เรียกว่ายังคงเป็นประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจและจับตาว่าท้ายที่สุดแล้วบทสรุปของคดีจะจบลงอย่างไร กับกรณีคดีของ แตงโม นิดา นักแสดงสาว จากเหตุการณ์พลัดตกเรือสปีดโบ๊ทกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ขณะล่องเรืออยู่กับเพื่อน 5 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ กระติก เพื่อนสนิทและเป็นผู้จัดการส่วนตัว

สำหรับตัวกระติก ตกเป็นผู้ต้องสงสัยถึงสาเหตุของการจา กไปของแตงโม เนื่องจากวันเกิดเหตุ เจ้าตัวกลับไม่อยู่ให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ในการค้นหา ซ้ำยังมีกระแสข่าวว่าพยายามปิดข่าว

และดูไม่แสดงอาการเสียใจต่อการจากไปของเพื่อน จนถูกโซเชียลจับพิรุธว่า การล่องเรือครั้งนี้ เป็นการหลอกไปรับงานเอนหรือไม่ หรือว่าคดีแตงโมเกิดขึ้นเพื่อหวังมรดก เนื่องจากแตงโมได้รับเอาบุตรสาวของกระติกมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม

ทั้งนี้ เมื่อย้อนกลับไปตอนที่แตงโม นิดา ให้สัมภาษณ์ผ่ายรายการโหนกระแส ทางช่อง 3 เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2564 แตงโมให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องชีวิตที่ไร้งานจากพิษทำสวย รวมถึงปัญหาชีวิตหลังเสียคุณพ่อ ซึ่งแตงโม เปิดเผยว่า ในตอนนั้นหลังคุณพ่อไม่อยู่ ทำให้บ้านเหมือนกับล้มละลาย เพราะไม่มีงาน ไม่มีเงิน สืบเนื่องจากปัญหาหน้ าผิดรูป จนไม่กล้ารับงานแสดง เพราะเกรงใจผู้ใหญ่ หากรับไปแล้วทำงานได้ไม่ดี

โดยแตงโม เผยว่า ถึงขนาดไม่ออกจากบ้านเลยเป็นปี ต้องใช้เงินเก็บ ใช้เงินลูก และขายรถตู้คู่ใจที่ใช้ทำงานมาเป็นสิบปี และตอนนั้นทั้งบ้านมีเงินเก็บเหลือไม่ถึง 2 ล้านบาท แต่เป็นหนี้บ้านกับธนาคารอยู่ 10 ล้าน เพราะเพิ่งมารู้หลังพ่อไม่อยู่ว่า ที่ผ่านมา ที่ทำงานผ่อนบ้านนั้น จ่ายไปแค่ดอกเท่านั้น

ล่าสุด (1 มีนาคม 2565) ฮิปโป ฉันท์ชนะ เปิดเผยผ่ายรายการดราม่าวันนี้ ว่า แตงโมได้ประกันอุบัติเหตุคุ้มครอง 1 ปี จากรายการที่เคยไปออก ซึ่งพบว่าได้มีการเซ็นยกเงินประกัน 1 ล้านบาท ให้ลูกกระติกเป็นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ และตอนนี้ประกันยังไม่หมดอายุด้วย

อย่างไรก็ตาม หลังมีข้อมูลดังกล่าวเกิดขึ้น ทางแม่ของแตงโม กล่าวผ่านรายการว่า ตนเองคาใจเรื่องนี้ หรืออาจเป็นเพราะเหตุนี้หรือไม่ จึงทำให้ลูกสาวเสีย ก่อนทิ้งท้ายว่าจะไปตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะมีสิทธิ์ที่จะร้องถอนประกันนี้ได้ในฐานะแม่

เรียบเรียงโดย ทีมงาน siamnews