น้ำตาท่วมโรงพัก จบลงด้วยดีป้าถูกรื้อบ้านเหลือแต่เสายอมจ่ายแสนห้า

น้ำตาท่วมโรงพัก จบลงด้วยดีป้าถูกรื้อบ้านเหลือแต่เสายอมจ่ายแสนห้า

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณีนางอุทัย สิงห์สาธร อายุ 57 ปี ชาวบ้านที่บ้านผักตบ ต.ผักตบ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ร้องเรียนสื่อมวลชนเพราะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากญาติพี่น้องถูกลุงเปี๊ยกและป้าพรหม ซึ่งเป็นลุงและป้าแท้ๆ รื้อบ้านทิ้งเหลือแต่เสาทั้งๆ ที่ซื้อที่ดินแล้วจำนวน 2 งาน 17 ตารางวา เหตุเกิดที่ดินในบ้านผักตบ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี โดยป้าอุทัยช้ำใจเพราะไปขายข้าวโพดปิ้งเก็บเงินส่งมาให้ลุงและป้าสร้างบ้าน แต่สุดท้ายโดนรื้อบ้านทิ้งจนไม่มีที่อยู่ โดยป้าอุทัยเชื่อว่าลุงและป้าเปลี่ยนใจเพราะสามีของตนเองคือนายบุญเลิศ เสียชีวิตทำให้อยากได้ที่ดินคืน ต่อมาป้าอุทัยพร้อมด้วยน.ส.สุดารัตน์ สิงห์สาธร ลูกสาวได้เดินทางมาที่ศูนย์ดำรงธรรมจ.อุดรธานีเพื่อขอความเป็นในเรื่องถูกรื้อบ้านทิ้ง

ล่าสุด วันที่ 4 ก.พ.65 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ ส่องโสม สว.(สอบสวน) สภ.หนองหาน ได้เรียกทั้งสองฝ่ายมาตกลงพูดคุยกันแต่ปรากฏว่าตลอดทั้งวันทั้งสองฝ่ายยังตกลงชดใช้ค่าเสียหายให้กันไม่ได้ ต่อมา พนักงานสอบสวนจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุบนที่ดินบ้านเลขที่ 120 หมู่ 3 ต.ผักตบ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ก็พบว่าบ้านที่ป้าอุทัยสร้างเอาไว้ถูกรื้อทิ้งจริงเหลือแต่เสาปูนจำนวน 18 คืนส่วนสังสะสีและทรัพย์สินต่างๆ ยังเก็บไว้ภายในบ้านลุงเปี๊ยก

ต่อมาเวลา 17.00 น.ทางพนักงานสอบสวนสภ.หนองหาน ได้เรียกทั้งสองฝ่ายมาตกลงกันอีกครั้ง สุดท้ายทางนายบวร หรือลุงเปี้ยก และนางพรมริน ป้าพรม พงษ์ชมภู ลุงและป้าที่รื้อบ้านได้จ่ายเงินจำนวน 150,000 บาท ยอมชดใช้ให้แก่นางอุทัย สิงห์สาธรและน.ส.น.ส.สุดารัตน์ สิงห์สาธรหรือน้องหญิง สองแม่ลูกที่โดนรื้อบ้าน จากนั้นน้องหญิงหลานสาวได้เดินเข้าไปกราบขอขมาโทษทั้งลุงเปี๊ยกและป้าพรม ซึ่งเป็นลุงและป้าแท้ๆ

ทั้งสองคนได้อภัยแก่กันและกันและร้องไห้โฮกอดกันกลม โดยน้องหญิงขอโทษที่ทำอะไรล่วงเกินลุงและป้า ขณะที่ป้าพรม บอกหลานว่า เรื่องบาดหมางกันระหว่างพี่น้องให้จบลงตรงนี้ ป้าอโหสิกรรมให้ทุกอย่าง ยังรักหลานคนนี้ เป็นลูกสาวของน้องชายป้าแท้ๆ แต่เป็นอย่างไรก็ยังรักหลานคนนี้อยู่ อย่าประหัตประหารจิตใจกันอีก พวกเราก็เป็นพี่น้องกัน อยากมาหาป้าได้อีกเสมอทุกวันทุกเวลา

นางพรมริน หรือป้าพรม พงษ์ชมภู เปิดเผยว่า หลังมีข่าวออกไปลุงและป้าโดนกระแสโจมตีอย่างมาก อยากให้ชาวโซเซียลเข้าใจลุงกับป้าด้วยแก้ข่าวให้ป้าด้วย ป้าไม่ได้ใจดำ ป้าเป็นคนมีศีลมีธรรม ตอนเป็นข่าวตอนแรกเข้าไปในหมู่บ้านแทบไม่ได้เลย ถ้าไม่รักคงไม่ให้มาสร้างบ้านในที่ดินหรอก แต่วันนี้ก็ดีใจที่ทั้งสองฝ่ายเข้าใจกันดี

ทางลุงและป้ายอมจ่าย 150,000 บาทกับเรื่องที่ไปรื้อบ้านป้ายืมเงินเขามาด้วย ป้ากินข้าวไม่อร่อยนอนหลับไม่ตั้งแต่เกิดเรื่อง ยังรักน้องสะใภ้และหลานๆ ทุกคน เพราะเขาเป็นลูกของน้องชายตนเองที่เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนเรื่องราวที่มันเกิดขึ้นก็ให้จบวันนี้ หลานๆ จะมาเยี่ยมป้าได้เหมือนเดิม ขณะที่ลุงเปี๊ยก บอกว่า วันนี้ดีใจที่เรื่องระหว่างญาติพี่น้องจบลงด้วยดี ยังรักหลานเหมือนเดิมเลี้ยงเขามาตั้งแต่เด็กๆ โดยลุงเปี๊ยกพูดไปร้องไห้ไป ความเป็นญาติพี่น้องยังเหมือนเดิม เรื่องราวเข้าใจผิดๆ ก็จบลงวันนี้

ขณะที่ป้าอุทัย เปิดเผยว่า วันนี้ดีใจที่ทั้งลุงเปี๊ยกและป้าพรมจ่ายเงิน 150,000 บาทให้ ตกลงกันได้ ขอบคุณลุงเปี๊ยกและป้าพรมที่เห็นใจลูกหลาน ตนเองก็จะเอาเงินส่วนนี้ไปหาซื้อที่ดินและสร้างบ้านที่บ้านหนองทุ่ม ต.โนนศิลา อ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร หากไม่พอก็จะไปหาเก็บเงินมาสร้างให้ได้สักหลัง ได้เท่านี้แม้จะไม่เยอะแต่ก็ทำให้พอมีเงินไปหาที่อยู่ใหม่ ดีใจที่พี่น้องไม่ทิ้งกัน ส่วนเรื่องคดีก็จะถอนแจ้งความไม่ติดใจเอาความลุงและป้าแม้แต่คดีเดียว

ข่าวโดย นาริสา หลักทอง ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดอุดรธานี

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ