รวบสองหนุ่มไทยรับจ้างขนแรงงานเถื่อนอัดมาเต็มตู้  17 รายรับสารภาพใช้แอป ด่านตรวจ เพื่อเลี่ยงด่านตรวจ

รวบสองหนุ่มไทยรับจ้างขนแรงงานเถื่อนอัดมาเต็มตู้ 17 รายรับสารภาพใช้แอป ด่านตรวจ เพื่อเลี่ยงด่านตรวจ

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช  เลิศสิทธิกุล  ผบก.ทล., พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม, พ.ต.อ.ชาคริต  มงคลศรี รอง ผบก.ทล.,  พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.อุดมศักดิ์ สุวรรณแสง รอง ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ งามแฉ่ง รอง ผกก.2 บก.ทล. ว่าที่ พ.ต.ท.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล. เจ้าพนักงานตำรวจทางหลวง ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล. นำโดย ร.ต.อ.ปัญญาวุฒิ ทองคำ รอง สว. ส.ทล.4 กก. 2 บก.ทล., ด.ต.สายชล ตั้งวงค์ ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล., ด.ต.พัทธนันท์ แดงกระจ่าง ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล., ด.ต.วงศ์วริศ ทรัพย์คนาสกุล ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.,เจ้าพนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชุมพร นำโดย พ.ต.ท.สันติ มณีรัตน์ สว.ตม.ชุมพร, ร.ต.ท.สานุพงษ์ บัวศรี รอง สว.ตม.ชุมพร, ด.ต.สัณชัย ซื่อตรง, ด.ต.ยุทธพงษ์ อบเชย, ด.ต.ศราวุฒิ  เล่งระบำ ผบ.หมู่ ตม.ชุมพร ได้ร่วมกันจับกุมตัว 1.นาย วิวัฒน์ฯ อายุ 34 ปี (เป็นผู้ขับขี่) 2. นาย ลิขิตฯ  อายุ 33 ปี (เป็นผู้โดยสาร) 3. แรงงานต่างด้าวรายที่ 3-19 สัญชาติเมียนมา จำนวน 17 คน

โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน ผู้ ถูกจับที่ 1-2 ผู้ใดรู้ว่าคนต่างด้าวคนใด เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้ ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม ผู้ถูกจับที่ 3-19 เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอานาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต

พร้อมด้วยของกลาง      

1. รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อ ISUZU รุ่น D-MAX สีเทา นครปฐม

2. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ VIVO Y39 5G สีฟ้า (ซิมโทรศัพท์ จำนวน 2 ซิม)

3. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Samsung Galaxy A56

ตำแหน่งที่พบของกลาง

1. ของกลางลำดับที่ 1 ผู้ถูกจับขับขี่มาจนกระทั่งชุดจับกุมเรียกตรวจสอบ ริมถนน ทล.4 (เพชรเกษม) กม. ที่ 482 + 600 (ขาออก) ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร  

2. ของกลางลำดับที่ 2 ติดตั้งอยู่ที่จับโทรศัพท์หน้าคนขับ  

3. ของกลางลำดับที่ 3 ผู้ถูกจับที่ 2 ถืออยู่กับตัวในขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจค้น

พฤติการณ์ ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุมพร โดยชุดจับกุมขับขี่รถวิทยุตรวจการณ์หมายเลข 2401 ออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบ บริเวณถนนทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) กม.ที่ 480+500 (ขาออก) ตำบลวังไผ่ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร พบรถยนต์ต้องสงสัย ยี่ห้อ ISUZU รุ่น D-MAX สีเทา ทะเบียนนครปฐม ลักษณะบรรทุกของหนัก ขับแซงขึ้นมาในช่องทางขวาด้วยความเร็วสูง มุ่งหน้าลงใต้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ตรวจสอบทะเบียนรถ พบว่า นายวิวัฒน์ฯ เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ และพบว่ามีหมายจับของศาลแขวงสมุทรปราการ หมายเลข จ.213/2567 ลงวันที่ 28 พ.ย. 2567 จึงได้ขับรถติดตาม พร้อมส่งสัญญาณเรียกให้รถคันดังกล่าวหยุด เพื่อตรวจสอบ (ขณะเกิดเหตุ) เมื่อรถหยุด เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า นายวิวัฒน์ฯ เป็นผู้ขับขี่ และมีนายลิขิต เป็นผู้โดยสาร โดยผู้ขับขี่ไม่สามารถแสดงใบอนุญาตขับรถและบัตรประจำตัวประชาชนได้ทั้งนี้ได้ตรวจสอบหมายจับผู้โดยสารไม่พบหมายจับ ขณะตรวจสอบเจ้าหน้าที่สังเกตเห็นว่าผู้ต้องหามีท่าทีลุกลี้ลุกลนและแสดงพิรุธ อันเป็นเหตุอันควรสงสัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา จึงได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ และขอทำการตรวจค้น โดยได้รับความยินยอมจากผู้ต้องหาทั้งสองผลการตรวจค้น พบบุคคลต่างด้าวอยู่ในกระบะตู้ทึบ จำนวน 17 ราย แบ่งเป็นชาย 11 ราย หญิง 6 ราย จึงควบคุมตัวบุคคลต่างด้าวทั้งหมดพร้อมรถของกลางมาสถานีตำรวจทางหลวง 4 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (ตำรวจทางหลวงชุมพร) เพื่อดำเนินการตรวจสอบโดยละเอียด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหากับ นายวิวัฒน์ฯ และนายลิขิตฯ พร้อมควบคุมตัว พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การเบื้องต้น นายวิวัฒน์ฯ ให้การรับสารภาพว่า บุคคลต่างด้าวทั้งหมดไม่มีหนังสือเดินทางและเข้ามาโดยผิดกฎหมาย ตนพร้อมด้วยนายลิขิตฯ ได้รับการว่าจ้างจากบุคคลชาวเมียนมา ให้ไปรับบุคคลต่างด้าวบริเวณมหาชัยเมืองใหม่ ในเวลา 13.00 น. โดยได้รับค่าจ้างรวมเป็นเงิน 40,000 บาท แบ่งเป็น ได้รับเงินค่าน้ำมันล่วงหน้า 10,000 บาท ส่วนเงินค่าจ้างส่วนที่เหลืออีก 30,000 บาท จะโอนให้หลังจากส่งบุคคลต่างด้าวถึงจุดหมายปลายทางแล้วสองวันโดยจุดหมายปลายทางที่กำหนดคือรีสอร์ท ในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และเมื่อถึงจุดหมายให้ติดต่อบุคคลปลายทางทาง จากการสอบถามเพิ่มเติม ผู้ถูกจับให้การว่า ในการหลบเลี่ยงการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ถูกจับได้ใช้วิธีตรวจสอบเส้นทางล่วงหน้า โดยใช้งานผ่านแอปพลิเคชันโทรศัพท์มือถือได้แก่ แอปพลิเคชัน “ด่านตรวจ” และ “Traffic D Pro” เพื่อดูข้อมูลจุดตั้งด่านตรวจ และเส้นทางการจราจร เพื่อลักลอบขนย้ายบุคคลต่างด้าวหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ว่าที่ พ.ต.ท.กล้า สมบัติพิบูลย์ โทร 062-5978885

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ