วันที่ 10 ก.พ.65 กลายเป็นเรื่องที่ทำวุ่นวายกันทั้งโรงพัก เมื่อแก๊งทวงหนี้คอลเซ็นเตอร์โทรเข้าห้องวิทยุ สภ.เมืองนนทบุรี ในวันนี้วันเดียวไม่ต่ำกว่า 60-70 สาย แม้ว่าตำรวจจะบอกว่านี่คือสถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี แต่ปลายสายกลับไม่สนใจยังคงโทรทวงหนี้เข้ามาเป็นระยะๆ ตลอด

ทั้งนี้เบอร์ติดต่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์พยายามโทรติดต่อทวงหนี้กับคนชื่อ บัวผัน ซึ่งโทรมาที่ห้องวิทยุของ สภ.เมืองนนทบุรี เป็นประจำทุกวัน ไม่ต่ำกว่าวันละ 60-70 สายเรียกได้ว่าตำรวจศูนย์วิทยุที่เข้าเวรแต่ละผลัดต้องมานั่งตอบคำถามและปฏิเสธสายโทรศัพท์แบบนี้เป็นประจำทุกวัน

ดาบตำรวจอัครพงษ์ เดชกุล เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำห้องวิทยุ สภ.เมืองนนทบุรี เล่าว่าตำรวจแต่ละผลัดกำลังปวดหัวและต้องเสียสุขภาพจิตอย่างมากเพราะแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาเป็นประจำบางวันใน 2 ชั่วโมงโทรมาถึง 40 สาย จนตำรวจที่อยู่เวรไม่รู้จะทำอย่างไร

แม้ว่าจะแจ้งว่าปลายทางเป็นสถานีตำรวจก็ไม่เชื่อ บางทีก็ต่อว่ากลับมาเป็นชุดๆ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ต้องทำอะไรแแล้วซึ่งตำรวจจะไม่รับสายที่โทรเข้ามาก็ไม่ได้เพราะเป็นโทรศัพท์ของโรงพักที่ต้องรับสายทุกสายที่แจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายเข้ามา

และเกรงด้วยว่าเมื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาแบบนี้เป็นประจำทุกวันตลอดเวลาอาจะทำให้ประชาชนที่มีเหตุด่วนฉุกเฉินโทรเข้ามาไม่ติดเพราะคนที่โทรมาจะใช้เวลาในการพูดและสอบถามเป็นเวลานานมาก

ขณะเดียวกันยังพบคลิปแอบอ้างเป็นตำรวจของ สภ.เมืองนนทบุรี ใช้ชื่อว่าร้อยตำรวจเอกหญิงปนัดดา ไปหลอกหลวงผู้เสียหายว่าให้นำบัตรประชาชนและเอกสารต่างๆ มาตรวจสอบทางการเงินเพราะพบว่ามีชื่อไปพัวพันกับคดีซึ่งมีผู้เสียหายได้อัดคลิปมาร้องเรียนกับตำรวจด้วยในเรื่องนี้

พันตำรวจเอกจาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผู้กำกับสภ.เมืองนนทบุรี ยืนยันว่าที่โรงพักไม่มีตำรวจหญิงที่ชื่อร้อยตำรวจเอกหญิงปนัดดา เชื่อว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่แอบอ้างให้ผู้เสียหายโอนเงินให้

และขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ สามารถโทรมาตรวจสอบกับ สภ.เมืองนนทบุรี ได้ว่ามีบุคคลดังกล่าวจริงหรือไม่และอย่าได้หลงเชื่อเป็นอันขาด หากยังไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง

อย่างไรก็ตาม ตำรวจปวดหัว สาวตั้งโอนสายเข้าโรงพักเมืองนนท์ ต้องรับสายแก๊งทวงหนี้ทั้งวัน