ทำไปเพราะรัก นักเรียนหญิง ป.6 ถูกพ่อแท้ๆทำมิดีมิร้าย

ทำไปเพราะรัก นักเรียนหญิง ป.6 ถูกพ่อแท้ๆทำมิดีมิร้าย

วันที่ 3 ก.พ.65 ความคืบหน้ากรณี ครูประจำชั้น ป.6 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอวิเชียรบุรี พาตัวเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี เด็กนักเรียนชั้น ป.6 เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.วิเชียรบุรี เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2564 ว่าถูก นายประมวล (ขอสงวนนามสกุล) 33 ปี ซึ่งเป็นพ่อแท้ ๆ ชาวอำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ ก่อเหตุลงมือข่มขืน และทำร้ายร่างกาย ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รวมรวมพยานหลักฐาน และสอบสวน ร่วมกับสหวิชาชีพ ล่าสุดศาลจังหวัดวิเชียรบุรี ได้ออกหมายจับ กุมตัวนายประมวล (สงวนนามสกุล) แล้ว โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บ้านพัก ขณะที่นายประมวลไม่มีท่าทีขัดขืน แถมยังยอมรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริง

ส่วนพฤติกรรม ที่ผู้เป็นพ่อลงมือกับลูกสาวคือ เมื่อ ช่วงเดือน เมษายน 2564 ผู้เป็นพ่อ ได้เดินทางไปรับเด็กหญิงเอ จากบ้านของป้าที่ต่างจังหวัดทางภาพอีสาน ทั้งนี้เนื่องจากเด็กหญิงเอ หลังจากที่แม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เมื่อราว 3 ปีก่อน ฝ่ายผู้เป็นป้าได้เดินทางไปรับศพ และรับเด็กหญิงเอกลับไปเลี้ยงดูที่จังหวัดทางภาคอีสาน จนเวลาผ่านไป 3 ปี นายประมวล ซึ่งเป็นพ่อแท้ ๆ ก็เดินทางไปขอรับลูกสาวจากป้า เพื่อกลับมาเลี้ยงดู โดยเด็กหญิงเอมาอยู่กับพ่อที่อำเภอวิเชียรบุรี เมื่อช่วงเดือน เมษายน 2564 และ ภายในเดือนนั้น นายประมวล พ่อแท้ ๆ ก็ได้ก่อเหตุลงมือข่มขืนลูกสาวในไส้ อาจจะด้วยสาเหตุที่เมายาเสพติด จึงลงมือทำมิดีมิร้ายและทำร้ายร่างกายลูก

หลังจากนั้น นายประมวล ก็พยายามที่จะมุดมุ้งเข้าหาลูกสาว หลายครั้ง จนปัจจุบัน เด็กสาวกลายเป็นเด็กซึมเศร้า ไม่ร่าเริง เลือกที่จะคบเพื่อน ไม่ค่อยพูด ไม่ยอมเล่นกับเพื่อนเหมือนเด็กทั่วไป แถมทุกครั้งที่โดนพ่อทำร้ายร่างกายเด็กหญิงเอก็จะเกิดความเครียด จนแอบกินยาพารา วันล่ะ 5-9 เม็ด ทุกครั้งที่ถูกพ่อทำร้าย ยิ่งมาระยะหลัง ผู้เป็นพ่อยิ่งทำร้ายร่างกายน้องบ่อยขึ้น ทางเด็กหญิงเอ ก็แอบกินยาพาราบ่อยขึ้น

จากการสอบถาม นายประมวล กล่าวว่า ตนเองยอมรับว่าลงมือก่อเหตุกับลูกสาวตนเองจริง เพราะแค่อยากจะรู้ว่าลูกเคยมีอะไรมาก่อนหรือไม่ คือตอนทำรู้ตัวบ้างไม่รู้ตัวบ้าง ส่วนเหล้ามีนานๆ ที ยานั้นเคยเสพมานานแล้ว ส่วนเรื่องมีอะไรกับลูกสาวเคยทำแค่ครั้งเดียว เสียใจที่ทำลงไป เพราะความรักลูกจึงทำลงไปเพราะแค่อยากจะรู้ว่าเขาใช่ลูกตนไหม

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ