จากกรณี นายจำนงค์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 79 ปี ซึ่งพักอยู่ที่บ้านในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ร้องทุกข์ผ่านสื่อมวลชนว่า ตนเองพร้อมลูกสาว 4 คน ได้รับความเดือนร้อน

เนื่องจากถูกลูกสาวคนที่ 5 ฟ้องไล่ที่อยู่อาศัย หลังจากที่ตนเองแบ่งแยกโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินตามโฉนดเลขที่ดิน 24670 เพื่อให้ลูกทุกคนเท่า ๆ กันจะได้ไม่มีปัญหาในภายหน้า โดยมอบหมายให้ลูกสาวคนเล็กดำเนินการ

ล่าสุด วันที่ 21 ม.ค.2565 ที่บ้านพักในพื้นที่ ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี นายจำนงค์ และ นางวงษ์ ยังคงอยู่ในอาการซึมที่ปรากฏชัดผ่านสีหน้าและแววตาของทั้งสองคน โดยเฉพาะนายจำนงค์ซึ่งยังอยู่ในช่วงพักฟื้นหลังเข้ารับการรักษาตัว

จากการสอบถาม นางวงษ์ กล่าวว่า ตนเสียใจที่ลูกสาวฟ้องเพื่อไล่พ่อแม่และพี่น้อง เป็นเรื่องที่ทำไม่ถูก ตอนแรกยังคิดถึงลูกสาวคนนี้อยู่ แต่ตอนนี้ความรักความห่วงใยที่พ่อแม่มีให้กับลูกคนนี้ไม่มีแล้ว ไม่รู้ว่า ลูกสาวจะคิดสงสารพ่อแม่กับพี่น้องร่วมหรือไม่

ด้าน นายจำนงค์ กล่าวทั้งเสียงเศร้าว่า หลังจากร้องทุกข์กับสื่อมวลชนแล้ว ก็ได้เดินทางไปร้องศูนย์ดำรงธรรมฯ โดยได้ให้ลูกสาวพาไปร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรมปราจีนบุรี

ทางเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องร้องทุกข์ไว้แล้ว พร้อมให้การช่วยเหลือ และได้ประสานกับอัยการศาลจังหวัดกบินทร์บุรี ซึ่งทางอัยการศาลจังหวัดกบินทร์บุรีแนะนำว่า ให้ตนและลูก ๆ ที่ถูกฟ้องไล่ มาติดต่อทำเรื่องขอใช้อยู่อาศัยอย่างเปิดเผย ตั้งแต่ปี 2547 และจะหาทางช่วยเหลือ เน้นเรื่องที่ได้รับความเดือดร้อนให้เร็วที่สุด

นายจำนงค์ กล่าวต่อว่า ต้องขอบคุณสื่อมวลชนที่เป็นสื่อกลาง เหมือนเป็นคนแรกในการชี้ทางสว่างให้ ก่อนที่ทางฝ่ายราชการหรือทนาย ไม่อย่างนั้นจะต้องทนทุกข์ทรมานกับการที่ถูกลูกสาวแท้ ๆ ที่คิดจะไล่ให้ตนและพี่น้องไปอยู่ที่อื่น ยังไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหน ตอนนี้ติดต่อพูดคุยกับลูกสาวคนก่อเรื่องก็ไม่พูดคุยด้วย

อยากเห็นลูกสาวคนนี้กลับตัวกลับใจ พ่อแม่และพี่น้องให้อภัยเสมอในความผิดพลาด หากคิดที่จะมาแบ่งโอนที่ดินให้กับพี่น้องทุกคนตามเจตนารมณ์เดิมของตนเองที่ให้ไว้ ก็น่ายินดี แต่ไม่รู้ว่าจะได้รับสิ่งนั้นหรือไม่

อย่างไรก็ตาม พ่อ-แม่สุดเศร้า ติดต่อลูกสาวไม่ได้ หลังจากถูก ฟ้องไล่ เผย ความรักความห่วงใยที่เคยมีให้ตอนนี้ไม่เหลือแล้ว ระบุ เข้าร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรมแล้ว