ค้น กุฎิ เจ้าคุณแจ๊ค รองคณะจังหวัด

ค้น กุฎิ เจ้าคุณแจ๊ค รองคณะจังหวัด

วันนี้ (18 ก.พ.) ที่ สภ.เมืองนครนายก เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.พิทักษ์ วาฤทธิ์ ผกก.2 บก.ปปป. นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และตัวแทนเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการ ล้างบาปปราบอลัชชี ทุจริตเงินทอนวัด ซึ่งภาพรวมของการเข้าตรวจค้นในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดโฉนดที่ดิน จำนวน 3 แปลง มูลค่ารวม 21 ล้านบาท เหล้า 3 ขวด ถุงยางอนามัย 1 ชิ้น และปืนบีบีกัน 1 กระบอก

พ.ต.อ.พิทักษ์ กล่าวว่า จากแนวทางสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าวพบว่า นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ให้ พระสิทธิวรนายก หรือ เจ้าคุณแจ๊ค เจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียน ที่สนิทสนมกันนั้น รวบรวมรายชื่อวัดที่จะรับเงินบูรณะซ่อมแซมจากทางสำนักพุทธศาสนา จำนวน 12 วัด ในงบประมาณ 123 ล้านบาท เมื่อได้รับการอนุมัติ พระสิทธิวรนายก ก็จะทำการเจรจากับเจ้าอาวาสวัดที่ได้รับเงินอุดหนุน ให้ถอนเงินสดออกมาทั้งหมดแล้วนำกลับมาคืน แล้วแบ่งเงินเพียงบางส่วนทอนให้วัดต่างๆ คืนไป ส่วนเงินที่เหลือ จำนวนประมาณ 110 ล้านบาท ก็จะนำไปแบ่งกับนายนพรัตน์

พ.ต.อ.พิทักษ์ กล่าวต่อว่า จากนั้นได้นำเงินจำนวนดังกล่าวยักย้ายถ่ายเทแปลงเงินสดและทรัพย์สินมีค่าอย่างอื่น เช่น ที่ดิน ซึ่งที่ดินส่วนใหญ่ที่ซื้อนั้นจะถูกซื้อในชื่อของ นางพัทธานันท์ เบญจวัฒนานันท์ ภรรยาของ นายนพรัตน์ และ น.ส.ณัฏฐาภรณ์ ทุน บุตรสาวของ นางพัทธานันท์ โดยมี พระสิทธิวรนายก เป็นผู้ดำเนินการจัดการให้ทุกอย่าง ด้วยเหตุนี้ทางพนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับนางพัทธานันท์ และ น.ส.ณัฏฐาภรณ์ ตามมา พร้อมตรวจยึดทรัพย์สิน ที่ดินต่างๆ ในส่วนของเจ้าอาวาสวัดต่างๆ ที่เหลืออีก 11 วัด ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญตัวมาในวันนี้ก็เพื่อสอบปากคำในฐานะพยาน มีเพียงพระสิทธิวรนายก ที่ถูกแจ้งข้อหา ตามความผิดในมาตรา 147,157,และความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน

ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า จากการสอบสวน พระสิทธิวรนายก เบื้องต้นให้การค่อนข้างเป็นประโยชน โดยรับว่าสนิทสนมกับนายนพรัตน์จริง และเป็นผู้ดำเนินการประสานวัดต่างๆ รับมอบเงินอุดหนุน แล้วเจรจาเอาเงินกลับคืน ก่อนจะนำไปซื้อที่ดิน ส่วนเงิน 110 ล้านบาทอ้างจำไม่ได้ว่า แบ่งให้นายนพรัตน์ไปเท่าไหร่ แล้วเอาไปทำอะไรบ้าง และไม่คิดว่าการนำไปซื้อที่ดินจะถือเป็นความผิด แต่ยอมรับว่าเป็นคนดำเนินการยักย้ายถ่ายเท จ่ายเงินเองจริง ส่วนเหล้า ถุงยางอนามัย และปืนบีบีกัน ที่ค้นเจอในกุฏิของพระสิทธิวรนายก นั้นจากการสอบถามอ้างว่าไม่ใช่ของตนเอง แต่เป็นของลูกศิษย์ในวัดนำมาเก็บไว้

ส่วน นายศรชัย กล่าวว่า สำหรับคดีทุจริตเงินทอนวัดที่ทาง ป.ป.ช. ดำเนินการตรวจสอบมานั้นมีทั้งหมด 108 คดี ชี้มูลความผิดแล้ว 42 คดี ส่วนที่เหลือส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการต่อ สำหรับภาพรวมความเสียหายจากการทุจริตเงินทอนวัด นับตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน ไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาท

รายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เชิญตัว พระสิทธิวรนายก หรือ เจ้าคุณแจ๊ค รองเจ้าคณะจังหวัดนครนายก เจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียน มามำการสอบปากคำพร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเสร็จสิ้นแล้วนั้น ก็ได้ทำการปล่อยตัวกลับไป โดยจะนัดหมายมาทำการสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้งในภายหลัง ส่วนการสอบปากคำเจ้าอาวาสวัดต่างๆ11 วัด นั้นเป็นการสอบปากคำในฐานะพยาน ซึ่งทั้งหมดให้การค่อนข้างเป็นประโยชน์และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ ให้การซัดทอดว่า พระสิทธิวรนายก เป็นผู้ให้ถอนเงินบูรณะซ่อมแซมวัด ที่ได้รับจากทางสำนักพุทธศาสนา ออกมาเป็นเงินสด แล้วนำกลับมาให้พระสิทธิวรนายก ก่อนจะแบ่งเงินเพียงบางส่วนทอนคืนกลับมาให้กับทางวัด โดยอ้างว่าจะต้องเอาเงินส่วนที่เหลือไปมอบให้สํานักพุทธเพื่อนําไปบริจาคให้กับวัดอื่นๆที่ยังขาดแคลนงบประมาณ

ทั้งนี้มีรายงานว่า ในส่วนของ 5 จุดที่ทำการตรวจค้นประกอบไปด้วยวัดเขาทุเรียน ต.เขาพระ อ.เมือง จ.นครนายก ,ที่ดิน ต.หินตั้ง อ.เมือง จ.นครนายก เนื้อที่รวม 7 ไร่ มูลค่า 17.5 ล้านบาท,ที่ดิน ต.หนองแสง อ.ปากพลี จ.นครนายก เนื้อที่ 3 ไร่ รวมมูลค่า 1.1 ล้านบาท, หมู่บ้านบุศรินทร์ บ้านเลขที่ 209/648 หมู่ 3 ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี (บ้านของนางพัทธานันท์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้ต้องหาตามหมายจับ) และหมู่บ้านแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด บ้านเลขที่ 108/1 ถ.ราชพฤกษ์ แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน จ. กรุงเทพฯ (บ้านของ น.ส.ณัฏฐาภรณ์ ทุน ผู้ต้องหาตามหมายจับ)

ขอบคุณ mgronline

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ