เมื่อวันที่ 31 ม.ค.65 ที่ผ่านมา เวลา 19.45 น. ร.ต.อ.นราศักดิ์ นันทะบุตร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุ รถไฟชนกับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ มีผู้เสียชีวิต บริเวณทางพาดรถไฟหนองขอนกว้าง ถนนเลี่ยงเมือง เทศบาลตำบลหนองขอนกว้าง จึงพร้อมด้วย นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.อุดรธานี พ.ต.ต.รัฐนันท์ ภูชะล้ำ สว.รถไฟอุดรธานี แพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรม รุดไปตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุพบรถไฟขบวนรถเร็วที่ 134 (หนองคาย-กรุงเทพมหานคร) ชนกับรถบรรทุกพ่วงยี่ห้ออีซูซุ สีขาวหมายเลขทะเบียน 82-5888 ศรีสะเกษ จอดอยู่ริมถนนห่างจากทางพาดรถไฟประมาณ 50 เมตร ส่วนตัวพ่วงหมายเลขทะเบียน 82-5889 ศรีสะเกษ บรรทุกมันเส้นมาเต็มคัน และ หัวรถจักรขาดตกลงไปในคลองระบายน้ำรอบเมืองอุดรธานี

ใกล้สี่แยกบายพาสบ้านจั่น กว้าง 10 เมตร ลึก 5 เมตร พบศพ นายวุฒิชัย พขร. หรือ พนักงานขับรถไฟ กระเด็นตกอยู่ริมรางรถไฟ ส่วน นายเจนณรงค์ ช่างเครื่อง ตกอยู่ในคลองข้างหัวรถจักร ส่วนรถไฟขบวนดังกล่าวยังจอดอยู่บนรางห่างไปประมาณ 50 เมตร ผู้โดยสารไม่ได้รับบาดเจ็บ และยังอยู่บนตู้โดยสาร 9 โบกี้ โดยนายสยาม ศิริมงคล ผวจ.อุดรธานี ได้ขึ้นไปบนขบวนรถไปและสอบถามประชาชนที่นั่งโดยสารมา มีจำนวน 88 คน มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเป็นอะไรไหม ซึ่งทุกคนปลอดภัยดี แต่ก็รู้สึกตกใจเหมือนกัน

จากการสอบสวน นายสุรชัย อายุ 36 ปี คนขับรถบรรทุกพ่วง ให้การว่า ตนขับรถบรรทุกมันสำประหลังเส้นจาก จ.บึงกาฬ มาด้วยกัน 3 คัน ไปส่งที่ จ.ปราจีนบุรี โดยตนขับมาเป็นคันแรก ขับมาไม่เร็วเพราะมีรถบนถนนมาก เมื่อขับมาถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นทางพาดรถไฟ ไม่มีสัญญาณแจ้งเตือนและเหล็กกั้นไม่ได้ลงมากั้นทาง ตนจึงขับผ่านและมีเสียงสัญญาณดังขึ้น 2-3 ครั้ง เหล็กกั้นยังไม่ลงมา พอตัวรถบรรทุกผ่าน รถไฟได้พุ่งชนตัวพ่วงจนขาดหลุด แรงชนทำให้ตัวพ่วงขาดตกลงไปในคลอง ตนได้ประคองรถไปจอดห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร ไม่คิดว่าหัวรถจักรจะขาดและตกลงไปด้วย

นายประมวล อายุ 48 ปี คนขับรถพ่วง 18 ล้อ เพื่อนร่วมงานนายสุรชัยเผย ตนขับรถมาเป็นคันที่ 2 ขับตามหลังรถพ่วงที่ถูกรถไฟชน โดยช่วงก่อนเกิดเหตุ ตนเห็นสัญญาณไฟ และเสียงเตือนรถไฟมา แต่ไม่เห็นรถไฟตนจึงได้ชะลอรถ เพราะไม้กั้นก็ไม่ลงมา แล้วรถพ่วงคันหน้าช่วงตัวแม่ขับผ่านทางรถไฟไปแต่ตัวลูกพ่วงไม่ผ่าน ถูกรถไฟก็ชนเข้าเต็มแรง แล้วรถไฟก็ผ่านหน้ารถตนไป ตนก็มองหาเพื่อนดูไม่เห็นตัวแม่ เห็นแต่ตัวลูกพ่วงถูกชนตกลงไปในคลอง ซึ่งตนก็มองไปเห็นว่าตัวแม่พ่วงไปจอดอยู่อีกด้าน โดยคนขับไม่เป็นอะไร

นายสุชาติ พนักงานกั้นรถไฟ ตนทำงานอยู่ที่ทางพาดจุดเกิดเหตุ มีการส่งสัญญาณมาบอกว่ารถไฟจะมา ตนไม่ได้ลงเหล็กกั้นช้า แต่เป็นการรอทางกัน รถอีกขบวนยังไม่ถึงสถานีข้างหน้า รถไฟต้องจอดถ้าเรายังไม่ให้สัญญาณ ถ้าเหล็กกั้น 4 ต้นยังไม่ลงมาสนิทรถไฟผ่านทางพาดไม่ได้ มันจะมีสัญญาณบอกว่าเครื่องกั้นลงสนิทแล้ว ตนยังไม่ทันได้เปิดรถไฟก็พุ่งออกมาตนก็ตกใจ เพราะเหล็กกั้นยังไม่ลงมากั้นทาง

พ.ต.ต.รัฐนันท์ ภูชะล้ำ สว.รถไฟอุดรธานี ขั้นตอนต่อจากนี้พนักงานสอบสวนจะได้สอบหาข้อเท็จจริง ส่วนตำรวจรถไฟช่วยเก็บข้อมูลพยานหลักฐานพนักงานสอบสวน รายงานผู้บังคับบัญชาในส่วนของตำรวจรถไฟให้ทราบ ส่วนการแก้ไขป้องกันเหตุ ต้องหารือประชุมร่วมกันระหว่างพนักงานรถไฟ กับตำรวจรถไฟ และหลายฝ่ายในจังหวัด และเป็นเรื่องของตัวบุคคล ส่วนฝ่ายไหนจะถูกหรือผิดก็ต้องรอการสอบสวนอีกครั้ง

ขอบคุณ สนุกดอทคอม