ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต เปิดรายชื่อผู้เสียชีวิต อุบัติเหตุ รถทัวร์ชนท้ายรถเทรเลอร์ไฟลุกท่วม

ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต เปิดรายชื่อผู้เสียชีวิต อุบัติเหตุ รถทัวร์ชนท้ายรถเทรเลอร์ไฟลุกท่วม

รถทัวร์สายหนองคาย-ระยองเบรกแตกชนท้ายรถเทรเลอร์ไฟลุกท่วม คลอกคนขับพร้อมเด็กรถและผู้โดยสารไหม้เกรียมคาซาก 7 ศพ เจ็บระนาวอีก 53 คน หลังโชเฟอร์รับคนอัดแน่นเกินพิกัด บางส่วนต้องยืนมาตลอดทาง ถึงทางลงเขาอันตรายไม่ยอมจอดพักรถตามคำเตือนเจ้าหน้าที่ แถมใช้ความเร็วถึง 80-100 กม./ชม. จนผ้าเบรกไหม้พุ่งอัดท้ายรถบรรทุกเต็มๆ ชาวบ้านวอนรัฐเร่งแก้ปัญหาจริงจัง ป้องกันเหตุสูญเสียซ้ำซาก อุบัติเหตุรถทัวร์เบรกแตกชนท้ายรถเทรเลอร์ไฟลุกท่วมตาย 7 ศพ บาดเจ็บยกคันสังเวยถนนสายมรณะซ้ำซาก เปิดเผยเมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 21 เม.ย. พ.ต.ท.ศิวภัสส์ ภูริพัศชัยบุญชู สว. (สอบสวน) สภ.วังขอนแดง อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถทัวร์ชนท้ายรถพ่วงไฟลุกไหม้มีผู้โดยสารเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากบริเวณทางหลวงหมายเลข 304 (กบินทร์บุรี-วังน้ำเขียว) ช่วงทางลงเขาศาลปู่โทน กม.ที่ 208+800 หมู่ 8 ต.บุพราหมณ์ ไปตรวจสอบพร้อมนายชนาธิป โคกมณี รอง ผวจ.ปราจีนบุรี นายสมใจ พุทธเสนา นายอำเภอนาดี และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจะพุทธธรรมกบินทร์บุรี จุดเกิดเหตุอยู่ใกล้กับศาลเจ้าพ่อปู่โทน พบรถทัวร์โดยสารประจำทาง 2 ชั้น สายหนองคาย-ระยอง ทะเบียน 10-7125 อุดรธานี เลขข้างรถ 590-28 ของบริษัท 407 พัฒนา จำกัด ชนท้ายรถเทรเลอร์ 22 ล้อทะเบียน 71-5435 ปทุมธานี และชนอัดท้ายรถพ่วงบรรทุกแป้ง ทะเบียน 70-8659 นครราชสีมา ทะเบียนพ่วง 71-1158 นครราชสีมา สภาพด้านหน้า รถทัวร์มีไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง

ภายในซากรถพบผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บส่งเสียงร้องระงมหลายคน เจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงจาก อบต.บุพราหมณ์ และพื้นที่ใกล้เคียงเข้าฉีดน้ำสกัดเปลวไฟพร้อมทั้งช่วยเหลือผู้บาดเจ็บออกมาอย่างโกลาหล หลังเพลิงสงบพบคนขับรถทัวร์ถูกไฟคลอกเสียชีวิตคาซาก นอกจากนี้ยังพบคนขับรถมือสองและเด็กรถที่นั่งใกล้กันเสียชีวิตอีก 2 ศพสภาพถูกไฟไหม้เกรียมเป็นตอตะโก และบนที่นั่งผู้โดยสารชั้นสองพบผู้เสียชีวิตถูกไฟคลอกอีก 4 ศพ เจ้าหน้าที่ช่วยกันนำร่างผู้โดยสารลงมาอย่างทุลักทุเล ส่วนศพคนขับรถทั้งสองคนและเด็กรถไม่สามารถนำศพออกมาได้ เนื่องจากร่างถูกอัดก๊อบปี้ติดกับท้ายรถเทรเลอร์ต้องนำรถบรรทุกมาดึงลากรถทัวร์ เพื่อนำศพที่ติดคาอยู่ออกมา สำหรับผู้บาดเจ็บทั้งหมด 53 คน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ลำเลียงส่ง รพ.สต.ทับลาน เพื่อคัดกรองผู้บาดเจ็บอาการสาหัสแยกส่ง รพ.นาดี รพ.กบินทร์บุรี และ รพ.เกษมราษฎร์ 304 สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถทัวร์ประจำทางคันดังกล่าวรับผู้โดยสารจากต้นทาง จ.หนองคาย มุ่งสู่ปลายทาง จ.ระยอง มีผู้โดยสารนั่งเต็มคันรถ บางรายไม่มีที่นั่งต้องยืนมาตลอดทาง

ระหว่างรถวิ่งเข้าเขตพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี ไม่มีการจอดพักรถบริเวณจุดสกัดผางามซึ่งเป็นจุดที่เจ้าหน้าที่กำหนดให้รถจอดพักก่อนลงเขาโทน ขณะที่รถวิ่งลงเขาผู้โดยสารได้กลิ่นเหม็นไหม้ จากนั้นรถส่ายไปมา ผู้โดยสารต่างตกใจร้องลั่น บางรายตะโกนบอกให้คนขับจอดรถ ไม่นานรถเกิดเสียหลักไปชนท้ายกับรถเทรเลอร์ก่อนไถลไปชนรถบรรทุกแป้งไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ทำให้คนขับรถและเด็กรถที่นั่งอยู่ด้านหน้า รวมถึงผู้โดยสารถูกไฟคลอกรวม 7 ศพ และบาดเจ็บยกคัน ด้านนายลำสันต์ พวงภู่ อายุ 63 ปี ให้การว่า

ขณะขับรถบรรทุกลงเขาเห็นรถทัวร์คันเกิดเหตุวิ่งมาด้วยความเร็ว และปาดหน้ารถของตนก่อนเข้าเบียดขอบกั้นข้างทางส่ายไปมาจนเกิดประกายไฟ ตอนนั้นคิดในใจว่าคงไม่รอดแน่ กระทั่งรถพุ่งชนท้ายรถพ่วงและรถบรรทุกแป้งที่อยู่ด้านหน้าอย่างแรงเกิดไฟลุกไหม้คลอกคนขับและผู้โดยสาร หลังเกิดเหตุมีผู้โดยสารบางส่วนกระโดดหนีตายออกมา จึงร่วมกับพลเมืองดีทุบกระจกช่วยผู้โดยสารที่บาดเจ็บติดอยู่ในรถ

ส่วนคนขับและผู้โดยสารบางส่วนถูกไฟคลอกไม่สามารถช่วยออกมาได้ เนื่องจากเปลวไฟลุกลามเร็วมาก นายชนาธิป โคกมณี รอง ผวจ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบสาเหตุเกิดจากรถทัวร์เบรกแตกและไถลลงมาตามเส้นทางขาลงเขา ด้วยความเร็ว 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พุ่งชนท้ายรถเทรเลอร์เกิดไฟลุกไหม้ มีผู้เสียชีวิต 7 ราย และผู้บาดเจ็บแยกรักษาตัว รพ.นาดี 39 ราย รพ.กบินทร์บุรี 13 ราย และ รพ.เกษมราษฎร์ 1 ราย ส่วนผู้เสียชีวิต 7 ราย มี 6 รายยังไม่ทราบว่าเป็นใคร เพราะถูกไฟไหม้เกรียม มีรายงานว่า

สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิต 7 ศพจากทัวร์มรณะประกอบด้วย

1.นายอัครเดช หมอกโพธิ์ พนักงานขับรถมือแรก

2.นายพรชัย เก็บสันเที๊ยะ พนักงานขับรถมือสอง

3.นายทินนิกร โรจนตา เด็กรถ รายที่

4.ชายไทยไม่ทราบชื่อ

5.หญิงไทยไม่ทราบชื่อ

6.หญิงไทยไม่ทราบชื่อ และ

7.หญิงไทยไม่ทราบชื่อ ทั้ง 4 ศพอยู่ระหว่างรอผลการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลยืนยันตัวตนอีกครั้ง ช่วงบ่ายวันที่ 21 เม.ย. ตำรวจ สภ.วังขอนแดง ติดต่อช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบรถทัวร์มรณะเพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุ ทีมช่างได้ถอดล้อออกมาตรวจสอบพบจานเบรกมีรอยไหม้ระบบลมเบรกหมด ทำให้เชื่อว่าสาเหตุเกิดมาจากลมเบรกหมดและผ้าเบรกไหม้

จากนั้นประสานเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกมาตรวจสภาพรถทั้งหมดอีกครั้ง ขณะที่นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผวจ.ปราจีนบุรี เข้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่ รพ.นาดี จากนั้นเปิดเผยว่า ได้ประสานเรื่องประกันภัยบริษัทวิริยะประกันภัยมาดูแลเรื่องการจ่ายค่าสินไหมทดแทน รวมถึงสอบสวนสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย จังหวัดปราจีนบุรีและสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ช่วยกันประสานงานเพื่อให้ทุกหน่วยมีอำนาจช่วยเหลือผู้ประสบภัยเต็มที่ ส่วนเรื่องอุบัติเหตุจากการสอบ ถามผู้โดยสารทราบว่ารถทัวร์จอดพักที่ปั๊มน้ำมันจ.นครราชสีมา และไม่ได้พักรถกระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุ

“จริงๆแล้วการกำหนดให้รถแต่ละคันรับผู้โดยสารได้จำนวนเท่าไหร่ก็เป็นการกำหนดเรื่องน้ำหนักของรถ และเรื่องของความปลอดภัย ฉะนั้นถ้าฝ่าฝืนก็เป็นความรับผิดชอบของผู้ประกอบการ บริเวณนี้ถือเป็นการเกิดเหตุซ้ำซ้อน เบื้องต้นเร่งรัดกับกรมทางหลวงและกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชเพื่อใช้พื้นที่อุทยานฯทับลานเพื่อเป็นจุดพักรถ ให้รถที่เดินทางมาไกลได้พักรถเพื่อความปลอดภัย รวมถึงเป็นเรื่องวินัยของผู้ประกอบการและคนขับรถที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับถนนสาย 304 ช่วงทางลงเขาศาลปู่โทนเป็นเส้นทางอันตราย เคยเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่นับครั้งไม่ถ้วน ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมาเพิ่งเกิดอุบัติเหตุรถทัวร์นำคณะเจ้าหน้าที่จากเทศบาลตำบลพรเจริญ จ.บึงกาฬ และชาวบ้านไปศึกษาดูงานที่ จ.ระยอง ก่อนพลิกคว่ำบริเวณทางลงเขาศาลปู่โทน ห่างจากจุดเกิดเหตุทัวร์มรณะสายหนองคาย-ระยองพุ่งชนท้ายรถเทรเลอร์ประมาณ 2 กม. ครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตกว่า 20 ศพ บาดเจ็บจำนวนมาก หลังเกิดเหตุชาวบ้านในพื้นที่ต่างวิพากษ์ วิจารณ์ว่าเมื่อไหร่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะหันหน้าคุยกันอย่างจริงจัง เพื่อเร่งหาแนวทางแก้ปัญหาให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อลดความสูญเสียที่เกิดขึ้นซ้ำๆซากๆ

ข้อมูล thairath

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ