สึกว่าตอนนั้นไม่รู้สึกอะไร อยากโทรหาคุณแม่ อยากบอกคุณแม่ว่าเราไม่สบายนะ เพราะว่าคุณพ่อก็มาเยี่ยมทุกวันอยู่แล้ว แต่ว่าแม่ยังไม่รู้เลยว่าลูกตัวเองเป็นอะไร เพราะฉะนั้นขอคุณพี่พยาบาลว่าขอโทรหาคุณแม่หน่อย โมจะบอกไว้เลยว่าใครบ้างที่โมจะให้เข้าเยี่ยม แล้วใครบ้างที่โมจะรับสายหรือโทรออก โมก็โทรหาคุณแม่ บอกคุณแม่ว่าน้องไม่สบาย

แสดงว่าชีวิตเราเพิ่งจะเปลี่ยนได้ 2-3 ปีนี้เอง

แตงโม ใช่ค่ะ เพิ่งกลับมาสนิทกับคุณแม่ เมื่อก่อนเหมือนสนิทกันในความรู้สึกแม่ ลูก รู้ความเป็นมา เป็นไปของกันและกันแบบห่างๆ แต่ไม่ลึกมากเท่ากับ 2-3 ปีที่ผ่านมาคือในช่วงปลดล็อกที่โมอยู่โรงพยาบาล และอีกครั้งเป็นช่วงที่คุณแม่มาหาตอนที่คุณพ่อไม่สบาย คุณแม่มาอยู่กับคุณพ่อแทบทุกวัน แล้วโมมีความรู้สึกว่านี่แหละภาพที่โมอยากเห็น แล้วสุดท้ายคนที่เคยรักกัน เขาเป็นห่วงเป็นใยกัน แล้วโมรู้สึกว่ามันมีวาระของมันที่จะเกิดในสิ่งที่เราอยากให้เกิด

ถ้าพ่อเห็นช็อตนี้ที่โมมาออกรายการกับคุณแม่ คิดว่าคุณพ่อรู้สึกยังไง

แตงโม พ่อยิ้มอยู่ข้างบนแน่ๆ เพราะว่าไม่ว่าจะไปอยู่กับใครก็ตาม สุดท้ายก็ไม่น่าไว้ใจเท่าแม่เราเอง รู้สึกว่าหมดพ่อไปแล้ว ก็มีคุณแม่กับคุณลูกที่ต้องอยู่กันสองคน ใช้ชีวิตต่อไปให้ได้อย่างมีความสุข

มีอะไรอยากจะบอกคุณแม่คนนี้ไหม

แตงโม สำหรับน้องแล้ว เรื่องที่ผ่านมาทั้งหมด น้องจำไม่ได้แล้ว น้องลืมทุกๆ ความรู้สึกไม่ดี น้องเคลียร์ทุกความรู้สึกไม่ดีออกจากใจหมดแล้ว ตอนนี้น้องคิดได้แล้วจากการจากที่น้องมีลูกเอง ถึงแม้ไม่ได้อุ้มท้องมา แต่น้องรู้ว่าการเลี้ยงลูกอ่อนมันต้องทะนุถนอมมากๆ แล้วสิ่งที่ขาดไม่คือเราเป็นสายเลือดเดียวกัน เหมือนที่คุณแม่มีน้องขึ้นมาตอนที่คุณพ่อกับคุณแม่ยังไม่พร้อม แต่คุณแม่ก็อยากมีน้อง และให้น้องมาถึงทุกวันนี้ ขอบคุณมากๆ ที่แม่ไม่เคยไปไหน น้องหันไปก็เจอคุณแม่ทุกครั้ง ขอให้คุณแม่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ