หามด่วน หนึ่ง มาฬิศร์ อดีตพระเอกละครพื้นบ้าน หลังหยุดหายใจ
หลายคนคงรู้จักกันดี สำหรับ หนึ่ง มาฬิศร์ เชยโสภณ อดีตพระเอกที่โด่งดังจากละครพื้นบ้าน ทางช่องเจ็ดสี ที่มีบทบาทโดยเฉพาะละครพื้นบ้าน เช่น ขวานฟ้าหน้าดำ, พันหนึ่งราตรี, มโหสถชาดก, หลวิชัย คาวี ดาบเจ็ดสีมณีเจ็ดแสง สี่ยอดกุมาร ฯลฯ
ล่าสุดต้องบอกว่าทำเอาคนในวงการเเละชาวโซเชียลต่างเป็นห่วงเเละส่งกำลังใจ เมื่อหามด่วน หนึ่ง มาฬิศร์ เข้าโรงพยาบาล หลังหยุดหายใจขณะหลับ โดย หนึ่ง มาฬิศร์ นั้นได้โพสต์รูปภาพเเละระบุข้อความว่า
เมื่อ 30 ปีก่อน ในยุคที่ งานก็มีทำ เงินก็หาง่าย ร่างกายก็ดี๊ดี เรื่องสุขภาพดูเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องใส่ใจเลยสำหรับคนวัยยี่สิบกว่าอย่างเรา อยากกินอะไรก็กิน อยากดื่มอะไรก็ดื่ม อยากนอนกี่โมง อยากใช้ร่างกายหักโหมขนาดไหน ไม่เคยมีคำว่า…ยั้ง เพิ่งคุยกับรุ่นน้องนักแสดงร่วมยุคสมัย
ที่ผ่านการทำงานกันแบบหามรุ่งหามค่ำหรือเช้ายันเช้า (ไม่ใช่เลิกกองสี่ทุ่มแบบปัจจุบัน) ว่าสมัยโน้นพอเสร็จงานก็ยกพวกไปสังสรรค์กันต่อ ลากยาวจนกลับมาทำงานในอีกวันแบบ…สบายยยยย คำว่าแฮงค์คืออะไรไม่รู้จัก ไม่รู้ตอนนั้นพวกเราทำไปได้ยังไง ตอนนี้แค่คิดจะดื่ม ก็ต้องคิดเผื่อวันพักฟื้นร่างกายไว้อีก 1-2 วันเลยทีเดียว
30 ปีผ่านไป…มาถึงยุค งานก็อยากทำ เงินก็อยากได้ ร่างกายก็ต้องดูแล ร่างกายที่ผ่านการใช้งานมาอย่างหนักหน่วงเริ่มทวงความใส่ใจ หลายคนไม่ได้ฟังเสียงเรียกจากเขา เพราะเสียงนั้นอาจจะเบาไป ไม่ทันได้สังเกต หรือได้ยินแต่ก็ปล่อยผ่านไป เพราะคิดว่า คงไม่เป็นไร
อาการหนึ่งที่เราเป็นมานานมาก แม่ทักเรื่องนี้ตั้งแต่สมัยแม่ยังมีชีวิตอยู่ คืออาการ กรน ทีแรกเราก็ไม่เชื่อ จะบ้าเหรอ อายุแค่ยี่สิบกว่า แถมตัวผอมขนาดนี้ (ในตอนที่หนัก 60 กว่า ๆ)ใครจะมานอนกรน ไม่ใช่คนแก่และอ้วนแบบพ่อนะ แต่ตอนหลังเริ่มได้ยินเสียงตัวเองกรนก่อนจะสะดุ้งตื่น อะ ยอมรับก็ได้ว่านอนกรน แล้วไง ใคร ๆ ก็กรน ก็คนมันเหนื่อยนี่
ย้อนไปตอนวัยผ่านหลักสี่มา เสียงนกเสียงกาเริ่มมาทัก เพื่อนฝูงหลายคนโดนภรรยาบ่นเรื่องการกรน ถึงขั้นไล่ไปนอนอีกห้องก็มี อีกส่วนหนึ่งถูกไล่ให้ไปหาหมอ เพราะคนที่นอนด้วยบอกว่าไม่ใช่แค่เรื่องกรนเสียงดัง แต่มันมีอาการแปลก ๆ เหมือนคน หยุดหายใจ และแทบทุกคนที่ไปพบหมอ กลับมาด้วย โรคหยุดหายใจขณะหลับ กันถ้วนหน้า เพื่อนฝูงหลายคนจึงมาทัก อยากให้ไปทำ sleep test ดู
ด้วยความเป็นห่วงเห็นว่าคนโสดอย่างเรา ผู้ซึ่งนอนคนเดียวเปลี่ยวเอกา คงไม่มีใครจะมาคอยสังเกตว่ามีอาการนอนกรนแบบที่เป็นสัญญาณของโรคนี้หรือไม่ แต่เราก็ยังไม่ไป ด้วยเวลาเอย ค่าใช้จ่ายเอย อะไรเอย หลัก ๆ ก็ค่าใช้จ่ายแหละ เพราะถ้าตรวจเจอต้องซื้อเครื่องอีก รวม ๆ แล้วก็ต้องมีเงินร่วมแสนให้เสีย จึงปลอบใจตัวเองว่าเราไม่เป็นหรอก…มั้ง
เดินทางมาถึงห้าแยก ได้รับสัญญาณแปลก ๆ จากคุณกายหยาบ แต่พอเอาเข้าจริง แม้ไม่มีใครบอก แต่สัญญาณเตือนจากร่างกายไม่เคยโกหกเรา มาทั้งในรูปแบบของความดัน ความจำ การเต้นของหัวใจ รวมไปถึงการดึงปลั๊กออกจากตัวเราแบบ shutdown ไปดื้อ ๆ ชนิดที่นั่งอยู่ในกองถ่ายแล้วก็ป๊อกหลับไปกลางอากาศซะงั้น เอาแล้ว เขาเตือนหนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ แบบนี้ คงต้องถึงเวลาหาหมอซะทีแล้วมั้ย
หลังจากทำ Sleep test แล้วสรุปว่าเป็นโรคหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (OBSTRUCTIVE SLEEP APNEA) ตามคาดจริง ๆ ขอบคุณคุณหมอ คุณพยาบาล และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเวชธานี ที่บริการดีมาก และสามารถให้ข้อมูลที่เราสงสัยได้อย่างชัดเจน ช่วยให้คลายกังวลไปได้เยอะ
ทำให้ประสบการณ์ sleep test ครั้งนี้ผ่านไปได้แบบสะดวกสบายง่ายดายราบรื่น ราวกับไม่ได้ไปเข้าโรงพยาบาลยังไงอย่างงั้น ใครอยากตรวจเช็คการนอนกรนที่อาจเป็นปัญหาสุขภาพร้ายแรงถึงชีวิตได้ ก็สามารถติดต่อไปได้นะครับ
อย่างไรก็ตาม ขอให้ หนึ่ง มาฬิศร์ หายจากอาการโดยเร็วนะคะ