เสนาหอย เปิดใจเล่าวันบริษัทเจ๊ง ลักษ์ 666 - สาระแนโชว์ กอดคอ วิลลี่ แบกรับหนี้ 106 ล้าน

เสนาหอย เปิดใจเล่าวันบริษัทเจ๊ง ลักษ์ 666 - สาระแนโชว์ กอดคอ วิลลี่ แบกรับหนี้ 106 ล้าน

กอดคอเคียงบ่าเคียงไหล่กันมาเสมอ สำหรับสองเพื่อนซี้ เสนาหอย และ วิลลี่ แมคอินทอช เคียงข้างทำธุรกิจร่วมกันมาตลอด แม้ในอดีตจะไม่ประสบความสำเร็จ และเคยแบกรับภาระหนี้ร่วมกันสูงกว่า 100 ล้านบาท

ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2565 เสนาหอย เล่าประสบการณ์เรื่องนี้ผ่านรายการ โต๊ะแชร์มหาชน ซึ่งมี นีโน่ เมทนี และ วิลลี่ แมคอินทอช เป็นพิธีกร เมื่อถามว่าเคยทำธุรกิจแล้วเจ๊งหรือไม่ เสนาหอย ก็ลุกขึ้นเล่าให้ฟังทันทีว่า ไม่รู้ว่าความเจ๊งคืออะไร แต่ทำมาตั้งนานไม่ได้เงินเลย แบบนี้ถือว่าเจ๊งหรือไม่

ยังพูดไม่ทันถึงไหน ดีเจนุ้ย ก็ถามแทรกขึ้นมาว่า เมื่อก่อนบริษัทพี่มีเพื่อนรักอีกคนไม่ใช่เหรอ ถ้าจะเล่าเรื่องแบบนี้ก็ควรมานั่งเล่าให้ครบกันทั้ง 3 คน แซวมาแบบนี้ เสนาหอย ถึงกับวิ่งเข้าใส่เลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม เสนาหอย ยืนยันว่าพูดถึงได้ไม่มีปัญหา

จากนั้นเล่าต่อว่า เมื่อก่อนไม่มีใครไม่รู้จักบริษัท ลักษ์ 666 เมื่อก่อนเรามีกันอยู่ 3 คน (เปิ้ล นาคร-วิลลี่,เสนาหอย) ตอนนั้นทำรายการ สาระแนโชว์ ช่อง 3 เราสัญญากัน 3 คนว่า รายการนี้จะต้องขึ้น Top 5 ภายใน 3 เดือน แต่แค่เปิดตัวอาทิตย์แรกก็ติดอันดับเลย

หลังจากนั้นก็ไปทำหนังสือต่อ เป็นพวกนิตยสารดารา ทำภาพยนตร์ เปิดช่องวิทยุ ทำทุกอย่างมาหมดแล้ว เมื่อก่อนเรามีพนักงานทั้งหมด 260 คน เวลาจัดเลี้ยงปีใหม่ ลงทุนปิดทั้งเกาะ เดือนหนึ่งทำกำไรประมาณ 1.8 ล้านบาท แต่ไม่น่าเชื่อว่าไม่ถึง 3 เดือน กลับเป็นหนี้ 10 กว่าล้านบาท ชีวิตของผมพังภายในไม่ถึงปี เมื่อมีทีวีดิจิทัลเข้ามา

ตอนนั้นเราตัดสินใจปิดบริษัททันที เสนาหอย โทร. หาวิลลี่บอกว่าเราคงต้องปิดไปก่อน หลังจากปิดบริษัทได้ก็มาเช็กทรัพย์สินกัน ตอนนั้นวิลลี่เดินมาบอกว่ามีข่าวดี เราปิดบริษัทได้แล้ว แต่มีข่าวร้ายเยอะมาก เสนาหอย ก็บอกเพื่อนว่าพูดมาเลย รับได้ แล้ววิลลี่ก็บอกว่า เราสองคนเป็นหนี้อยู่ 106 ล้านบาท แทบเป็นลมเลย

จากนั้นคุยกับวิลลี่ว่าเราจะเอาอย่างไรดี หรือเราทำง่าย ๆ คือ ปล่อยล้มละลายไปเลย ตอนนั้น วิลลี่ บอกว่าแล้วคนที่เราเป็นลูกหนี้เขาล่ะ คนที่เขารอเงินจากเราจะทำอย่างไร สรุปเราเลยรับภาระหนี้กันคนละครึ่ง

ต่อมาปรึกษากันว่าจะทำอะไรดี แต่คุยกันว่ารายการทีวีไม่ทำแล้ว เพราะตอนนั้นมูลค่าเงินมันหายไปเยอะ สุดท้ายเราก็คิดว่าทำงานรับจ้าง หาอะไรที่เรามีความสุขทำ แล้วใช้หนี้ไปเรื่อย ๆ เราก็ทำลองยูทูบด้วย ทำรายการสัตว์ รายการเกษตร ลงออนไลน์ นอกนั้นก็รับจ้างไป ส่วนวิลลี่ก็ต่อยอดทำอาหารสุนัข อาหารปลา

สุดท้าย นีโน่ สรุปว่าถ้าวิลลี่กับหอยปล่อยล้มละลาย คนเดือดร้อนจะมีอีกเยอะ การที่จะกลับมาหาเงินใหม่มันจะไม่มีโอกาสอย่างนี้ เราไม่ไปเหยียบย่ำซ้ำเติมใคร แล้วพาตัวเองผ่านพ้นวิกฤตไปได้ คนอื่นไม่เดือดร้อนไปกับเราด้วย ศักดิ์ศรี หน้าตา ความบริสุทธิ์ใจของเรา มันทำให้วิลลี่กับหอยยังมีงานทำอยู่ทุกวันนี้

ข้อมูลและภาพจาก TV Thunder

เรียบเรียงโดย ทีมงาน siamnews

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ