เมื่อวันที่ 13 ก.พ.65 มีรายงานว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง รายงานสถานการณ์ ผู้ต้องขัง ติดเชื้อ 305 ราย และในวันนี้ เพิ่มขึ้นมาอีก 204 ราย สะสมตั้งแต่พบรายแรกติดเชื้อ มาตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 จำนวน 719 ราย แล้ว จากการคัดกรองเชิงรุก พบผู้ต้องขังเสี่ยงสูงมากถึง 1,100 คน ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ตรวจหาเชื้อไปแล้ว 1,238 คน สำหรับสาเหตุของการติดเชื้อดังกล่าว

ภายในแดนกักขังของทัณฑสถานบำบัดพิเศษลำปาง ซึ่งเป็นสถานที่กักขังผู้ต้องโทษชาย ในคดียาเสพติด โดยถือว่าเป็นเรือนจำขนาดใหญ่ของภาคเหนือ ที่มักมีการเคลื่อนย้ายนักโทษจากหลายๆ

จังหวัดทั้งภาคเหนือ เข้ามาคุมขัง โดยคาดว่าจะเกิดการติดเชื้อมาจากนักโทษที่พึ่งย้ายเข้ามาภายในทัณฑสถานบำบัดพิเศษลำปาง ถึงแม้จะมีการให้ผู้ต้องขังกักตัว และตรวจเชื้อก่อนเข้าไปภายในแดนกักขังรวม

โดยมีผลเป็นลบ แต่ก็เกิดการระบาดจนได้ น่าจะเกิดจากเชื้อโอมิครอนที่หลบการตรวจหาเชื้อได้ดี จึงตรวจหาไม่เจอในรอบแรก กระทั่งเกิดการแพร่เชื้อลามภายในแดนกักขัง

ด้าน นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า สถาการณ์ภายในเรือนจำแห่งนี้ ขอยืนยันว่า ทางจังหวัด สามารถควบคุมการระบาดได้

โดยขณะนี้อยู่ในวงจำกัด โดยไม่แพร่ระบาดออกมาสู่ภายนอก และขอให้ชาวลำปางมั่นใจ ว่า ทางจังหวัดจะควบคุมโรคให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

การติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนคลัสเตอร์ผู้ต้องขัง ทัณฑสถานบำบัดพิเศษลำปาง แห่งนี้ ตามรายงานการสอบสวนโรค ทราบว่า วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 โรงพยาบาลห้างฉัตร

พบผู้ต้องขังมีผลตรวจเชื้อแบบATK เป็นบวก 10 ราย หลังมีอาการไข้ เข้ารับการรักษาภายในโรงพยาบาล ในทัณฑสถานบำบัดพิเศษลำปาง ทำให้ทีมสอบสวนโรคได้รุดลงพื้นที่

เพื่อประเมิณความเสี่ยงของผู้ต้องขังทั้งหมด ที่มีอยู่กว่า 1,000 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่ สำหรับทัณฑสถานบำบัดพิเศษลำปางแห่งนี้ มีการฉีดวัคซีนให้ผู้ต้องขัง คิดเป็นร้อยละ 99.90 คงค้างผู้ต้องขังที่รับย้ายมาใหม่ 1 คน ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน

อย่างไรก็ตาม นักโทษ คุกลำปาง ติดโควิดกว่า 700 ราย คาดต้นตอมาจาก ผู้ต้องขัง เข้าใหม่ ไม่ได้ฉีดวัคซีน