นุ๊กซี่ ซึ้ง พี่ปู ไม่ทิ้ง เป็นรักแท้ในวันที่ป่วย
เรียกได้ว่าดูแลกันดีมากๆ สำหรับคู่รัก นุ๊กซี่ กับ ปูล่าสุด เล่าความทรมาน ปวดหัวหลังฉีดวัคซีน ก่อนพบเชื้อมะเร็งลามสมอง แต่มีขนาดเล็กมาก คีโม 10 ครั้งน่าจะเอาอยู่ ตกใจขาลีบจากการนอนป่วยบนเตียง 2 อาทิตย์ ยังเดินตอนนี้ไม่ได้ ซึ้งปู แบล็คเฮด เป็นแฟนที่อดทน คาดไม่ถึงจะพบรักแท้ในวันที่ป่วย
กลับมาตรวจพบมะเร็งจนต้องเข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง สำหรับสาว นุ๊กซี่ อัญพัชญ์ วัฒนาตันติรัตน์ แฟนสาวของร็อกเกอร์รุ่นใหญ่ ปู แบล็คเฮดอานนท์ สายแสงจันทร์ ซึ่งล่าสุดทั้งคู่ได้มาร่วมงานแถลงข่าว โครงการบันทึกพิชิตมะเร็ง ณ True digital Park สาวนุ๊กซี่ซึ่งมาพร้อมวีลแชร์ก็เผยว่าอาการครั้งนี้เริ่มมาจากที่ตนได้ไปฉีดวัคซีนโควิด กลับมาจึงเริ่มมีอาการปวดหัว
นุ๊กซี่ นุ๊กอยู่โรงพยาบาลประมาณ 10 กว่าวัน จริงๆ ควรฉายแสงประมาณ 30 ครั้งนะคะ แต่ของนุ๊ก 10 เพราะก้อนมันเล็กมาก เลยแค่ 10 ครั้ง จะบอกว่ามันไม่น่ากลัวเลยค่ะ 5 นาที ไม่เจ็บ ไม่ปวด และชิลมาก ก่อนที่นุ๊กจะเข้าไปฉายแสงนุ๊กมีปวดหัวก่อน คือวันนั้นนุ๊กกับพี่ปูไปฉีดวัคซีนมา วันนั้นนุ๊กก็ไม่ค่อยสบาย แต่อยากฉีด พอกลับมาก็ปวดหัว หลังจากนั้นอีกอาทิตย์นึงก็ปวดหนัก พอหาหมอก็บอกว่าเหมือนมะเร็งขึ้นไปกระจายที่สมอง แต่เล็กมากๆ สามารถฉายแสง 10 ครั้ง และคุมได้ นุ๊กก็เลยอยู่โรงพยาบาล เพราะว่านุ๊กมีอาการปวดหัว คุณหมอต้องให้ยาลดบวมสมอง
ตอนนั้นคิดว่าน่าจะเป็นมะเร็งอยู่แล้ว เพราะเราเป็นอยู่แล้ว มะเร็งเต้านมถ้าจะลามก็จะมีปอด กระดูก ตับ สมอง แต่นุ๊กคิดในใจว่าถ้าเป็นมะเร็งเราจะรู้สึกว่าโอเคกว่าที่จะเป็นที่สมอง เพราะเราไม่อยากเป็นอีกโรคนึง ก็เลยกลับไปที่โรงพยาบาลที่เรารักษา คุณหมอก็วินิจฉัยได้ง่ายขึ้น สุดท้ายคือมันเล็กมากๆ กระจายไม่ได้เยอะมาก 10 ครั้งก็น่าจะคุมได้ ถามว่าเป็นผลมาจากที่ฉีดวัคซีนไหม อันนี้ไม่แน่ใจ แต่มันเริ่มต้นจากตรงนั้นค่ะ เพราะก่อนหน้านั้นไม่เคยปวดหัวเลย
เอาจริงๆ ก็ยังไม่สามารถจะตอบได้ชัดเจน แต่นุ๊กคิดเองว่ามันมีสิทธิ เพราะมันคือการกระตุ้นภูมิ ก็เลยคิดว่าถ้าเกิดมันกระตุ้นตั้งแต่ยังเล็กก็ดี คือมันก็เจอเร็วและรีบคุมมัน ก็ต้องติดตามไปเรื่อยๆ เพราะถ้ามันมีจุดอื่นหรือเพิ่มเติมก็ค่อยว่ากัน ใจนุ๊กก็ไม่ได้แป้วหรอกค่ะ แต่มันทรมาน เพราะปวดหัวมาก แต่พอตอนนี้ไม่ปวดแล้วก็ไม่ได้กังวลขนาดนั้นนะคะ แต่เราก็คงต้องติดตามอาการไปเรื่อยๆ เพิ่งจะให้คีโมไป 18 ครั้งเมื่อเดือนธันวาคม แต่เดือนนี้ก็ต้องฉายแสง แต่ก็ยังชิลได้อยู่ค่ะ
อาการแพ้ไม่มีเลยค่ะ นุ๊กคิดในใจว่าถ้าอ้วกก็อาจจะแพ้ท้องก็ได้ คือคิดซัปพอร์ตจิตใจไปก่อน (หัวเราะ) เราก็เลยไม่ค่อยกังวลมากค่ะ นุ๊กก็คิดว่าน่าจะโชคดี เพราะเราไม่ได้อ้วกมาก และไม่ค่อยมีอาการแพ้คีโมอะไรเลย แต่นุ๊กไม่ค่อยไปกังวลกับมัน ไม่ได้โฟกัสเรื่องของการเจ็บป่วย แต่ตอนนี้ไม่มีต้องให้คีโมแล้วค่ะ มีแค่ต้องฟอลโลว์อาการอย่างเดียว
ปู ก็ต้องคอยดูแลครับ เพราะอยู่ด้วยกันสองคน ถ้าเกิดเขาแสดงอาการใดๆ ถ้าเราไม่ได้อยู่ข้างๆ ไม่ได้สังเกต เวลาไปหาหมอก็จะเล่าอะไรให้หมอฟังไม่ได้ว่ามันมีอะไรบ้าง สมมติถ้าปวดหัว ปวดขนาดไหน อ้วกทั้งคืนไหม กินข้าวได้ไหม พวกนี้เราต้องรู้ครับ มีวิธีการเอาใจยังไงเหรอ ก็ตอนที่คีโมเขายังแข็งแรงอยู่นะ ไม่แพ้ ไม่แสดงอาการอะไรมาก แต่พอมาเป็นตรงนี้มันทำอะไรไม่ได้ จะปวดหัวมากๆ ทานอะไรไม่ได้ เพราะคนเราถ้าป่วยทานอะไรไม่ได้มันน่ากลัว เราก็พยายามหาอะไรให้เขาพอจะกระเดือกลงไปได้ไหม (หัวเราะ) อันนี้กินยาก อันนี้น่าจะกินง่ายกว่า ก็พยายามหาอะไรที่เคี้ยวง่ายๆ และกลืนลงไปให้มันมีสารอาหารบ้าง เพราะกินน้ำอะไรก็ออกมาหมดเลย เป็นอยู่เกือบอาทิตย์ที่กินอะไรไม่ได้เลย แต่พอได้ยาลดบวมที่สมองก็พอทานได้บ้าง ต้องดูตามอาการครับ
ถ้าเราอยู่ข้างๆ จะรู้เลยว่าเขากังวลไหม เพราะขนาดเวลาเขาหลับก็ยังเห็นสีหน้าเขาแสดงออกมานะ เขาปวดหัว ก็จะมีคิ้วขมวด เราต้องสังเกต ฉะนั้นเราจะหลับยากมาก นอกจากเราจะเพลียหลับไปเอง พอสักพักเขาตื่นเพราะหิว เราก็ต้องตื่น เพราะฉะนั้นคนที่ต้องดูแลคนไข้ก็ต้องแข็งแรง ต้องมีสติมากๆ ด้วย
นุ๊กซี่ ไม่เคยคิดว่าเราจะได้ใช้พี่ปู แบล็คเฮดทั้งวัน ทั้งคืนขนาดนี้ หลับๆ อยู่ก็สะกิดบอกว่าเขาปวดฉี่ตอนตี 3 คือนุ๊กเรียกเขาทั้งคืนเลย รู้สึกสะใจมาก (หัวเราะ)
นุ๊กซี่ : “นุ๊กว่าเราสองคนไม่ได้พยายามคิดว่าเราเป็นคนป่วย คือถ้านุ๊กไหวก็จะให้เขารู้ว่าเราไหว มันเป็นสิ่งที่ดีนะคะ แต่เมื่อไหร่ที่เราเจ็บปวดจริงๆ เราก็อย่าฝืน พี่ปูเขาจะไม่ทำให้นุ๊กดูเหมือนคนป่วย นี่คือสิ่งที่ดีมากๆ เพราะว่าคนป่วยทุกคนจริงๆ ก็ไม่ได้อยากให้ใครมามองเราเป็นคนป่วยเหมือนกัน แต่เมื่อไหร่ที่เราต้องการกำลังใจจากคนข้างๆ ก็ต้องขอนะคะ เพราะมันสำคัญมาก แค่ 1 นาทีที่ได้เติมให้กันมันพอแล้ว และมันต่อชีวิตไปได้เรื่อยๆ วันต่อวัน นุ๊กรู้สึกว่าการป่วยของนุ๊กทุกอย่างมันสู้วันต่อวัน และไม่มีอะไรน่ากลัวค่ะ
บอกมีพยาบาลคอยช่วยดูแลตอนตนติดงาน ตอนนี้สนิทจนเป็นเพื่อนไปแล้ว
ปู ล่าสุดผมต้องไปต่างประเทศพอดีเมื่อวันวาเลนไทน์ พอเอาดอกไม้ให้เขาเสร็จอีกวันผมก็ต้องไปพนมเปญ ก็ต้องหาพยาบาลมาดูแล คือเป็นช่วงที่โรงพยาบาลไม่สามารถให้คนไข้อยู่คนเดียวได้ ต้องมีผู้ดูแลเท่านั้น ถ้าไม่มีญาติก็ต้องหาพยาบาลดูแล ก็โชคดีที่พยาบาลที่นั่นน่ารักมาก จะมีสับเปลี่ยนกันมาดูแล เลยโชคดีที่ว่าเราอยู่ด้วยกันมาจนค่อนข้างสนิทสนมกับผู้ดูแลเหล่านั้น อยู่กันจนเหมือนเพื่อนไปแล้ว แต่ถ้าวันไหนที่ผมมีงานเยอะๆ จริงๆ ก็ต้องดู คือที่บ้านคุณแม่ของนุ๊กและครอบครัวผมก็อยู่ใกล้ๆ กัน เขาก็ยินดีและพร้อมที่จะมาดูแลนุ๊กอยู่แล้วครับ”
เผยนอนอยู่บนเตียงอย่างเดียวเกือบ 2 อาทิตย์ ทำให้ขาเริ่มลีบ ยังเดินไม่ถนัด ปู ที่ยังต้องนั่งรถเข็น เพราะเขายังเดินไม่ได้ครับ เพราะนอนไป 10 กว่าวันไม่ได้ลงจากเตียงเลย ก็เลยจะเดินไม่ค่อยได้ แรงไม่ค่อยมี เดินแล้วเหนื่อย เพราะมีการฉายแสง มีการทานยา มีการฉีดยา พอปวดมากก็ต้องฉีดมอร์ฟีน ก็เลยยังคอนโทรลไม่ค่อยได้ ตอนนี้ก็ยังเวียนหัวอยู่ บาลานซ์ยังไม่ค่อยได้ครับ จริงๆ คุณหมอให้กายภาพครับ
นุ๊กซี่ ก็หลังจากที่เรานอนอยู่บนเตียงมา 10 กว่าวัน ไม่เคยรู้ว่าแค่นั้นมันไม่สามารถทำให้เรายืนเองได้ถนัด ขานี่คือลีบเลย ตกใจมาก ไม่คิดว่าแค่ 2 อาทิตย์มันจะขนาดนี้ คุณหมอบอกว่าต้องใช้เวลา และนี่เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาลเมื่อวันศุกร์ ก็เลยยังไม่ค่อยฟื้นตัวเท่าไหร่
สุดประทับใจ แม้ต้องฉลองวาเลนไทน์ที่โรงพยาบาล
นุ๊กซี่ วันนั้นนั่งเขียนแคปชั่นอยู่ เขาก็เดินออกไปข้างนอก ไม่รู้ไปไหน เราก็นั่งเขียนน้ำตาซึมอยู่ พอเขาเดินมาพร้อมดอกไม้ คือปกติเราก็ไม่ได้หวานกันขนาดนั้น อาจจะเพราะช่วงจิตใจและร่างกายเราอ่อนแอ พอเห็นดอกไม้เข้ามาแค่นี้ก็มีความสุขมากแล้วค่ะ ต้องมาฉลองกันที่โรงพยาบาล เป็นวาเลนไทน์ที่รู้สึกได้ว่าถึงจะป่วย แต่ก็มีคนรักอยู่ข้างๆ มันเป็นวาเลนไทน์ที่ซึ้งมากได้มีเขาอยู่ข้างๆ
พอนุ๊กป่วยมาและได้มีเขาดูแล นุ๊กไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เจอรักแท้ตอนที่เราป่วย พอเรามีคนที่รักอยู่ข้างๆ จริงๆ รู้สึกว่ามันคือสิ่งที่ดีที่สุดของนุ๊กเลย โชคดีมากจริงๆ ที่มีเขาค่ะ ไม่เคยคิดเลยว่าคนที่ฉันชอบตอนเด็กๆ วันนี้เป็นแฟนฉัน และเป็นคนที่ดูแลฉันในวันที่ฉันป่วย (หัวเราะ) มันที่สุดแล้วค่ะ โชคดีมากค่ะ เอาจริงๆ แค่เรามีแฟนแล้วเราป่วย เรายังคิดเลยว่าเขาจะทิ้งเราไหม แล้วยังเป็นแฟนปู แบล็คเฮด แต่เขาไม่ทิ้งเรา นุ๊กดีใจมาก มันไม่ใช่แค่มีแฟนเป็นดารา แต่เขาคือคนที่รักเราจริงๆ และเราก็รักเขามากๆ เหมือนกัน หนูขอบคุณเขาจนไม่รู้จะขอบคุณยังไง
ปู จริงๆ มันเป็นจุดมุ่งหมายของคนที่เจ็บป่วยก็คืออยากแข็งแรงขึ้น เรื่องที่จะหายขาดเราก็ต้องติดตามไปเรื่อยๆ ตามอาการ แต่อย่างน้อยที่สุดในทุกๆ วันเราอยากให้เขามีอาการที่ดีขึ้น การดูแลมันเลยไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไร เพราะวันนึงที่เขาไม่มีสติเลย หลับทั้งวันประมาณ 3-4 วัน อยู่มาวันนึงแค่เขาลืมตาขึ้นมาแล้วบอกว่าหิว แค่นั้นเราก็รู้สึกว่าสิ่งที่เราตั้งใจมันใหญ่มาก แค่นี้ก็โอเคแล้ว พอมันดีขึ้นเรื่อยๆ เราก็จะเห็นเองว่าประสิทธิภาพของการดูแลใกล้ชิดมันดียังไง
ตอนที่เขายังไม่ตื่นเราก็ลุ้นทุกอย่าง พอจับที่หัวแล้วเขามีอาการว่าปวด เราก็จะรู้แล้วว่าอาการไม่ค่อยดี เราจะลุ้นไปทุกอย่าง แล้วนุ๊กเองเขาก็จะไม่ค่อยบอกหมด บางทีบอกปวดแต่บอกไม่เป็นไร นิดหน่อย เขาก็จะพยายามซึ่งกันและกันนะ พยายามไม่ให้อีกฝ่ายหนักใจมาก ไม่งั้นมันจะสะเทือนใจไปด้วยกัน และพากันห่อเหี่ยวไป บางทีก็ต้องมีลูกล่อลูกชนซึ่งกันและกันในการสร้างกำลังใจให้กันและกันครับ”
นุ๊กซี่ ตอนนี้อาจจะสลับกันกลายเป็นเขาดูแลนุ๊ก เมื่อก่อนเขาอาจจะคิดว่าให้นุ๊กมาดูแลเขาตอนแก่ (หัวเราะ) แต่เราดันมาป่วยก่อน ก็ผลัดกันค่ะ นุ๊กคิดว่าหลังจากนี้ถ้าไม่มีอะไรก็ไม่มีอะไรต้องห่วง ถ้ากลับบ้านหลังจากนี้ก็ไม่น่าจะต้องมีคนดูแลหรืออะไรขนาดนั้นแล้วถ้ายังไม่ป่วยนะคะ
ปู : ก็ยังไม่อยากให้ใครเข้ามาในบ้านเยอะหรอกครับ (หัวเราะ) น่ากลัว
ขอบคุณ mgronline