คดีตำรวจขี่จยย.ชน หมอกระต่าย รอง ผบช.น. เผยแจ้ง 7 ข้อหาหนัก
ความคืบหน้าคดีตำรวจขี่จยย.ชน หมอกระต่าย พล.ต.ต. จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเลขา ผกก.พญาไท เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณี สิบตำรวจตรีนรวิชญ์ บัวดก ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน ขี่บิ๊กไบค์ชนหมอกระต่าย ว่าล่าสุดตำรวจแจ้ง 7 ข้อหาหนัก ได้แก่
1.ขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
2.นำรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาใช้ในทาง
3.ไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมายบนพื้นทาง นั่นก็คือไม่หยุดรถให้คนข้าม
4.ขับรถไม่ชิดขอบทางด้านชัาย
5.ฝ่าฝืนใช้รถที่ไม่ได้เสียภาษีประจำปี
6.นำรถไม่สมบูรณ์มาขับ เพราะไม่ติดกระจกหลัง
7. มีพ.ร.บ. แต่ไม่มีประกัน
จากการตรวจสอบของตำรวจ ยืนยันว่ารถของสิบตำรวจตรีนรวิชญ์ ไม่ใช่รถของกลาง แต่เป็นรถที่ซื้อมามือสอง ในราคา 113,000 บาท มีเอกสารการซื้อขายและใบโอนลอย ในวันที่ 14 ธ.ค. ไม่ใช่รถของกลางอย่างแน่นอน
ส่วนการพิสูจน์หลักฐาน หลังถูกกล่าวอ้างว่า ตำรวจทำงานล่าช้า จนตกเป็นประเด็นว่า ศพของหมอกระต่าย ต้องกลายเป็นศพนิรนามถึง 2 ชั่วโมงจึงอยากชี้แจงว่า การตรวจพิสูจน์หลักฐานไม่ได้ล่าช้า โดยตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมครับครบวงจรปิด
หลังจากนั้นได้กลับมาที่สน. พญาไทเพื่อที่จะติดต่อญาติ ของหมอกระต่ายและได้ประสานกับทางแพทย์ของโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่องแต่ยอมรับว่าหลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนไม่สามารถปลดล็อกโทรศัพท์ของหมอกระต่ายได้
จนกระทั่งมีเพื่อนร่วมงานที่อ้างว่าชื่อนางสาวเฟิร์น โทรเข้ามาในเบอร์โทรของหมอกระต่ายทางตำรวจจึงได้แจ้ง แจ้งเพื่อนของหมอกระต่ายไปว่าหมอประสบอุบัติเหตุ และฝากให้คุณเฟิร์น ซึ่งเป็นเพื่อนของหมอกระต่ายแจ้งญาติ เพราะตำรวจไม่สามารถปลดล็อกโทรศัพท์ของหมอกระต่ายได้
จากนั้นคุณเฟิร์นก็โทรกลับมา บอกว่ายังไม่สามารถติดต่อกับญาติได้เช่นกัน จนเวลา 17:00 น พี่ชายอ้างว่าเป็นอาจารย์หมอติดต่อมา ที่ เบอร์โทร หมอกระต่าย ให้พนักงานสอบสวนส่งหลักฐานยืนยันตัวตน เพื่อดำเนินการตามขันตอน
ซึ่ง รอง ผบช. ขอความร่วมมือกับสื่อโซเชียล หยุดแชร์ภาพและข้อความ อย่าพยายามทำให้เกิดการเข้าใจผิดทั้งเรื่องของรถและการพิสูจน์หลักฐาน
รอง ผบช.น.ยอมรับว่าเป็นการแถลงข่าวที่ยากที่สุดตั้งแต่แถลงข่าวมา เพราะสูญเสียบุคลากรเชี่ยวชาญทางการแพทย์ ด้านจักษุ ที่มีไม่กี่คนในประเทศ โดยผู้เสียชีวิตก็เป็น แพทย์โรงพยาบาลตำรวจ นับว่าเป็นการสูญเสียบุคลากรคนสำคัญของของโรงพยาบาลตำรวจด้วย
บช.น. จึงแสดงอาลัยให้กับแพทย์ผู้เสียชีวิต ยืนยันจะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาให้ถึงที่สุด ไม่มีการละเว้นใดๆทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นตำรวจและประชาชน ก็จะถูกดำเนินคดีเหมือนกัน
ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาและผู้ต้องหามีจุดประสงค์ที่จะบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิต เบื้องต้นทราบว่าทางวัดยังไม่สามารถที่จะให้บวชได้เนื่องจากเป็นคดีอาญาอยู่ระหว่างการถูกดำเนินคดี ส่วนการบวชหน้าไฟที่วัดพระศรีมหาธาตุฯ ยังอยู่ระหว่างการประสานกับวัด และญาติซึ่งยังไม่แน่ใจว่าจะบวชได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม คดีตำรวจขี่จยย.ชน หมอกระต่าย รอง ผบช.น. เผยแจ้ง 7 ข้อหาหนัก ยันเปล่าทำงานล่าช้า