สามี สาวหลบใต้บันไดกุฏิเจ้าอาวาส เปิดใจ

สามี สาวหลบใต้บันไดกุฏิเจ้าอาวาส เปิดใจ

เหตุการณ์ช็อกวงการศาสนา เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 65 นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจนำทีมสื่อมวลชนบุกค้นกุฏิ พระครูปลัดประสาทพร มหาปุญโญ เจ้าอาวาสวัดบางหญ้าแพรก จ.สมุทรปราการ พระครูปลัดประสาทพรอ้างว่าไม่ได้ซ่อนสีกา แม้มีภาพวงจรปิดที่สีกาเดินเข้ามาหา

ก่อนพบผู้หญิงใส่ผ้าถุง ซ่อนตัวอยู่ใต้โต๊ะข้างบันได มียกทรงสีฟ้าตกอยู่ข้าง ๆ ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะคุมตัวเจ้าอาวาสออกไปทำการสึก ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาพบผู้หญิงใส่ผ้าถุง ซ่อนตัวอยู่ใต้โต๊ะข้างบันได มียกทรงสีฟ้าตกอยู่ข้าง ๆ ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะคุมตัวเจ้าอาวาสออกไปทำการสึก ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา

วันที่ 10 ก.พ. 65 ทีมข่าวโทรศัพท์พูดคุยกับนางสุวรรณ (นามสมมติ) หญิงที่ซุกกุฏิเจ้าอาวาส กล่าวว่า ตนไม่ได้มีความสัมพันธ์ กับเจ้าอาวาส โดยตนเป็นเพียงลูกศิษย์เท่านั้น สาเหตุที่เข้าไปในกุฏิของเจ้าอาวาสในเวลากลางคืน เพื่อนำเอกสารเกี่ยวกับการก่อสร้างภายในวัดไปให้เจ้าอาวาสเซ็น

จากนั้นก็ช่วยทำความสะอาดภายในกุฏิเจ้าอาวาส แล้วมีเหงื่อ จึงขึ้นไปอาบน้ำชั้นบน ระหว่างนั้นได้ยินเสียงดังโวยวายนอกกุฏิ ด้วยความตกใจจึงใส่ผ้าถุง หอบเสื้อผ้าวิ่งลงมาหลบที่ใต้โต๊ะข้างบันไดชั้นล่างด้วยความกลัว ส่วนเสื้อชั้นในสีฟ้าที่ตกอยู่ ไม่ใช่ของตน ไม่รู้ใครโยนมาใส่ไว้ตรงนั้น เพราะเสื้อชั้นในและเสื้อผ้าชิ้นอื่นก็อยู่ที่ตน

นางสุวรรณ กล่าวต่อว่า ตนคิดวางแผนคนเดียวในการหลบซ่อน ทางเจ้าอาวาสไม่ได้บอกให้ทำแบบนั้น และที่ผ่านมาเจ้าอาวาสก็ไม่เคยมีพฤติกรรมตามที่มีข่าว ส่วนที่ตนเข้าไปอยู่กัน 2 ต่อ 2 กับทางเจ้าอาวาส ก็ไม่อยากอธิบาย เพราะอธิบายไปก็ฟังไม่ขึ้น และจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ติดต่อเจ้าอาวาส เข้าใจว่าสาเหตุที่ท่านสึกเพราะมีภาพออกไป สร้างความแคลงใจให้สังคม ส่วนตนก็เครียดมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา เปิดเผยว่า กรณีที่สีกาคนดังกล่าวอ้างว่าได้ไปทำธุระ ได้ทำความสะอาดแล้วร้อนจึงเข้ากุฏิพระเพื่อจะอาบน้ำ ตนมองว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากที่ผ่านมาพบหลักฐานจากกล้องวงจรปิดว่าผู้หญิงคนนี้เข้ามาที่กุฏิพระหลายครั้ง เเละไม่ใช่เเค่ผู้หญิงคนนี้เพียงคนเดียว พฤติกรรมของอดีตเจ้าอาวาสเท่าที่ทราบมีผู้หญิงเข้ามาหาในลักษณะนี้ไม่ต่ำกว่า 5-6 คน ดังนั้นทั้งสีกาและอดีตเจ้าอาวาสควรพูดความจริงได้เเล้ว

หมอปลา กล่าวอีกว่า เมื่อปีที่เคยนำเสนอข่าวพระรูปนี้ว่าพระขายมะม่วงหาเงินมาชำระค่าน้ำค่าไฟ วันนี้ก็คงจะรู้แล้วว่าเงินนั้นไม่ใช่แค่ใช้จ่ายค่าน้ำค่าไฟ แต่เป็นค่าอย่างอื่นหรือไม่

ทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านนางสุวรรณ พบเป็นโรงงานอยู่ย่านบางพลี นายอนันต์ (นามสมมติ) สามีของนางสุวรรณ ซึ่งพูดในลักษณะวกไปวนมา อยู่ในอาการตาแ ด ง น้ำต าคลอตลอดเวลา ช่วงแรกปฏิเสธว่าภรรยาไม่ได้มีความสัมพันธ์กับเจ้าอาวาส เพราะปกติภรรยาไปทำบุญที่วัดเป็นประจำมานานเกือบ 10 ปีแล้ว ส่วนใหญ่จะไปกับตัวเองและลู ก ๆ แต่ก็มีบางครั้งที่ไปคนเดียว แต่ไปในช่วงกลางวัน ไม่เคยไปตอนกลางคืน

เมื่อทีมข่าวถามย้ำว่านางสุวรรณเข้าไปทำอะไรในกุฏิเจ้าอาวาสเมื่อคืนที่ผ่านมา นายอนันต์ บอกว่า ผู้หญิงที่อยู่ในกุฏิเจ้าอาวาสไม่ใช่ภรรยาของตน น่าจะเป็นลูกศิษย์ที่อยู่แถวละแวกวัด โดยเมื่อคืนนี้ภรรยาออกไปทำธุระข้างนอก กลับมาบ้านในเวลาประมาณ 22.00 น. ยังมาดูในคลิปด้วยกันว่าผู้หญิงคือใคร ซึ่งตนก็เทียบลักษณะผิวพรรณ และขนาดตัวแล้ว เชื่อว่าหญิงในคลิปไม่ใช่ภรรยาของตัวเอง

โดยทีมข่าวแจ้งว่านางสุวรรณยอมรับว่าเป็นตัวเองแล้ว ด้านนายอนันต์กล่าวว่าตัวเองไม่รู้เรื่องนี้ ทีมข่าวถามต่อว่าหากเป็นภรรยาตัวเองจริงจะทำอย่างไร นายอนันต์ระบุว่า ต้องพูดคุยกันก่อน แต่ส่วนตัวไม่เชื่อว่าจะเป็นแบบนั้น

คลิป

ขอบคุณ ขอบคุณ ภาพและข่าวจาก Amarin

ล่าสุด นางต้อย (นามสมมติ) หญิงที่แอบอยู่ใต้บันไดในกุฎิพระ ซึ่งอยู่ในลักษณะ ขดตัวคุดคู้อยู่ใต้บันได มีจีวรคลุมตัวอำพราง และใกล้กันพบชุดชั้นใน สีฟ้าตกอยู่ข้างๆ เมื่อวานนี้ (10 ก.พ.) นางต้อยเปิดใจทางโทรศัพท์ ว่า ตอนนี้เครียดมาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เป็นไปตามที่สังคมเข้าใจ

ในวันเกิดเหตุ ตนนำเอกสารไปให้หลวงพ่อเซ็นต์ แต่ระหว่างจะกลับ ก็ได้ยินเสียงโวยวาย และเกิดการบุกเข้ามา ตัวเองจึงไปแอบที่ใต้บันได และเอาจีวรคลุม เมื่อแอบตัวอยู่ตรงนั้น แล้วคนมาเจอ ตอนนั้นตกใจมาก เพราะคนเจอ และทุกคนมุ่งเป้ามาที่ตน จากนั้นไม่รู้ว่า ชุดชั้นในที่ตกอยู่ในนั้นเป็นของใคร และมาจากไหน แต่ไม่ใช่ของตนเอง เธออ้างว่า ช่วงที่ชุลมุน ชุดชั้นในนี้เหมือนมีการโยนมาหรือเอามาวางไว้ ซึ่งไม่ใช่ของตนเองแน่นอน เพราะตอนที่ตนถูกนำตัวออกมาจากกุฎิชุดชั้นในก็ยังใส่อยู่ครบ

และอีกอย่าง ตนอายุเยอะแล้วไม่ใส่เสื้อชั้นในแบบนี้ โดยส่วนตัวเชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการกลั่นแกล้งหลวงพ่อ เพราะในวัดนี้ มีคนไม่ชอบหลวงพ่อหลายคน และพยายามทำให้หลวงพ่อพ้นจากวัด ส่วนตัวนี้เครียดมาก ตนมีครอบครัวและลูก ทุกคนรู้ข่าวก็ตกใจ แต่ทุกคนรู้ว่าตนไม่ได้ทำไม่ดีในกุฎินั้น ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ หรือกระทำการไม่เหมาะสม แค่นำเอกสารไปให้หลวงพ่อ เมื่อถามถึงการนำเอกสารไปให้หลวงพ่อ ทำไมจึงไปในยามวิกาล ซึ่งเป็นเวลาที่พระเข้ากุฎิแล้ว นางสาวต้อยไม่ขอตอบคำถาม แต่บอกว่าตอนนี้เครียดจนอยากฆ่าตัวตาย อยากขอให้สังคมให้ความเป็นธรรมตนด้วย

ข่าว วิภาดา นิ่มทอง

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ