สาวอ้างเป็น จนท.อนามัยมาขอฉีดพ่นยา ก่อนฉกเงินเก็บหลวงพ่อไป 6 พัน

สาวอ้างเป็น จนท.อนามัยมาขอฉีดพ่นยา ก่อนฉกเงินเก็บหลวงพ่อไป 6 พัน

เมื่อเวลา 11.30 น. ร.ต.ท.ทวีศักดิ์ มุงคุณ ร้อยเวร สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านโกย มาขอฉีดพ่นยาที่กุฏิก่อนแอบขโมยเอาเงินพระไปจำนวน 6,000 บาท ที่ วัดศรีสุขาภิบาล หรือวัดบ้านโกย ม.2 บ.โกย ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมตำรวจสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี โดยในที่เกิดเหตุมีพระสงฆ์และชาวบ้านจับกลุ่มพูดคุยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บริเวณหน้ากุฏิพระหลวงพ่อทอน อนุตโล พระลูกวัด จากนั้นหลวงพ่อได้พาร้อยเวรตรวจสอบภายในกุฏิและชี้จุดที่คนร้ายขโมยเอาเงินที่เก็บไว้ไป พร้อมให้ข้อมูลปากคำกับเจ้าหน้าที่เบื้องต้น

หลวงพ่อทอน อนุตโล อายุ 84 ปี เล่าว่า คนร้ายเป็นผู้หญิงโดยจอดรถจักรยานยนต์ไว้ห่างจากกุฏิไปพอสมควร แต่ไม่ได้เดินมาแล้วพูดว่าได้รับคำสั่งจากอนามัยหนองนาคำให้มาพ่นยา หลวงพ่อถามกลับไปว่าทำไมมาคนเดียว ทำไมมันไม่มีเจ้าหน้าที่ อสม.มาร่วมด้วย คนร้านก็ตอบกลับมาว่าเป็นภารกิจเร่งด่วน จึงเชื่อใจนุญาตให้เข้ามา โดยคนร้ายไม่กล้าเข้ามาทางด้านหน้า กลับขอเดินอ้อมไปเข้าข้างหลังกุฏิ เมื่อเข้ามาคนร้ายได้บอกกับตนว่า ยาเมื่อพ่นฆ่าเชื้อแล้วจะไม่สามารถเข้าไปได้ภายใน 30 นาที ขอให้หลวงพ่อรอข้างนอก และบอกให้หลวพ่อเขียนชื่อตัวเองที่อยู่และวัดที่จำพรรษาจากนั้นคนร้าก็เข้าไปพ่นยาใช้เวลาประมาณ 6-7 นาที

จากนั้นก็ออกมาโดยบอกว่ายาหมดขอกลับไปเอายาที่อนามัยแล้วจะกลับมาใหม่ เมื่อคนร้ายออกไปคิดว่าถูกหลอกแน่แล้ว จึงเรียกพระที่อยู่ใกล้กันมาร่วมตรวจสอบ เมื่อตรวจสอบก็พบว่าเงินที่เก็บไว้เงินที่หายไปราว 6,000 บาท โดยเงินส่วนนี้เป็นเงินที่ได้มาจากญาติโยมถวายจากสังฆทาน และงานส่วนต่างๆ และเตรียมไว้เป็นเงินรวมำบุญผ้าป่าที่วัดนิโรธพิมพาราม เร็วฯนี้ โดยรูปพรรณคนร้ายเท่าที่จำได้ เป็นผู้หญิงผิวขาว ผมสั้น อายุประมาณ 30 ปี จำสีเสื้อไม่ได้ แต่สวมกางเกงยีนส์ ขับรถจักรยานยนต์สีแดง

ด้านนางสาวประภัรสร มูลเสนา อายุ 40 ปี ลูกสาว เปิดเผยว่า ที่กุฏหลวงพ่อตนได้ติดกล้องวงจรปิดไว้ติดเพื่อสื่อสารกับหลวงพ่อเนื่องจากหลวงพ่อใช้โทรศัพท์ไม่เป็น และเอาไว้สังเกตหลวงพ่อเนื่องจากหลวงพ่อมีอาการเจ็บป่วยเป็นกรดไหลย้อน โดยก่อนเกิดเหตุมีสัญญาณเตือนแจ้งเตือนจากกล้องเข้ามาที่โทรศัพท์มือถือ คิดว่ากล้องจับสัญญาการเคลื่อนไหวของหลวงพ่อเดินปกติ เพราะกล้องจะส่งสัญญาแจ้งเตื่อนทุกวัน แต่พอมาเปิดดูก็เป็นจอดำ จากนั้นก็มีพระที่วัดโทรหาบอกว่ามีคนมาขโมยเงินของหลวงพ่อ "ฝากถึงคนที่มาขโมยว่า หากอยากได้ให้มาขอไม่ใช่มาลักขโมยแบบนี้ ตอนนี้ไม่ได้อยากได้เงินคืน แตอยากให้มีสามัญสำนึก" คิดว่าคนร้ายน่าจะอยู่ละแวกใกล้ๆนี่ เพราะสุนัขของหลวงพ่อที่เลี้ยงไว้ไม่มีการเห่า

ข่าวโดย นาริสา หลักทอง ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดอุดรธานี

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ