
รวบตาเลี้ยง กระทำชำเราหลานนานกว่า 4 ปี ก่อนหนีกบดาน สุดท้ายไม่รอด
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ (บก.ปพ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ธีรชาติ ธีรชาติธำรง ผบก.ปพ., พ.ต.อ.สุรพันธ์ มั่นคงดี, พ.ต.อ.วรศักดิ์ บัณฑิต, พ.ต.อ.ศราณุ โสมทัต รอง ผบก.ปพ., พ.ต.อ.ไผท คูสันเทียะ ผกก.1 บก.ปพ, พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ ปัญญากาญจน์, พ.ต.ท.ศุภฤกษ์ เคหะทุ่ม รอง ผกก.1 บก.ปพ. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.เอกพงษ์ ผูกพันธ์ รอง ผกก.1 บก.ปพ., พ.ต.ท.จตุพร ติกแก้ว สว.กก.1 บก.ปพ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ปพ. ร่
วมกันจับกุมชาย อายุ 42 ปี ตามหมายจับของศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.538/2568 ลงวันที่ 11 เมษายน 2568 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “พยายามกระทำชำเรา เด็กอายุไม่เกินสิบสามปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตนโดยเด็กนั้น จะยินยอมหรือไม่ก็ตาม,กระทำอนาจารแก่เด็กยังไม่เกินสิบสามปีโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โดยขู่เข็ญประการใดๆโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดคืนได้, โดยปราศจากเหตุอันสมควร พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามาร ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร”
สถานที่จับกุม บริเวณหน้าห้องเช่า ถ.ลาดปลาเค้า แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อเดือน มีนาคม 2568 บิดาของเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) ปัจจุบันอายุ 7 ขวบ ได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ว่าบุตรสาวถูก ผู้ต้องหาและเป็นสามีใหม่ของยายแท้ๆ ของเด็กหญิงเอ มีศักดิ์เป็นเสมือนตาเลี้ยงของเด็กหญิงเอ ได้กระทำอนาจารและข่มขืนกระทำชำเรามาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564
จากการสืบสวนและคำให้การของเด็กหญิงเอ พบว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์ล่อลวงและกระทำชำเราเด็กหญิงเอมาอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยความใกล้ชิดเนื่องจากเด็กหญิงเอพักอาศัยอยู่กับยาย ซึ่งเป็นพี่สาวของยายแท้ๆ และมีผู้ต้องหา พักอาศัยอยู่ด้วย กระทั่งเมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ผู้ต้องหาได้ล่อลวงเด็กหญิงเอเข้าไปในห้องพักอีกครั้ง ล็อคประตู และกระทำอนาจาร รวมถึงพยายามกระทำชำเรา แต่เด็กหญิงเอขัดขืนและวิ่งหนีออกมาได้ หลังจากนั้น เด็กหญิงเอได้ไปพักอาศัยอยู่กับบิดาที่จังหวัดสมุทรปราการ และบิดาได้ทราบเรื่องราวทั้งหมดจากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของบุตรสาว พบข้อความสนทนาเชิงอนาจารที่ผู้ต้องหาพิมพ์หาลูกสาว ตัดสินใจพาลูกสาวเข้าแจ้งความดำเนินคดีทันที
หลังรับแจ้งความ พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน และส่งตัวเด็กหญิงเอไปตรวจร่างกายเพื่อยืนยันการถูกกระทำ กระทั่งศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าว ต่อมาตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้แกะรอยสืบสวนจนทราบว่า ภายหลังผู้ต้องหาหลบหนีไปยังจังหวัดสุโขทัย ก่อนย้อนกลับเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และเข้าพักอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ชุดสืบสวนจึงได้นำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ในที่สุด และควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ รายงาน