ทิดไพรวัลย์ ฉะกลับพระมีอภิสิทธิ์ ควรมีเมตตา
หลังจากทิดไพรวัลย์สึกจากการเป็นพระและย้ายข้าวของออกจากวัดสร้อยทอง เพื่อมาดูแลคุณแม่ ล่าสุด ทิดไพรวัลย์ โพสต์ในเพจ ไพรวัลย์ วรรณบุตร เป็นใบประกาศจากวันสร้อยทอง ลงวันที่ 8 ธ.ค.
เรื่องแจ้งให้คืนห้องพักแก่ทางวัด โดยสรุปว่าปัจจุบันวัดสร้อยทองกำลังบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะหลายแห่ง จึงเคลื่อนย้ายของจากที่ตั้งเดิมชั่วคราว อีกทั้งวันที่ 11-31 ม.ค.64
วัดสร้อยทองจัดโครงการอบรมบาลีสนามหลวง ชั้นประโยค ป.ธ.9 ถึง ป.ธ.9 ช่วงดังกล่าวจะมีพระและสามเณรจากต่างวัดมาพักที่วัดสร้อยทองจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องจัดหาที่พักรับรอง
ที่ประชุมคณะกรรมการวัดสร้อยทอง ที่ประชุมเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.64 จึงมีมติไม่อนุญาตให้ท่านพักอาศัยในกุฏิคณะ 7 ชั้น 2 ห้อง 201 อีกต่อไป ขอให้ย้ายออกจากห้องในวันที่ 14 ธ.ค.64 เพื่อวัดจะได้นำห้องพักมาใช้ประโยชน์
จากนั้นทิดไพรวัลย์โพสต์โต้กลับว่า ใครที่ไหนไปอยู่ครับ คณะ 7 ห้อง 201 เนี่ย แค่เด็กมันเอาของไปเก็บไว้ เพื่อรอย้ายเข้าหอพักเท่านั้นเอง
เป็นถึงพระเถระ ไม่มีเมตตาธรรมเลยหรอครับ (ผมไม่อยากเอ่ยชื่อท่านนะครับ) และเด็กที่ว่าก็ใช่ใครอื่น เป็นอดีตสามเณรที่เคยบวชเรียนอยู่ในวัดนะครับ เคยเป็นลูกศิษย์ท่าน เคยรับใช้สำนักเรียน
อย่าให้ผมเหลืออดนะครับ พระบางรูปในวัด รูปเดียวอยู่ 2-3 ห้อง นี่อภิสิทธิ์หรือเปล่าครับ ห้องกระจกชั้น 4 แต่ก่อนก็ทิ้งขว้างไม่ใช้ประโยชน์ พอผมเอาของที่มีคนบริจาค เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านช่วง CV-19 ไปไว้ ก็หาเลห์เพทุบาย เพื่อให้ผมย้ายข้าวของออก คิดว่าผมดูไม่ออกหรอครับ ผมแค่ไม่อยากพูดก็เท่านั้นเอง
เป็นพระควรมีเมตตาธรรมนะครับ ไม่ใช่อยู่ด้วยความอคติชิงชัง ผมลาสิกขาออกมาแล้ว ก็ควรพอได้แล้วนะครับ ปล.มีการศึกษากันทั้งนั้นนะครับ ผมว่ามันมีวิธีที่ดีกว่ามากๆ แบบพี่น้องแบบครูอาจารย์ ที่จะบอกให้เด็กย้ายของออกจากวัดนะครับ #อันนี้ผมขอตำหนิ
อย่างไรก็ตาม ทิดไพรวัลย์ ฉะกลับพระมีอภิสิทธิ์-ควรมีเมตตา อย่าอยู่ด้วยชิงชัง หลังทวงกุฏิอดีตเณร ชี้มีการศึกษากันทั้งนั้น มีวิธีที่ดีกว่ามากๆ