เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 21 มกราคม ที่ผ่านมา จู่ ๆ เอียนนาซโซก็บุกเข้ามาในร้านคาเฟ่แ่หงหนึ่ง โดยจากคลิปที่พนักงานคนอื่นบันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นเอียนนาซโซที่อยู่ในอารมณ์โกรธ พูดกับพนักงานในร้านว่า ฉันต้องการคุยกับไอ้คนที่ทำเครื่องดื่มนี้ เพื่อจะเอาเรื่อง เนื่องจากสมูทตี้แก้วดังกล่าวทำให้ลูกชายของเขาเกิดปฏิกิริยารุนแรงจากการแพ้ถั่ว

พนักงานพยายามอธิบายว่าพวกเธอก็ไม่รู้เช่นกันว่าใครเป็นคนทำ เพราะตอนนั้นมีพนักงานอยู่ในร้านถึง 4 คน ซึ่งเมื่อได้ฟังคำตอบเอียนนาซโซก็ยิ่งไม่พอใจ ด่าพวกเธอว่าเป็นเด็กม.ปลายงี่เง่า ทำให้พนักงานสาวที่สวมเสื้อน้ำเงินของขึ้น พยายามจะไล่ให้เขาออกไปและเดินเข้าไปใกล้

แต่สถานการณ์กลับยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นจากนั้น เมื่อเอียนนาซโซปาแก้วดังกล่าวใส่พนักงานสาว และพยายามจะบุกเข้ามายังพื้นที่เฉพาะพนักงาน ทำให้พนักงานในร้านแตกตื่น ขู่ว่าจะแจ้งตำรวจ ซึ่งในระหว่างที่มีการถกเถียงกัน เอียนนาซโซก็ด่าใส่หน้าพนักงานสาวว่า ผู้อพยพขี้แพ้ ต่อมา 22 มกราคม สำนักงานตำรวจเมืองแฟร์ฟิลด์ ออกแถลงการณ์ระบุว่า เจมส์ เอียนนาซโซ ได้มาติดต่อขอมอบตัว ก่อนจะถูกปล่อยตัวไป และมีกำหนดขึ้นศาลหลังจากนี้

อย่างไรก็ตาม ทนายความของเอียนนาซโซ ได้ออกแถลงการณ์ผ่านทวิตเตอร์ ชี้ว่าลูกความของเขาได้เน้นย้ำกับพนักงานของร้านแล้ว ว่าจะต้องไม่มีการใส่ถั่วลิสงลงไปในสมูทตี้ และในใบเสร็จสำหรับคำสั่งซื้อนี้ก็ระบุชัดว่าไม่ควรมีเนยถั่วพีนัทบัตเตอร์เป็นส่วนประกอบ

เพราะหลังลูกชายของเอียนนาซโซกินสมูทตี้เข้าไป ก็เกิดอาการแพ้จนต้องถูกนำตัวขึ้นรถฉุกเฉินส่งโรงพยาบาล แต่ระหว่างที่ถูกเจ้าหน้าที่สอบสวน พนักงานอ้างว่าเอียนนาซโซไม่เคยบอกพวกเธอเกี่ยวกับเรื่องการแพ้ถั่ว แค่ร้องขอว่าไม่ให้มีเนยถั่วในเครื่องดื่มเท่านั้น

ในขณะที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์หนัก โฆษกของ Bank of America ก็ได้ออกมาเปิดเผยในวันที่ 22 มกราคม ว่าทางบริษัทจะไม่ทนต่อพฤติกรรมดังกล่าว โดยมีการสอบสวนและดำเนินการทันที ทำให้ขณะนี้เอียนนาซโซไม่ได้รับการว่าจ้างโดยบริษัทแล้ว

ด้าน บาร์บารา คารูโซ โฆษกของ Robeks ร้านสมูทตี้แบรนด์ดังกล่าว ได้ออกมาเผยความยินดีที่พนักงานของสาขาดังกล่าวไม่ได้รับบาดเจ็บทางร่างกาย และแสดงความซาบซึ้งต่อเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ทางแบรนด์จะมีการสอบสวนข้อกังวลเกี่ยวกับคำสั่งซื้อที่เป็นปัญหานั้นด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก นิวยอร์กไทม์ส