เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 21 ม.ค. 2565 นายบุรินทร์ อายุ 35 ปี ชาวห้วยทรายเหลือง หมู่3 ต.แม่ศึก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่าเมื่อช่วงเช้าวันที่ 20 ม.ค. 2565 ได้นำผักกาดขาวของชาวสวนบ้านกลาง ต.แม่สึก อ.แม่แจ่ม ประมาณ 1 ลำรถกระบะรั้ว มีน้ำหนักประมาณ 2,000 กว่ากิโลกรัม เดินทางพร้อมผัวเมียเจ้าของสวนผัก จากบนดอยนำมาขายตอนใกล้รุ่งที่ ตลาดเมืองใหม่ ในตัวเมืองเชียงใหม่ มีพ่อค้า-แม่ค้าคนกลางมาขอซื้อเหมาทั้งลำรถในราคา 500 บาทบ้าง 600 บาทและ 800 บาทบ้าง ตกราคาแค่กิโลกรัมละ 25 สตางค์เท่านั้น

ทางตนคิดว่าราคาถูกไม่คุ้มทุนค่าน้ำมันรถก็ปาเข้าไป 7,800 บาท แล้ว ยังไม่คิดค่าแรงงานทั้งตัดผัก ค่าขนขึ้นรถอีก ให้แค่ราคานี้จึงไม่ขายแจกให้ชาวบ้านที่ประสบปัญหาที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ และCv-19 จะดีกว่า จึงสอบถามไปยังเพื่อนๆ ถึงจุดที่จะนำผักกาดขาวไปแจก ได้รับแจ้งว่าที่หมู่บ้านบริเวณวัดนางเหลียว ต.หนองจ็อม อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ดังนั้นได้นำไปแจกให้ชาวบ้านจนหมดลำรถ และตนก็ออกเงินค่าผักให้ชาวสวนไปจำนวนหนึ่ง

นายบุรินทร์ฯ ให้รายละเอียดว่าตนเป็นผู้ดูแลหอพักนักเรียนจากบนพื้นที่สูงตั้งอยู่ที่บ้าน ที่มาเรียนโรงเรียนบ้านกาดวิทยาคม ก่อนหน้านั้นได้มีนักเรียนที่พ่อแม่มีอาชีพปลูกผักกาดขาวมาปรึกษาว่ามีที่ขายผักกาดขาวไหม ทางตนบอกว่ามีจะช่วยนำรถกระบะรั้วไปบรรทุกมาขายให้ในตัวเมืองเชียงใหม่

จากนั้นได้นำรถบรรทุกกระบะรั้วไปบรรทุกเต็มคันรถ เดินทางมาที่ตลาดเมืองใหม่พร้อมผัวเมียเจ้าของสวน เมื่อทราบว่าผักกาดขาวทั้งลำรถมีราคาแค่ 500-600 บาท ถึงกับพูดไม่ออก ตนจึงตัดสินใจซื้อผักทั้งหมดแล้วนำไปแจกให้ชาวบ้าน

ส่วนผักกาดขาวของชาวสวนพ่อแม่ของนักเรียนที่นำมาขายครั้งนี้เป็นผักที่ออกจากสวนลำแรก และยังมีอีกมากทั้งในพื้นที่ อ.แม่แจ่ม อ.แม่วาง และ อ.สะเมิง ขณะนี้ชาวสวนพากันเครียดหนักขาดทุนกันย่อยยับต้นทุนสูงทั้งค่าปุ๋ย ยา น้ำมัน ค่าแรงงาน อุปกรณ์การเกษตรแพงไปหมด

ตอนนี้ชาวสวนต่างหมดหวังสิ้นหวังทั้งๆ ที่ลงทุนทุ่มเทเฝ้าดูแลรอคอยวันเก็บเกี่ยว แต่พอถึงวันนี้ ไหนจะคืนเงินกู้ ธกส.,กองทุนเงินล้าน,สหกรณ์และ หนี้สินอื่นๆ ลูกเรียนอีก แถม Cv-19 อีก ถ้า กก.ละแค่ 25 สตางค์พวกเขาจะอยู่ยังไรกัน

ที่มา chiangmainews