เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 26 เม.ย. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุ มีรถจักรยานยนต์ขับพุ่งชนท้ายมุดเข้าไปที่ใต้ท้องรถบรรทุกหกล้อขนาดใหญ่ ที่บริเวณทางสามแยกสัญญาณไฟบางกรูด ถนนสิริโสธร ทางหลวงแผ่นดินสาย 314 (บางปะกง-ฉะเชิงเทรา) ฝั่งขาเข้ามุ่งหน้าตัวเมืองฉะเชิงเทรา พื้นที่ ม.3 ต.คลองประเวศ อ.บ้านโพธิ์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตติดคาซากรถ จึงเดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุสภาพแสงไฟสีส้มส่องสว่างสลัว พบรถยนต์บรรทุกหกล้อขนาดใหญ่ยี่ห้อฮีโน่หัวสีขาวหมายเลขทะเบียนป้ายขาว 95-3635 กทม. จอดติดคาไฟแดงอยู่บนเลนที่ 3 จากช่องทางหลักทั้งหมด 4 ช่องจราจรและช่องรอเลี้ยวขวา 1 ช่องจราจรรวม 5 ช่องจราจร ที่บริเวณหัวมุมคอกราวเหล็กกันชนซุ้มล้อหลังด้านขวา ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปจากท้ายรถที่ถูกต่อเติมยื่นออกมาจากตัวรถมากถึงกว่า 3 เมตร บรรทุกสิ่งของมาจนเต็มคันลักษณะบรรทุกสูงและคลุมด้วยผ้าใบสีทึบ พบมีรถ จยย.ไม่ทราบยี่ห้อคันสีแดงไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนพุ่งชนมุดติดอยู่ภายใน สภาพด้านหน้ายุบเข้ามาถึงเกือบครึ่งคัน

โดยมีอาสาสมัครกู้ภัยฯ ได้นำร่างของหญิงสาว 1 ราย ที่ติดคาอยู่ที่ซากตัวรถออกมาชันสูตรพลิกศพยังภายนอก พบผู้เสียชีวิตสวมเสื้อของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์รายใหญ่ค่ายหนึ่งตัวอักษรสีแดง บริเวณพื้นใต้ท้องรถมีเศษชิ้นส่วนของตัวรถ จยย.แตกกระจายเกลื่อนไปทั่วบริเวณ และมีรอยเลือดไหลนองเป็นทางยาวเกือบ 3 เมตร ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมา คือ น.ส.กัลย์สุดา อายุ 26 ปี บ้านอยู่ ต.พรหมณี อ.เมือง จ.นครนายก

จากการสอบถาม นายมงคล โคสันเทียะ อายุ 37 ปี ชาว ต.หนองหอย อ.พระทองคำ จ.นครราชสีมา คนขับรถบรรทุกเล่าว่า ตนเองขับรถบรรทุกที่นอนสปริงยางพาราออกมาจากกรุงเทพฯ เพื่อจะนำไปส่งยังที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ เห็นสัญญาณไฟจราจรสีแดงจึงได้ชะลอรถขับเข้ามาจอดอย่างช้าๆแต่ไกล ก่อนที่จะหยุดรถจนนิ่งสนิทแล้วเพื่อรอสัญญาณไฟได้ประมาณ 1 นาที ก่อนที่จะได้ยินเสียงดังที่ด้านท้ายรถ จึงได้ลงมาดูจึงพบว่ามีรถ จยย.ขับเข้ามาพุ่งชนที่ด้านท้ายรถแล้ว โดยตนทำตามขั้นตอนถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง

ผู้สื่อข่าวจังหวัดฉะเชิงเทรา รายงาน