เครื่องเซ่นไหว้ตรุษจีนราคาพุ่ง ทำตรุษจีนชายแดนใต้เงียบเหงา
เมื่อวันที่ 30 ม.ค.65 บรรยากาศวันจ่าย ในช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีน ที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ชาวไทยเชื้อสายจีนต่างออกมาจับจ่ายซื้ออาหารสด และผลไม้มงคล เครื่องเซ่นไหว้กันอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่คึกคัก ทำให้ยอดขายในปีนี้ไม่ดี เท่าช่วงเทศกาลตรุษจีนปีที่ผ่านมาโดยวันนี้ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง ตามแผงผัก ผลไม้ และร้านขนมมงคล เครื่องเซ่นไหว้บูชา ซึ่งในวันนี้เป็นวันจ่ายในเทศกาลตรุษจีนพบว่าบรรยากาศการจับจ่ายซื้อขายเครื่องเซ่น ไหว้ต่าง ๆ เช่น เครื่องเซ่นไหว้กงเต๊ก กระดาษเงิน กระดาษทอง เงิน ทอง อาหารแห้ง หมู ไก่ ผัก ผลไม้ ที่จะนำไปเซ่นไหว้ให้กับบรรพบุรุษ ในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จะถึงนี้เป็นไปด้วยความเงียบเหงามีลูกค้าบางตากว่าปีที่ผ่านมา
เจ้าของ ร้านขายขนมมงคล ในเขตเทศบาลเมืองเบตง บอกว่า ก่อนวันตรุษจีนปีนี้ ได้สั่งซื้อสินค้าขนมมงคลที่สำหรับการเซ่นไหว้ในช่วงเทศกาลตรุษจีนจีนมาจำหน่ายลดลง สาเหตุมาจากความไม่มั่นใจกับสถานการณ์การแพร่ระบาด ประกอบกับประชาชนได้รับผลกระทบจาก การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 มากว่า 2 ปีทำให้ ขาดสภาพคล่อง
ส่วนทางด้านเศรษฐกิจ รายได้ก็ลดลง ส่งผลให้การจำหน่ายซื้อของเครื่องเซ่นไหว้ของแต่ละครอบครัวลดลง โดยจะเลือกซื้อสิ่งของที่จำเป็นและที่ใช้สำหรับพิธีไหว้เจ้า และบรรพบุรุษเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย โดยพบว่าสินค้าบางประเภท ราคาปรับเพิ่มขึ้น เช่นเทียน กระดาษเงินกระดาษทอง ปรับขึ้น 5 บาท ส่วนสิ้นค้าอื่นๆ ราคาคงเดิม
ขณะที่พ่อค้าผลไม้ บอกว่า ตนเองไม่ค่อยได้รับผลกระทบเท่าไหร่นัก เนื่องจากผลไม้ที่นำมาขายเป็นพวกส้ม องุ่น แก้วมังกร ซึ่งช่วงนี้พอขายได้และขายราคาไม่แพงเพราะเข้าใจถึงเศรษฐกิจในช่วงนี้ดี เลยไม่ปรับขึ้น ยังคงขายราคาเดิมเพื่อที่จะให้ประชาชนได้เซ่นไหว้บรรพบุรุษในวันตรุษจีน
ส่วนราคาผลไม้มงคลที่ใช้สำหรับการไหว้ในวันตรุษจีนโดยเฉพาะผลไม้มงคล 5 อย่างที่ขาดไม่ได้ เช่น กล้วยหอมหวีละ 80 บาท ส้มโชกุนเบตงกิโลกรัมละ 60 บาท ส้มสายน้ำผึ้งกิโลกรัมละ 60 บาท ส้มแมนดาริน กิโลกรัมละ 120 - 130 บาท แอปเปิ้ล ลูกละ 10 - 35 บาท , สาลี่กิโลกรัม 70 – 80 บาท , องุ่นกิโลกรัมละ 180 – 200 บาท ซึ่งปรับราคามาแล้วเฉลี่ยกิโลกรัมละ 10 - 20 บาท
บรรยากาศทั่วไปพบว่าประชาชนที่มาจับจ่ายในตลาดสดเทศบาลเมืองเบตงปีนี้ไม่คึกคักเท่าที่ควร ถือว่าการจับจ่ายซื้อของเครื่องเซ่นไหว้ในช่วงเทศกาลตรุษจีนลดน้อยลง สาเหตุมาจากปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง รวมถึงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในระลอกใหม่นี้ด้วย เลยทำให้ประชาชนวิตกกังวลในเรื่องปัญหาเศรษฐกิจเลยทำให้การจับจ่ายลดลงเพื่อเป็นการประหยัดหากเกิดการแพร่ระบาดของไวรัศโควิด-19 หลังเทศกาลตรุษจีน เนื่องจากมีการเดินทางและการพบปะคนในครอบครัวรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนหากไม่มีการป้องกันที่ดี อาจเกิดการระบาดและเกิดการจำกัดพื้นที่
ข่าวโดย เจษฎา สิริโยทัย ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดยะลา