สั่งตาม 7 นักโทษแหกคุกมทบ.11 หลังรวบ ได้แล้ว 2
วันนี้ 11 ธ.ค. 64 ที่ห้องปฏิบัติการชุดสืบสวน สภ.เมืองนครปฐม พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พร้อมด้วย พ.ต.อ.พงษ์สวัสดิ์ จำปาเชื้อ รองผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.อรรถการ กองสุผล ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.นฤพนธ์ วานิชนุเคราะห์ ผกก.สามควายเผือก พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรศรีนวล ผกก.สภ.เมืองนครปฐม พ.ต.ท.วรชัย อารักษ์รัฐ ผบช.เรือนจำกลางนครปฐม พร้อมด้วยชุดคลี่คลายคดีได้นำทีมสอบปากคำ 2 ผู้ต้องหาที่หลบหนี หลังเข้ามอบตัวโดยญาตินำส่งและมีหมายจับตามตัว โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
โดยพล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม ได้เข้าสอบปากคำ นายเอกราช แป้งกลั่น อายุ 18 ปี นักโทษชาย ตามความผิด พรบ.ยาเสพติด และนายนัถกร มาตรวัดแสง อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ ตามหมายจับเลขที่ 349/2564 ลงวันที่ 11 ธ.ค. 64 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันหลบหนีไประหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจศาลโดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป
ซี่งทั้งคู่ยังได้ให้การในเบื้องต้นโดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมเก็บข้อมูล และทราบชื่อไม่ตรงกับที่ได้แจ้งไว้ 2 รายก่อน ซึ่งทั้งนายบำรุง วงศ์สว่าง อายุ 43 ปี และนายจำรูญ คล้ายสุบรรณ อายุ 33 ปี ยังคงอยู่ในระหว่างการหลบหนี ร่วมกันพวกอีก 7 คน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการเร่งติดตามตัวอยู่
พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม เผยว่า ในการติดตามตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 คน นั้นได้ทราบข้อมูลแล้วแต่ยังไม่อยากให้ข้อมูลเพราะกลัวจะมีการรู้ข้อมูลในการหลบหนี โดยตอนนี้ได้ประสานญาติให้ทราบเรื่องแล้ว โดยได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ผบช.ภ.7 ให้มีการเร่งติดตามตัวมาให้ได้ โดยขอให้ทั้งหมดกลับเข้ามามอบตัวเพราะในประเด็นจากจะมีการไปก่อเหตุเพิ่มนับจากที่หลบหนีไปนั้น ถือว่าจะมีโทษหนักกว่ากฎหมาย ป.วิอาญาทั่วไป และที่ผ่านมาจากประสบการณ์ในคดีการหลบหนีจากเรือนจำที่ตนเองเคยทำที่ จ.สุพรรณบุรี ก็สามารถจับกุมได้หมดทางที่ดีที่สุดขอให้เข้ามามอบตัว และตอนนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน ภ.จว.นครปฐม แบ่งทีมออกติดตามตัวแล้ว ส่วนอื่นให้ชุดสืบสวน ในท้องที่ทั้งหมดประสานข้อมูลและออกติดตามตัวโดยเร่งด่วนแล้ว ในกรอบระยะเวลาไม่ได้กำหนดว่าจะจับได้เมื่อไหร่แต่ต้องเร่งดำเนินการจับกุมกลับมาให้ได้ทั้งหมด
ผู้ต้องทางที่หลบหนีทั้ง 7 คนไม่มีคดีทางการเมือง แต่ 2 คนที่ได้ตัวมาเคยก่อคดีและมีคดีติดตัวมาก่อน และทั้ง 9 คนไม่มีใครต้องโทษถึงขั้นประหารชีวิตแนวทางในการก่อเหตุนั้นตอนนี้สอบปากคำแต่ยังไม่ให้ได้ข้อมูลชัดจากทั้งคู่ซึ่งต้องรอข้อมูลจากพยานในเรือนจำและหลักฐานที่พบจากกองพิสูจน์หลักฐานมาประกอบอีกครั้งหนึ่งด้วย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม กล่าวปิดท้าย
ด้าน พ.ต.ท.วรชัย อารักษ์รัฐ ผบช.เรือนจำกลางนครปฐม เผยว่า ผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย ที่หลบหนีเป็นการนำผู้ต้องหาที่จะต้องมีการกักตัวในมาตรการโควิด-19 ซึ่งได้บูรณาการร่วมกับเรือนจำ มทบ.11 เพื่อนำมาพักในการกักตัวดูผลของการตรวจเชื้อ โดยได้เข้าควบคุมตัวมาแล้ว 21 วันและเตรียมจะส่งเข้าเรือนจำกลางนครปฐมในวันนี้ แต่ได้หลบหนีเสียก่อน
ผู้ต้องหาที่หลบหนีทั้งหมด ใช้วิธีการแหกขังออกไปและปีนข้ามสิ่งกีดขวางออกไป แต่กระบวนการต่างๆ ตอนนี้อยู่ในระหว่างหารสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งยังเปิดเผยไม่ได้มากนัก ผบช.เรือนจำกลางนครปฐม กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประเด็นในการหลบหนียังไม่สามรถระบุว่าใครเป็นหัวหน้าทีมในการก่อเหตุและยังไม่ทราบว่าใครเป็นกลไกในการนำใบเลื่อยไปให้ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุโดยจะมีการสอบทั้งผู้ต้องขังที่อยู่ในห้องเดียวกันรวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมอีกครั้งร่วมกับการติดตามตัวผู้ต้องหาเพื่อป้องกันการก่อเหตุซ้ำซ้อนอีกด้วย
ข่าวโดย ปนิทัศน์ มามีสุข นส.ปณิดา มามีสุข ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.นครปฐม