ทลายโกดังพัสดุจากจีน ใช้ข้อมูลในระบบขนส่งดัง ส่งสินค้าคุณภาพต่ำ หลอกเก็บเงินปลายทาง

ทลายโกดังพัสดุจากจีน ใช้ข้อมูลในระบบขนส่งดัง ส่งสินค้าคุณภาพต่ำ หลอกเก็บเงินปลายทาง

เมื่อวันที่ 20 เมษายน พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 (ผบก.สส.ภ.2), พ.ต.อ.วราวุธ เจริญชนม์, พ.ต.อ.กฤตยา เลาประสพวัฒนา รอง ผบก.สส.ภาค.2, พ.ต.อ.เฉลิมศักดิ์ เถียรทองศรี ผกก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.2 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองระยอง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง แถลงผลหลังบุกทลายโกดังแพคพัสดุสินค้าจากประเทศจีน ของมิจฉาชีพเพื่อใช้ส่งให้แก่ประชาชนที่ไม่ได้สั่งซื้อสินค้าและมีการเรียกเก็บเงินปลายทาง

สืบเนื่องมาจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเบาะแสว่าที่โกดังสินค้าแห่งหนึ่งในเขตหมู่ที่ 1 ต.ทับมา อ.เมืองระยอง มีคนงานเป็นชาวต่างด้าว จำนวน 3 คน บรรจุสินค้าจากประเทศจีนลงกล่องเพื่อส่งให้แก่ผู้รับที่และเรียกเก็บเงินแบบปลายทาง โดยลูกค้าไม่เป็นผู้สั่งซื้อ

จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อเดินทางไปถึงพบ คนงานสัญชาติเมียนมา จำนวน 3 คน กำลังบรรจุสินค้าลงในกล่องพัสดุ ทราบชื่อคือ นายหม่อง อ่อง ไข่ มิ้น สัญชาติ เมียนมา อายุ 21 ปี, นายมอส โลเซ สัญชาติ เมียนมา อายุ 23 ปี, นายหม่อง จอ ซิน เฮง สัญชาติ เมียนมา อายุ 22 ปี ทำงานเป็นพนักงานบรรจุสินค้าและติดสติกเกอร์ระบุชื่อ ผู้รับ-ผู้ส่ง ของบริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง และชายไทย 1 คนกำลังเดินทางมารับพัสดุไปส่งมอบให้แก่บริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง

พร้อมทั้งได้ตรวจยึดสิ่งของเป็น ดังนี้ 1.รถยนต์บรรทุก ยี่ห้อ ISUZU ทะเบียน 3ฒก 8717 กทม. จำนวน 1 คัน 2.เครื่องแพ็คสินค้า จำนวน 1 เครื่อง 3.กระสอบบรรจุพร้อมสินค้าที่ตีกลับ (สีแดง) จำนวน 9 กระสอบ 4.กระสอบบรรจุพร้อมสินค้ารอแพ็คส่งให้ลูกค้า (สีเทา) จำนวน 55 กระสอบ (594 ชิ้น) 5.สติ๊กเกอร์สำหรับติดหน้ากล่องพัสดุของ บริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง ระบุชื่อผู้รับ-ผู้ส่ง จำนวน 1 ถุง

โดยจากการสืบสวนสอบสวนทราบว่า ขบวนการของมิจฉาชีพที่หลอกลวงส่งพัสดุแบบเรียกเก็บเงินปลายทางจะมีรูปแบบ ดังนี้

1.กลุ่มมิจฉาชีพจะสั่งซื้อสินค้าจากประเทศจีนแล้วส่งพัสดุมายังโกดังบรรจุสินค้า โดยจะมีสินค้าประเภท รองเท้าผ้าใบ, รองเท้าฟองน้ำ, เสื้อผ้า, ยาสีฟัน, เครื่องสำอางค์ ต่างๆ ซึ่งเป็นสินค้าคุณภาพต่ำ และจะให้พนักงานที่โกดังนำสินค้าดังกล่าวบรรจุลงกล่องพัสดุเพื่อเตรียมจัดส่ง

2.กลุ่มมิจฉาชีพจะนำสติกเกอร์ที่พิมพ์ชื่อผู้รับ-ผู้ส่ง ที่มีการลงทะเบียนในระบบของบริษัทขนส่งเอกชน ระบุชื่อผู้ส่งเป็นร้านค้า จำนวน 6 ร้าน คือ “เวโรนิก้า”, “เทรนดี้ ชอป”, “สไมล์ เรนนี่ แฟชั่น”, “Same Same”, “แสนดี”, “รัตนาวดี shop”, “สกาย”, “ฟ้าใส” พร้อมด้วยระบุเก็บเงินปลายทาง (COD) จำนวนเงินตั้งแต่ 300-400 บาท คละกันไปมาให้พนักงานที่โกดังเพื่อติดลงบนกล่องพัสดุ โดยไม่คำนึงถึงว่าในกล่องพัสดุจะเป็นสินค้าประเภทใด แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่แล้วพบว่าสินค้าในกล่องมีราคาตามท้องตลาดไม่ถึงราคาที่ติดไว้ตามสติกเกอร์หน้ากล่อง จากนั้นจะมีพนักงานขนส่งมารับสินค้าไปส่งมอบให้แก่บริษัทขนส่งต่อไป

3.หลังจากพัสดุถูกส่งมอบให้แก่บริษัทฯ ขนส่งเอกชนแล้ว บริษัทฯ จะนำพัสดุไปส่งมอบให้ลูกค้าและแจ้งว่ามีการเรียกเก็บเงินปลายทาง หากลูกค้ารายใดหลงเชื่อโอนเงินไป เมื่อเปิดพัสดุดูแล้วพบว่าเป็นสินค้าที่ตนไม่ได้สั่งซื้อก็จะได้รับความเสียหาย แต่หากมีลูกค้าที่ปฏิเสธไม่รับพัสดุ พัสดุก็จะถูกตีกลับมาที่โกดัง ซึ่งในการตรวจยึดครั้งนี้พบพัสดุที่ถูกตีกลับมาจำนวนมาก จากนั่นพนักงานที่โกดังก็จะแกะกล่องพัสดุและนำสินค้าออกและบรรจุลงกล่องใหม่เพื่อติดสติกเกอร์ชื่อผู้รับ-ผู้ส่ง ใหม่และส่งให้ผู้เสียหายรายต่อไปในลักษณะหมุนเวียน

ซึ่งจากการเข้าตรวจค้น/ตรวจยึดในครั้งนี้ พบว่าโกดังแพคพัสดุดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการนี้และมีเบื้องหลังนายทุนผู้สั่งการซึ่งเป็นคนจีนและคนไทย ในขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดทั้งขบวนการที่ทำหน้าที่อื่นๆ ทั้งขบวนการ รวมถึงผู้สนับสนุน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้เปิดเผยว่า คาดว่าเฟรนไชส์ของบริษัทขนส่งเอกชนที่เปิด 4 สาขาดังกล่าว ซึ่งมีคนจีนเป็นเจ้าของ น่าจะมีส่วนรู้เห็นด้วย เพราะที่อยู่ผู้ส่งเป็นสำนักงานบริษัทขนส่งทั้งหมด และสติกเกอร์ชื่อผู้รับ-ผู้ส่ง พรินต์จากระบบออกมาทั้งหมด แล้วคนดูแลเอามาให้พนักงานที่เป้นต่างด้าว เพื่อแปะกล่องทุกวัน วันหนึ่งจัดส่งประมาณ 1,500 กล่อง

อย่างไรก็ตาม การกระทำดังกล่าวเป็นการหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม อันเป็นความผิดฐาน “ฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ