กรณีเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 14 ม.ค. 65 ร.ต.อ.จันทร์ ปาสาเนาว์ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองร้อยเอ็ด รับแจ้งว่ามีเหตุหลังคาร้านคาร์แคร์เก่า ในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ล้มทับคนเสียชีวิต ภายหลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยแพทย์เวรจากโรงพยาบาลร้อยเอ็ด เจ้าหน้าที่กู้ภัยอโสกรุดจรวจสอบที่เกิดเหตุ ที่เกิดเหตุเป็นร้านคาร์แคร์เก่าพบหลังคาของที่ล้างรถ พังทับลงมาโดยทับร่างของนายจำปา พงษ์ภักดี อายุ 49 ปี ในสภาพคอหักเลือดไหลนองเต็มพื้น ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่สีแดง-ดำ ของผู้ตายจอดอยู่ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องตัดถ่างงัดนำเอาร่างออกมา

สอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายเป็นลูกน้องที่ร้านแต่ร้านได้เก็บของออกไปหมดแล้ว เลยไม่ทราบว่าผู้ตายเข้ามาที่ร้านเพื่ออะไร จากนั้นคนข้างบ้านได้ยินเสียงหลังคาล้มเสียงดัง จึงออกมาดูก็พบว่าหลังคาได้ทับผู้นายลงไปนอนนิ่ง จึงแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าระหว่างที่ผู้ตายขับรถเข้ามาจอดภายในหลังคาที่ล้างรถ จากนั้นได้ลงจากรถและเดินจะมาหาของแต่ดวงถึงฆาต หลังคาได้พังลงมาทับดับสยอง เบื้องต้นร้อยเวรสอบสวนได้ตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพื่อเก็บหลักฐาน สอบสวนพยานแวดล้อม สันนิษฐานเบื้องต้นว่าโครงเหล็กที่เป็นโครงสร้างอาจจะชำรุด จนพังทับร่างผู้ตาย หลังจากนี้อาสาสมัครกู้ภัยอโสกจะนำศพส่งมอบให้ญาติ ไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป

ล่าสุด ช่วงเย็นของวันที่ 14 ม.ค.65 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นร้านคาร์แคร์เก่า ริมถนนสุริยเดชบำรุง เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ตรวจสอบพบว่าจุดเกิดเหตุเป็นโครงหลังคาที่คลุมจุดจอดล้างรถ ซึ่งเป็นแผ่นหลังคาเมทัลชีตมีโครงเหล็กตั้งเป็นจั่ว 2 ขา ซึ่งพบว่าส่วนของขาตั้งได้มีรอยหัก

สอบถาม นายเฉลียว เดี่ยวขุนทด ผู้พบศพคนแรก กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุมองเห็นผู้ตายได้ขับขี่จักรยานยนต์เข้ามาจอดภายในร้านคาร์แคร์เก่า ที่ก่อนหน้านี้ได้มีการย้ายข้าวของออกหมดแล้ว ตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ตนก็คิดว่าผู้ตายน่าจะกลับมาเอาของที่อาจจะลืมเอาไว้ จึงไม่ได้เอะใจอะไร จู่ๆ ได้ยินเสียงดังคล้ายหม้อแปลงระเบิดดังโครม ซึ่งตนก็คิดว่าหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด เพราะแถวนี้จะเกิดขึ้นบ่อย หลังจากนั้นจึงได้เดินออกมาดูที่หน้าบ้าน ก็พบว่าโครงหลังคาในร้านคาร์แคร์เก่าได้ล้มลงมา ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่ามีคนเสียชีวิต หลังจากที่ตนเดินเข้าไปดูว่าทำไมโครงหลังคาถึงหักลง จึงพบผู้ตายนอนแน่นิ่ง จึงได้เข้าไปตรวจสอบดูก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว จึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ในเวลาต่อมา

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดบ้านหัวแฮด ตำบลรอบเมือง อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ นายจำปา พงษ์ภักดี (พี่แขก) บรรยากาศในงานเป็นไปอย่างโศกเศร้า มีเพียงกลุ่มนายจ้างที่อยู่ภายในงาน ซึ่งญาติพี่น้องของผู้ตายกำลังเดินทางมาจาก จ.มหาสารคาม เพื่อร่วมฟังสวดอภิธรรม ก่อนจะฌาปนกิจศพในวันพรุ่งนี้

นายนนท์ อดีตนายจ้างของผู้ตาย กล่าวว่า พี่แขกมาทำงานอยู่กับตนประมาณ 4-5 ปีที่แล้ว เป็นคนนิสัยดี พูดเก่ง ชอบเลี้ยงไก่ชน ไม่เคยมีครอบครัว มาทำงานตามพี่ชายซึ่งอยู่กับตนมาก่อนหน้านี้ ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาก็ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ ช่วงเช้าวันนี้ตนก็ได้รับโทรศัพท์จากร้านก๋วยเตี๋ยวที่อยู่ติดกันว่าพี่แขกถูกโครงหลังคาทับจนเสียชีวิต ตนจึงรีบออกมาดูก็ถึงกับตกใจ เพราะไม่คิดว่าพี่แขกจะมาด่วนจากไปเร็วขนาดนี้ ก็ยังไม่ทราบว่าพี่แขกออกมาทำอะไร เพราะตนก็ย้ายของออกจากร้านนี้ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งลักษณะการตายก็แปลๆ เพราะนั่งเหมือนหันหน้าไปทางขาตั้งที่หักล้มลง ถ้าพี่แขกมองเห็นทำไมถึงไม่หลบ เพราะถ้าหลบเพียงนิดเดียวก็จะพ้นโครงหลังคาแล้ว

อดีตนายจ้างของผู้ตาย กล่าวต่อว่า ส่วนลางสังหรณ์ก็คือ ในช่วงเช้าวันนี้ ก่อนเกิดเหตุพ่อของตนได้ขับรถไปตลาด ก็ชะลอรถมองไปเห็นพี่แขกนั่งคุยกับผู้ชายร่างใหญ่ สวมเสื้อดำ อยู่ในจุดที่ตาย หลังจากนั้นก็มาเกิดเหตุ ซึ่งในช่วงเช้าขนาดนั้น คงไม่มีใครเข้าไป แต่สงสัยว่าพี่แขกจะยืนคุยกับใคร นอกจากนี้พี่แขกก็ดูแปลกๆ ก่อนหน้านี้จะไม่เคยแต่งตัวหล่อ สวมเสื้อยีนส์ นุ่งกางเกงยีนส์ขายาวแบบนี้ ซึ่งชุดนี้ก็เป็นชุดที่ใส่ตั้งแต่เมื่อคืน

นายนนท์ กล่าวด้วยว่า พี่แขกยังเคยบอกอีกว่า “เสี่ยๆ อยากรวยไหม ซื้ออายุผมสิ” ก็ยังแปลกใจว่าทำไมถึงพูดเป็นลางแบบนี้ จนหลังจากเกิดเหตุตนก็ส่งวันเดือนปีเกิดไปให้หมอดูช่วยดูให้ หมอดูก็ทักว่าพี่แขกดวงขาดแล้ว มีคนเขาอยากให้มาอยู่ที่นั่น จึงทำให้แกได้กลับไปนั่งอยู่จุดนั้น ซึ่งตนก็มีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่พอสมควร ตนก็อยากฝากบอกพี่แขกว่าไม่ต้องเป็นห่วง ขอให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี เรื่องงานศพตนจะจัดการให้ทั้งหมด