เรียกได้ว่าเป็นนางเอกที่ขึ้นชื่อว่าสวยตลอดกาลและแถมมาพร้อมกับความสามารถรอบด้านไปหมดนอกจากเป็นนักแสดงที่มากฝีมือแล้วก็ยังทำหน้าที่พิธีกรในรายการต่างๆอีกด้วย ซึ่งทางนางเอกสาวมากฝีมือ ป็อก ปิยธิดา มิตรธีรโรจน์

อธิบายปมคาใจใครหลายๆคน อย่างแต่งงานกับสามีอย่าง ตั๊ก นภัสกร มิตรธีรโรจน์ มานานหลายปีแต่ทำไมยังไม่มีผู้สืบสกุลตัวเล็กๆน่ารักให้เห็นกันเลย โดยสาวป็อกยอมรับตรงๆว่าเธอและสามี มีความคิดเห็นตรงกันว่าไม่อยากมีบุตรเพื่อเลี้ยงดูตอนสูงวัย

ไม่อยากโยนภาระให้บุตรหลาน โดยสาวป็อกเผยว่า ไม่อยากมีบุตรเพื่อเลี้ยงดูตอนสูงวัย ขนาดเราเองยังทำงานนอกบ้านไม่ได้ไปประคองคุณพ่อคุณแม่เรา หรือต่อให้เรามีลูกเขาก็ไม่ได้อยู่กับเราทุกวัน เขาก็ต้องไปใช้ชีวิตของเขา

ซึ่งเหตุผลของสาวป็อกก็โดนใจชาวโซเชียลนเข้ามากดไลก์กันรัวๆ พร้อมแสดงความคิดเห็น ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เช่น ไม่มีถูกไม่มีผิด ขึ้นอยู่กับ background ของแต่ละคนว่าถูกเลี้ยงดูมาอย่างไร ชีวิตในวัยเล็กมีผลต่อแนวความคิดและการกระทำเมื่อเราเติบโตขึ้น

การเป็นลูบุตรคือหน้าที่ๆต้องดูแลพ่อแม่ เมื่อถึงจุดๆหนึ่งบุตรๆทุกคนก็ต้องกลับไปดูแลท่านเมื่อท่านสูงวัยไม่สามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ จะทำงานหนักเหนื่อยแค่ไหนก็ต้องกลับไปดูแลพระในบ้าน ประเสริฐที่สุด เรื่องนี้จริงส่วนมากคนรวยจังส่งพ่อแม่ไปอยู่สถานเลี้ยงดูเพราะไม่มีเวลา

แต่นี้ตัวเราเองออกงานและมาดูแลตุนแม่ มีความสุขที่สุด เหนื่อยแต่มีความสุขไม่สามารถบรรยายถูก ก็ไม่ผิดนี่คิดแบบนี้ ทำไมเหมือนมีคนไปว่าเขา ไม่อยากมีภาระนี่ไม่แปลก บุตรคนนึงกว่าจะโต โตแล้วใช่ว่าจะได้ดั่งใจเป็นคนดีทุกคน

ถ้าไปทำเรื่องยิ่งคิดหนัก ไม่มีบุตรคือไม่มีเรื่องกับใครก็แค่นั้น อย่าไปยึดติดกับคำว่าครอบครัวที่สมบูรณ์ต้องมีบุตรค่ะ ครอบครัวที่สมบูรณ์ ไม่มีบุตรแต่มีเงินก็อยู่สบายตอนสูงวัย ไม่ได้ทำหน้าที่แม่แต่เป็นบุตรที่ทำหน้าที่ดูแลพ่อแม่จนวาระสุดท้าย

ทุกคนต่างความคิดต่างมุมมอง ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบ คิดแบบนี้เช่นกันคะ แต่มากกว่าคือเป็นคนจน เคยลำบากมากๆ และ ต้องทำงานหนักเพื่อดูแลครอบครัว และ ตอนนี้ก็ยังทำงานหนักอยู่ เลยไม่ต้องการมีบุตรเพราะกลัวมีแล้วบุตรจะต้องลำบากเลี้ยงดูเราตอนสูงวัย/p>

จบวงจรชีวิตที่ตัวเองจบความคิดล้ำมาก คนที่คิดแบบนี้ก็มีอีกหลายคน นุ่น ศิระพันธ์ ก็อีกคู่ จอย รินลนี กิ๊ก มยุริญ ไม่คิดแต่งงานเลยด้วยซ้ำ คือเค้าใช้ชีวิตตัวเองให้มีความสุข และ วางแผนพึ่งพาตัวเองให้ได้จนบั้นปลายชีวิต คนมีเงินซะอย่างจะใช้ชีวิตยังไงก็ได้ ไม่ได้ลำบากใคร

สมัยนี้จะเลี้ยงบุตรคนนึงคนเป็นพ่อแม่ต้องทุ่มเทกันขนาดหนัก ต้องพร้อมทั้งเงินและเวลา ยิ่งสภาวะแวดล้อม เศรษฐกิจสังคม ขนาดคนโตๆยังอยู่ลำบาก เบบี๋ที่เกิดมายุคนี้ต้องต่อสู้ชีวิตกันตั้งแต่ลืมตาดูโลก โตไปก็ยิ่งต้องดิ้นรนแข่งขันเอาตัวให้รอด

การคาดหวังว่าจะให้เค้ามาเลี้ยงดูตอบแทนมันเป็นการคิดแบบนักลงทุนและผิดหวังกันมาเยอะแล้ว เพราะสุดท้ายชีวิตเป็นของเค้า พอเค้าไปมีสังคมของเค้า มีแฟน มีครอบครัวเมื่อไหร่ คนเป็นพ่อแม่นั่นแหละต้องอยู่ด้วยตัวเองให้ได้อยู่ดี เขาแค่ไม่อยากมีบุตร มันสิทธิ์ของเขา หลายคนก็ว่าเขาอย่างนั้นอย่างนี้

แล้วคนที่มีบุตรเป็น 10 เห็นทิ้งพ่อแม่ไม่ดูแลก็เยอะแยะไป เห็นด้วยกับความคิดนี้ค่ะ เก็บเงิน วางแผน ดูแลตัวเอง ดีที่สุด ในอนาคตคงมีธุรกิจ ที่รองรับสังคมผู้สูงอายุมากขึ้น อาจจะไม่รู้สึกว่าการอยู่บ้านพักคนสูงวัย ต้องเป็นเรื่องที่น่าเศร้า และเป็นเรื่องทำให้บุตร กลายเป็นคนอกตัญญูอีกต่อไป บุตรเกิดมาเพื่อมีชีวิตของตัวเอง

จะหวังพึ่งให้เค้าดูแลยามสูงวัย สงสารบุตรค่ะ หน้าที่เราดูแลให้เค้าเติบโต ทำดีที่สุดเพื่อเค้าพอ ส่วนตัวเรา ดูแลพ่อเราได้ ไม่มีปัญหาค่ะ เป็นความคิดของเราเองที่จะตอบแทนพ่อ แต่จะไม่เอาความคิดในแบบเดียวกันไปปลูกฝัง หรือกดดันกับบุตรเราเด็ดขาด ว่าถ้าเค้าเติบโตแล้ว ต้องกลับมาดูแลเรานะ ถูกค่ะไม่เคยหวังเลยหวังเพียงเพื่อให้เค้าเติบโตมาในแบบของเค้า

เรียบเรียงโดย ทีมงาน siamnews