สาวแสบออกอุบาย 2 ผัวเมียแก้เคล็ดให้เอาเงินไปใส่ดินสูญกว่า 33 ล้าน
ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากสองสามีภรรยา อดีตอาจารย์เกษียณอายุราชการ ในพื้นที่ ตำบลเกาะโพธิ์ อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก หลังถูกนางกุ้ง ภรรยาของคนงานที่มาทำงานเป็นคนขับรถเกี่ยวข้าว เมื่อปี 2553 ซึ่งตั้งแต่ที่เข้ามาทำงานนางกุ้งก็ได้มีความสนิทสนมกับครอบครัวสามารถเข้านอกออกในบ้าน รวมถึงพูดคุยจนสนิทใจ จนกระทั่งเรื่องเกิดขึ้นเมื่อ 2560 นางกุ้งได้ไปที่ที่ดินจังหวัดนครนายก เกิดพบกับแม่ชีคนหนึ่งชื่อ แม่ชีมาลี เป็นชาวจังหวัดนครนายก และไปบวชที่เขาวงพระจันทร์ จังหวัดลพบุรี โดยบังเอิญ ซึ่งแม่ชีคนนี้ได้ทำนายทายทักนางกุ้งแม่นทุกอย่าง นางกุ้งจึงได้กลับมาบอกพร้อมให้เบอร์ติดต่อเพื่อให้ได้ดูดวงกับแม่ชี จากนั้นได้โทรหาแม่ชีตามที่นางกุ้งบอก จากนั้นแม่ชีก็ได้ทำนายทายทักตนเรื่องครอบครัวแม่นทุกอย่าง จึงทำให้ตนเกิดความเชื่อ
จากนั้นนั้นนางกุ้งก็ได้เริ่มชักชวนตนให้ซื้อที่ดินมาเรื่อยๆ รวมๆแล้ว 33 แปลง ประมาณ 400 กว่าไร่ โดยนางกุ้งบอกกับตนว่าที่ดินตรงไหนที่จะซื้อหากเกิดติดปัญหา ซื้อยาก หรือเจ้าของไม่ลดราคาหรือไม่ยอมขายให้ ก็จะให้แม่ชีมาลีนั้นช่วยทำพิธี โดยการแก้เคล็ดให้นำเงินไปใส่ในดินรอบๆตัวเอง โดยมีข้อแม้ว่าให้นำเงินส่งให้นางกุ้ง จากนั้นให้หันหลังห้ามหันกลับมามอง จากนั้นก็ให้นางกุ้งนำไปขุดหลุมภายในรั้วบ้าน โดยมีเงื่อนไข มูลค่าที่ดินหากราคา 1 ล้านบาท ก็จะใช้เงินนำไปฝั่ง 1 แสนบาท ที่ผ่านมาได้ทำแบบบนี้มากกว่า 50 ครั้งตั้งแต่ปี 60 จนถึงวันที่ 1 มกราคม 2565 ที่ผ่านมาตนไม่เคยเอะใจว่าจะถูกนางกุ้งหลอกเนื่องจากไว้ใจและรักในตัวนางกุ้งที่ทำงานและอยู่ด้วยกันมานาน
กระทั่งตนเองมีความาจำเป็นต้องใช้เงินนำไปใช้หนี้จึงโทรหาแม่ชีมาลี ว่าจะขอขุดเงินที่ทำไว้มาใช้หนี้ ซึ่งแม่ชีมาลีบอกว่าต้องให้นางกุ้งเป็นคนขุดเงินขึ้นมา จากนั้นนางกุ้งได้เข้ามาหาที่บ้านและได้เดินไปขุดนำเงินที่ฝังขึ้นมาโดยอ้างว่าเงินที่ขุดขึ้นมาต้องเอาไปฝังในหลุมใหม่เพื่อเป็นการล้างหน้าเงินแก้เคล็ด จากนั้นก่อนที่นางกุ้งจะกลับได้กำชับตนว่าห้ามขุดเงินขึ้นมาให้รอตนเป็นคนขุดขึ้นมา จนกระทั่งเวลาผ่านไปจนถึงเวลาประมาณ ตี 2 นางกุ้งก็ยังไม่มาอย่างที่บอกกับตนไว้ จึงเกิดเอะใจพฤติกรรมของนางกุ้ง เข้าวันรุ่งขึ้นจึงได้เดินทางไปขอความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากพลี เพื่อมาร่วมขุดเงิน แต่เมื่อขุดขึ้นมาก็พบว่าภายในเป็นส้มโอ หิน และกระดาษ จึงรู้ว่าที่ผ่านมาตนถูกนางกุ้งหลอกมาตลอด จากที่ทุกอย่างถูกเปิดเผยนางกุ้งได้เข้ามากราบและบอกกับตนว่าจะหาเงินมาใช้คืนทุกบาทุกสตางค์จำนวนกว่า 33 ล้านบาท จนกระทั่งวันที่ 21 มกราคม 2565 ตนก็ไม่สามารถติดต่อนางกุ้งได้อีก
จากนั้นได้พาผู้สื่อข่าวเดินรอบบริเวณบ้าน ชี้จุดที่นำเงินไปฝังตามจุดต่างๆโดยจะฝั่งใต้ต้นมะยงชิดที่ปลูกเอาไว้ และจะมีธูปเทียนจุดเหมือนทำพิธีให้ดูน่าเชื่อถือทุกครั้ง
ขณะเดียวกันก็มีชาวบ้านในพื้นที่ที่รู้ข่าวได้เดินทางมายังบ้านของผู้เสียหายรายนี้ พร้อมแจ้งว่าตนก็ถูกนางกุ้งใช้อุบายเดียวกันกับที่หลอกผู้เสียหายรายนี้ ซึ่งบางคนไม่มีเงินก็จะใช้อุบายว่าให้โอนเงินจำนวน 5 พัน ถึง 1หมื่นบาท ฝากตนไปให้แม่ชี เพื่อให้แม่ชีทำพิธีให้ แต่ผู้เสียหายและชาวบ้านที่ถูกนางกุ้งหลอก ต่างพูดตรงกันว่าไม่มีใครเคยเห็นแม่ชีมาลีคนนี้มาก่อนเลย โดยชาวบ้านที่ถูกหลอกได้ตั้งข้อสังเกตว่าแม่ชีมาลีนั้นอาจไม่มีตัวตนจริงๆ รวมถึงเจ้าของที่ดิน ส่วนเสียงโทรศัพท์ที่พูดคุยกับแม่ชี หรือเจ้าของที่ดินนั้น น่าจะมาจากนางกุ้งใช้แอปพิเคชั่นเปลี่ยนเสียงตนเองเป็นบุคคลต่างๆที่นางกุ้งแอบอ้างในการหลอกผู้เสียหายทั้งหมด