เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล เผยถึง สมปอง ขนของเกลี้ยงบ้าน ทะเยอทะยานอยากรวย
วันที่ 4 ก.พ.ที่บ้านศกุณต์ไชย ซอยลาดพร้าว 101 นางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย หรือติ๋ม ทีวีพูล ที่ปรึกษาบริษัทไทยทีวี จำกัด แถลงกรณีนายสมปอง นครไธสง ถอนตัวจากรายการโทรทัศน์ทั้งที่ยังติดสัญญากับทีวีพูลกรุ๊ป เป็นเวลาอีก 2 ปี
นางพันธุ์ทิพา กล่าวว่า หลังเพิ่งออกรายการตีท้ายครัวไป ไม่คิดจะเกิดเรื่องแบบนี้ แต่แรก นายสมปอง เข้ามาหาเอง โดยตนไม่ได้ไขว่คว้าอะไรมา องค์กรเรามีเครือข่ายทั่วประเทศ ไม่มีความจำเป็นต้องไปเอาใครมา ตนก็คิดว่าเขาเคยทำกุศลมาถึง 30 ปี เป็นคนพูดธรรมะแล้วสนุก มีคนติดตาม เขาเป็นเหมือนลูกนกไร้ที่อยู่อาศัย ตนก็แนะนำเขาและใช้สายสัมพันธ์ให้ลูกตนรู้จักกับเขา เพราะตนก็อายุมาก ถึงเวลาต้องรีไทร์
ตอนนี้บ้านเรามีอีกหลายห้องที่จะให้เขาพักได้ โดยต้องไปปรับปรุงนิดหน่อย ก็หวังอย่างยิ่งว่าตนจะเดินสายธรรมะพูดไปทั่วโลกได้ เพราะ 6 ปีที่พบปัญหาทีวีดิจิตัลก็ได้ศึกษาธรรมะเยอะมาก ทำให้เราพ้นทุกข์โ มีหลายคนเป็นห่วงตน ติดต่อมาหา เพราะตนใจอ่อน บางทีก็แข็ง และครอบครัวเราก็เป็นสายบุญ กลัวเราจะถูกหลอก ตนก็บอกไม่เป็นไร ก็คือได้ปรับปรุงบ้านหมดไปเกือบล้านบาท เพราะนายสมปอง บอกว่าอยากใช้ข้างบ้านเป็นสำนักงานสไตล์ลอฟท์
ที่ยังทำไม่เสร็จ เพราะเขาอยากทำธุรกิจ ตนบอกเขาว่าค่อยๆ ทำ รายได้รายจ่ายพอกันหรือไม่ เพราะเขาไม่รู้เรื่องพวกนี้ ตนมองว่าเขายังเด็กมาก เขามีความฝันเยอะมาก อยากมีตู้ไวน์ในห้องตนก็ซื้อให้ ไม่รู้ว่าเขาดื่มไหม แต่ก็คิดว่าในเมื่อเขามาในบ้านเราแล้วถ้าจะเสียก็มีแค่นี้
ความฝันเขาอยากเป็นนักร้องลูกทุ่งที่โด่งดัง แต่ตนอยากให้เขาเป็นนักพูด เขาก็ไม่สนใจ ตนก็มองว่าภาพลักษณ์เป็นเรื่องสำคัญ แต่เขามองเรื่องเงินมากกว่า ถึงกับเคยบอกว่าจะมีเงินร้อนล้านใน 3 เดือนด้วย
นายสมปอง บอกว่าไม่มีเสื้อผ้า นายบุญเกียรติ โชควัฒนา ก็ให้มาเป็นของขวัญเป็นเสื้อผ้า 3 ชุดใหญ่ๆ หมดไป 8 หมื่นบาท และซื้อเพิ่มอีกกว่า 3 หมื่นบาท หมดไปร่วมๆ หลักแสนบาท ยอมรับว่าเสียใจว่าทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ เขาทะเยอทะยานอยากรวยเร็วๆ
เราก็บอกปลูกต้นไม้ต้องค่อยๆ ปลูก จะให้เร็วต้องเป็นเงินเทา ไม่ใช่เงินปกติ เมื่อก่อนเขาอาจมีคนถวายให้ตลอดก็คงไม่เข้าใจ เขาบอกว่ามีหนี้รวมกว่า 10 ล้าน 9 แสนบาทเพราะ เคยอยากทำสวนยางพาราให้ครอบครัว เลยไปกู้เงินนอกระบบไล่ซื้อที่ดิน สปก.กว่า 300 ไร่ มันไม่ใช่ง่าย ต้องใช้ความพยายามสูง สุดท้ายทำไม่ได้ เขาพยายามขายก็ขายไม่ได้
นายสมปองบอกว่าเป็นศิษย์หลวงพ่ออลงกต แล้วหลวงพ่อก็สงสารเรื่องหนี้สิน ถึงกับให้ลูกศิษฐ์คนสนิทไปปิดหนี้ให้นายสมปอง เขาก็ส่งให้บ้างไม่ให้บ้าง พอมาถึงตน ก็สงสารมองเขาเหมือนลูก แต่เรื่องเงินเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับเขา ตนทำทุกอย่างไม่บกพร่องเหมือนเป็นแม่ ทอดไข่เจียวให้กินเวลากลับมาตอนดึก
แต่พอพูดอะไรเขาก็ไม่อยากฟัง เวลาว่ายน้ำตอนเช้าก็เปิดเพลงดังมากกลบเสียงตน เขาก็เหมือนเด็กคนหนึ่งที่เพิ่งออกมา ทุกอย่างอโหสิให้หมด ก็อวยพรให้โชคดี ไม่ต้องมาเจอพี่ ไม่ต้องคิดถึงกัน เพราะเขาไปก็ไม่บอกลา ตระกูลนครไธสงไม่ต้องมาที่บ้านนี้อีกต่อไป
จะไม่มีคนชื่อ สมปอง ในช่องนี้ เรากำลังไล่ลบชื่อเขาออกไปทั้งหมด ไม่อยากใช้คำว่าเนรคุณ แต่เขาไม่มีแม่ติ๋มในชีวิตอีกต่อไปแล้ว เขาก็มีแต่แม่ตาลของเขา จากนี้ก็ไม่ต้องมา
ถ้าเขาจะโทรมาหาตนก็ไม่รับ เมื่อวานเขาให้คนมาเก็บของทุกอย่างจนว่างเปล่า เสื้อผ้าก็เอาไปหมด ทิ้งไว้เพียงรูปตน ยอมรับว่าเสียความรู้สึก ที่ผ่านมาก็ไม่เคยทะเลาะกัน แต่เคยเตือนให้เขาระวังเรื่องการคบคน ระวังเรื่องสีเทา ติดหนี้นอกระบบอีก และระวังเรื่องการใช้เสียงเพราะเขาชอบตะโกน
นางพันธุ์ทิพา กล่าวอีกว่า ตนได้เรียกประชุมให้หาเงินใช้หนี้เขาภายใน 1 ปี ไม่ให้หลุดเรื่องธรรมะ ลูกชายก็คิดรายการโทรติดทิดตอบ ทางทีวีพูลออนไลน์ และรายการซิตคอม มาหาพาสนุก ทางช่อง 9 อัดไปแล้ว 8 ตอน และอีกรายการคือ ถึงไหนถึงกัน ที่ออกอากาศทางช่อง 5 ไลฟ์สดเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ทำอะไรให้กับสังคมไม่ใช่แค่การรีวิว
เพราะเขามีค่าตัวครึ่งชั่วโมง 1.5 แสนบาท ซึ่งเขาเซ็นสัญญากับเราไว้ 2 ปี จากนี้ต้องให้ฝ่ายกฎหมายดูว่าเราเสียหายอะไรบ้าง รวมถึงเงินกว่าหลักล้านบาทที่เราจ่ายไปแล้ว เขาจะรับผิดชอบอย่างไรบ้าง เขาได้ค่าตัวแพงกว่าดาราด้วย วางแผนให้เขาจะได้เดือนละ 250,000 ด้วย
เราทำบันเทิงก็ได้ แต่เรามาทำกับเขาเพราะอยากช่วยเขา แต่เขาคุยแต่เรื่องเงิน ว่างเปล่าสำหรับเขา ไปดูที่ห้อง ว่างเปล่า เขาขนไปหมด ไม่บอกเลย ช็อก เสื้อผ้าที่ซื้อให้ก็ไม่เหลือ ไม่ต้องเอามาคืน อโหสิกรรมกัน ไม่ต้องมาเจอกัน
ถามว่าถ้าเขามาขอโทษจะกลับมาได้ไหม ติ๋ม ทีวีพูล กล่าวว่า ไม่ค่ะ เมื่อวานอโหสิกรรมแล้ว ใจเต้นแรง หลังจากเจอห้องว่างเปล่า
เขาคงอยากหาปีกอินทรีใหญ่กว่านี้ เขาอยากจะมีร้อยล้าน เขาบอกพลวงพี่อุเทนบอกเขาจะมีร้อยล้านใน 3 เดือน แต่อยู่ดีๆมาเทเสียหาย ขอให้เขาโชคดี เขาฉลาดมีวาทศิลป์ คนเชื่อเขาแน่ ขอให้เป็นนักร้องลูกทุ่งโด่งดังอย่างที่เขาฝันตั้งใจ
ด้าน นายกันต์พงษ์ กล่าวว่า งานต้องดำเนินต่อไป ไม่หยุดแค่ตรงนี้ แต่มองว่านายสมปองก็มีแง่ดี และแง่ที่เราอาจไม่รู้ทั้งหมด เขาก็คงมีแนวทางของเขาในอนาคต ซึ่งเราอาจไม่ได้ร่วมงานกันต่อ แต่ก็ขอให้เขาโชคดี โดยหากเขามาเคลียร์เรื่องค่าเสียหายกันได้ก็ยังมีทางออกอื่นอีกที่อาจไม่ต้องฟ้อง
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของทั้งสองฝ่ายจะจบลงอย่างไร ต้องติดตามกันต่อไปค่ะ