
สป.สายไหม ยอมรับแล้ว อาชีพที่ทำ ลั่นบ้านเมืองมีตำรวจ ก็ให้เขามาจับผม คนที่ไม่ใช่ตำรวจ ผมไม่ให้ราคา
ในรายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกันต่อในประเด็นแยกย่อยต่อมาจากกรณีของ พีช สมิทธิพัฒน์ ที่ขับรถไปชนรถกระบะของคุณลุงคุณป้า คนที่เข้ามาช่วยเหลือ คือ กัน จอมพลัง ที่ไปเกิดมีประเด็นแตกแยกย่อยออกมาจากเรื่องหลัก เพราะดูเหมือนจะมีผู้สนับสนุนของฝ่าย นายกเบี้ยว ออกมาปกป้อง และวิจารณ์ กัน จอมพลัง ว่าใช้วิธีการแบบมาเฟีย
ขณะที่ในรายการ สป.สายไหม หรือ เสี่ยป่อง โฟนอินเข้ามาชี้แจง โดยบอกว่า ผมจะพูดกับพี่หนุ่มคนเดียวเท่านั้น ไม่พูดกับคนอื่น เพราะผมไม่ให้ราคาคนที่ทำตัวเป็นมาเฟีย และที่ตนออกมาโพสต์ ก็เป็นการโพสต์ในฐานะประชาชนในพื้นที่ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับ ป๊า หรือ นายกเบี้ยว
โดยเสี่ยป่อง ยืดอกรับตรงๆ อาชีพของตนเป็นนักพนัน ชอบเล่นการพนัน ไปเล่นที่ประเทศเพื่อนบ้าน ถามว่าเคยมีประเด็นเรื่องทำบ่อน หรือเรื่องทำเว็บพนันไหม ก็บอกได้ตรงๆ ว่าไปให้ข้อมูลกับตำรวจมาหมดแล้ว อะไรที่ตนผิด ประเทศนี้เขามีตำรวจ มีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ใช่มาใช้วิธีมาเฟียแบบนี้ ตนไม่ชอบ เพราะ คนๆ นั้น ที่ตนไม่ให้ราคา ไม่ได้เป็นตำรวจด้วยซ้ำ
ขณะที่ กัน จอมพลัง เล่า นิทาน หลังจากที่ สป.สายไหมวางสายไป โดยเล่าว่า เมื่อประมาณปี 2565 ตนเองเคยประสานงานกับผู้กำกับการ สภ.ลำลูกกา เพื่อเข้าจับกุมบ่อนการพนันแห่งหนึ่ง ซึ่งภายหลังจากบ่อนถูกจับกุม ก็มีบุคคลหนึ่งที่มีชื่อเสียง พา เด็กน้อย คนหนึ่ง ท่าทางนอบน้อม เดินเข้ามาหา พยายามจะขอเคลียร์เรื่องที่เกิดขึ้น ตอนนั้น กัน ปฏิเสธที่จะเจรจา เพราะไม่ต้องการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่โสมม ไม่ใช่คนที่ตีกินเพื่อหาเงินจากเรื่องแบบนี้ ไม่รับเคลียร์