กรมอุตุฯแจงแล้ว เตือนภัยคลื่นความหนาว-พายุฤดูร้อนถล่ม หนักสุดใน 5 ปี

กรมอุตุฯแจงแล้ว เตือนภัยคลื่นความหนาว-พายุฤดูร้อนถล่ม หนักสุดใน 5 ปี

กรณีโลกออนไลน์มีการแชร์ส่งต่อข่าว ว่าจะมีคลื่นความหนาวจะแผ่ปกคลุมประเทศไทยทุกภาค และพายุฤดูร้อนถล่มกรุงเทพและปริมณฑล

และยังบอกด้วยว่าไม่มีพยากรณ์แบบนี้มาก่อนในรอบ 5 ปี ล่าสุดตรวจสอบแล้วโดย กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พบว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

เพจเฟซบุ๊ก Anti-Fake News Center Thailand เตือน ข่าวปลอม อย่าแชร์! คลื่นความหนาวจะแผ่ปกคลุมประเทศไทยทุกภาค และพายุฤดูร้อนกำลังจะเข้าถล่มกรุงเทพฯ กับปริมณฑล

ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อเกี่ยวกับประเด็น คลื่นความหนาวจะแผ่ปกคลุมประเทศไทยทุกภาค และพายุฤดูร้อนกำลังจะเข้าถล่มกรุงเทพฯ กับปริมณฑล

ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

จากกรณีที่มีข้อความบนสื่อออนไลน์กล่าวว่าคลื่นความหนาวจะแผ่ปกคลุมประเทศไทยทุกภาค และพายุฤดูร้อนกำลังจะเข้าถล่มกรุงเทพฯ

กับปริมณฑล ทางกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและชี้แจงว่า เป็นข่าวลือที่วนซ้ำในสื่อสังคมออนไลน์ และยังไม่มีการประกาศเตือนสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาแต่ประการใด

ทั้งนี้พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณหัวเกาะสุมาตรา ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ จะทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากทาง กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://www.tmd.go.th/index.php หรือโทร. สายด่วน 1182 และหมายเลขโทรศัพท์ 0 2399 4547 ตลอด 24 ชั่วโมง

บทสรุปของเรื่องนี้คือ :ไม่มีการประกาศเตือนสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา ถึงคลื่นความหนาวที่จะแผ่ปกคลุมประเทศไทยทุกภาค และไม่มีพายุฤดูร้อนที่กำลังจะเข้าถล่มกรุงเทพฯ กับปริมณฑล

หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

ขอบคุณที่มาจาก Anti-Fake News Center Thailand

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ