ป้าเอากระเป๋าเงินซุกคันแทนา

ป้าเอากระเป๋าเงินซุกคันแทนา

วันนี้ (3 ก.พ.65) ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์รายงานว่า น.ส.มณี พาทอง อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ 8 บ้านเหล่าสวนกล้วย ต.โนนทองอินทร์ อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานีเข้าแจ้งความบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานกับร.ต.อ.อภิวุฒิ ลีโพนทอง รอง.สว.(สอบสวน) สภ.กู่แก้ว ว่า กระเป๋าเป้สีดำที่ตนเองถือไปไหนมาไหนประจำถูกหลานชายวัย 14 ปีจุดไฟไล่หนูจนไฟไหม้เกลี้ยงทำให้เงินสดที่เป็นธนบัตรทั้งแบงค์พัน แบงค์ร้อยและแบงค์ 20 บาท รวม 5,000 บาทเศษถูกไฟไหม้เกือบไม่เหลืออะไร

โดยพบธนบัตรแบงค์พันและแบงค์ 20 ไหม้เป็นบางส่วน และยังมีบัตรเอทีเอ็ม สมุดบัญชีธนาคาร สมุดชำระเงินกู้จากธกส โทรศัพท์มือถือ ส่วนธนบัตรที่ถูกไฟไหม้เป็นบางส่วน นอกจากนี้ยังมีสร้อยคอทองคำหนัก 50 สตางค์และหลวงปู่ทวดเลี่ยมทอง โดยสร้อยคอทองคำถูกไฟไหม้ด้วย แต่หลวงปู่ทวดไม่ไหม้เลย ที่มาแจ้งความกับตร.ไม่เอาผิดหลานชายแต่อยากไว้เป็นหลักฐานเพื่อจะนำเงินที่ถูกไฟไหม้ไปแลกกับธนาคารอยากได้เต็มจำนวน เพราะเงินจำนวนนี้มีค่ากับครอบครัวพวกเรามาก

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับน.ส.มณี พาทอง หรือ ป้าเขียว ที่บ้านเหล่าสวนกล้วย โดยป้าเขียวคลี่ธนบัตรให้นักข่าวดูมีทั้งแบงค์พัน แบงค์ 20 เงินเหรียญ 10 บาท และเหรียญบาทที่ถูกไฟไหม้ นอกจากนี้ยังมีโทรศัพท์มือถือ บัตรเอทีเอ็ม สร้อยคอทองคำที่ถูกไฟไหม้ด้วย แต่น่าแปลกใจ หลวงปู่ทวดเลี่ยมทองไม่มีรอยไหม้แต่อย่างใด

ป้าเขียว เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าเมื่อวานนี้ช่วงบ่ายตนเองพร้อมญาติพี่น้องพากันไปดายหญ้าในป่าอ้อยที่อ.ไชยวานส่วนกระเป๋าสะพายใบนี้ไปไหนมาไหนจะเอาไปด้วยเพราะมันมีทรัพย์สินมีค่าทั้งเงินที่เก็บเล็กผสมน้อยเอาไว้ มีสร้อยคอทองคำและเอกสารต่างๆ พอไปถึงป่าอ้อยก็เอากระเป๋าใบนี้ไปซุกไว้คันแทนา ก็กลัวคนมาขโมยนั่นหละ

จากนั้นก็ไปดายหญ้าในป่าอ้อย ก็ไปหลายคนทั้งพี่ป้าน้าอารวมทั้งหลานชายด้วย ดายหญ้าอ้อยไปได้สักพัก หลานชายก็วิ่งไปบอกว่า กระเป๋าใครอยู่คันแทนาไฟไหม้หมดอ้อย ตนเองก็บอกว่ากระเป๋าป้านี่หละ วิ่งมาดูก็พบว่ากระเป๋าถูกไหม้ เห็นกระเป๋าไฟไหม้แทบเป็นลม ทั้งเงิน สร้อยและเอกสารถูกไฟไหม้ โดยหลานชายบอกว่าจุดไฟไล่หนูคันแทนาไม่รู้มีกระเป๋าวางไว้

ป้าเขียว บอกอีกว่า กระเป๋าใบนี้จะเก็บสิ่งของมีค่าเอาไว้ตลอดไปไหนมาไหนจะเอาไปด้วย ไปทำงานรับจ้างที่ไหนก็จะเอาไปด้วย ตนเองก็มีอาชีพรับจ้างทั่วไป เงินจำนวนนี้แม้จะไม่มาก แต่สำคัญกับครอบครัวตนเองมาก เงิน 5,000 บาทถูกไฟไหม้ก็เสียดาย ข้าวไม่กิน นอนไม่หลับมา 1 คืน ซึ่งกระเป๋าใบนี้จะเก็บทรัพย์สินมีค่าเอาไว้หมดไปไหนจะเอาไปด้วย คิดหนักเรื่องเงินที่ถูกไฟ และคิดถึงหลานชายห่วงและสงสารเขา ตนเองไม่เอาเรื่องเอาราวหลาน หลานไม่มีเจตนาจะเผาด้วยจึงฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ ใครๆ ก็ตามอย่าเผลอวางไว้โดยมักง่าย อาจจะสูญเสียทรัพย์สินเงินทองและเอกสารด้วย

ทางด้าน ร.ต.อ.อภิวุฒิ ลีโพนทอง รอง.สว.(สอบสวน) สภ.กู่แก้ว เปิดเผยว่า วันนี้มีชาวบ้านบ้านเหล่าสวนกล้าวเข้ามาแจ้งความ บอกว่า ไปดายหญ้าในป่าอ้อยแล้วเอากระเป๋าไปด้วย โดยกระเป๋ามีเงินสดและเอกสารสำคัญ โดยเจ้าของได้ซุกหญ้ากลางคันแทนา พูดๆ คือซ่อนกระเป๋าเงินเอาไว้เพราะกลัวลูกหลานไปขโมยเงิน แต่หลานชายที่ไปด้วยดันไปจุดไฟไล่หนูไม่เห็นป้าที่วางกระเป๋าไว้ จึงทำให้ไฟไหม้กระเป๋าเงิน แต่เงินที่ถูกไฟไหม้ก็เหลือบางส่วน เจ้าตัวบอกว่าไม่เอาเรื่องหลานชาย แต่มาแจ้งความเพื่อนำเอกสารไปแลกเปลี่ยนเงินกับทางธนาคาร ทางตร.ก็ได้แนะนำว่า สามารถนำเงินที่ถูกไฟไหม้ไปแลกได้ที่ธนาคารหรือคลังจังหวัดอุดรธานี เพราะไหม้บางส่วนอาจจะแลกได้เต็มจำนวน ส่วนเอกสารสำคัญก็สามารถไปยื่นทำใหม่ได้

ข่าวโดย งนาริสา หลักทอง ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดอุดรธานี

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ