นายกฯเบี้ยว ตัดสินใจแล้ว จะให้ลูกถอนตัวจากสมัคร สท. มั๊ย

นายกฯเบี้ยว ตัดสินใจแล้ว จะให้ลูกถอนตัวจากสมัคร สท. มั๊ย

จากกรณีที่นาย สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ พีช อายุ 28 ปี ผู้สมัคร สท.ลำลูกกา ทีมธัญญก้าวหน้า ลูกชายคนสุดท้องของ “นายกเบี้ยว” นาย กฤษฎา หลีนวรัตน์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จ.ปทุมธานี และเป็นน้องชายของนาย มนัสนันท์ หลีนวรัตน์ หรือ สส.ฟลุ๊ค สส.ปทุมธานี เขต 5 พรรคเพื่อไทย

ซึ่งเป็นคนขับรถเก๋งหรู BMW ป้ายแดง ปาดหน้า นายประจักษ์ ดวงใย และนางสมศรี ดวงใย สองสามีภรรยา ลุงกับป้าที่ขับรถกระบะสีดำ จนเกิดอุบัติเหตุกลางมอเตอร์เวย์ ทำให้คู่กรณีได้รับบาดเจ็บ

ท่ามกลางกระแสโลกออนไลน์ที่แห่วิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมการขับรถดังกล่าวภายหลังที่เห็นคลิปวิดีโอจากเพจดังต่างๆ ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

ต่อมาวันที่ 18 เม.ย. 68 ลูกสาวของ นายประจักษ์ และนางสมศรี ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “โหนกระแสว่า” อัปเดตอากาศของนายประจักษ์ และนางสมศรีว่า ตอนนี้อาการคุณพ่อซี่โครงหัก 6 ซี่ด้านขวา ตอนแรกเอาออกซิเจนออกแล้วจะย้ายไปอยู่กับแม่ชั้นล่าง แต่เมื่อออกแล้วเหมือนหายใจไม่ได้ การหายใจดรอปลงมา ไม่สามารถหายใจได้ คุณหมอจึงให้ไปทำ TC สแกนใหม่ ปรากฏว่าเจอซี่โครงหักจากเดิม 3 ซี่กลายเป็น 6 ซี่ด้านขวา และปอดด้านขวาช้ำ กระดูกด้านหน้าอกร้าวแตก

ส่วนอาการของแม่นั้น ซี่โครงด้านขวาช้ำ ไหปลาร้าด้านซ้ายเป็นรอยบาด และช้ำ ศีรษะเป็นแผลถลอก หัวปูดโน เพราะเอาไปชนอะไรสักอย่างในรถ

ทั้งนี้ลูกสาวของนายประจักษ์ และนางสมศรี ยังกล่าวด้วยว่า วันที่ไปตำรวจทางหลวง ตนเข้าไปเอาใบบันทึกแจ้งความ และเอกสาร เพื่อเคลมค่ารักษากับ พ.ร.บ.รถเพราะจะต้องใช้กับให้คนบาดเจ็บ เพื่อนำไปรักษาต่อ แต่เขาแจ้งว่าให้ตนไปที่สถานีตำรวจก่อน ซึ่งร้อยเวรไม่อยู่ แต่ตำรวจอีกท่านแจ้งว่าร้อยเวรไปที่โรงพยาบาล เพื่อดูอาการคนเจ็บว่าเป็นอย่างไร พอสักพักร้อยเวรกลับมาก็บอกว่ามีการลงบันทึกประจำไว้แล้ว ตนจึงถามว่า แล้วตนต้องทำอย่างไร ตำรวจบอกว่าไม่ต้องแล้ว เพราะว่าคู่กรณีของคุณลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว และคุณก็ไม่ใช่คู่กรณีของเขาที่จะต้องมาลงบันทึกหรือแจ้งความแทนพ่อกับแม่คุณ ต้องรอให้พ่อกับแม่หายเจ็บแล้วออกมาคุยกัน

ซึ่งในใบลงบันทึกประจำวันนั้นเหมือนกับพ่อแม่ตนเป็นฝ่ายผิด เพราะมีการเขียนว่า พ่อขับรถไปเบียดเขา เขาระบุว่าถูกชน ถูกกระบะเบียดมาชน ทำให้ตนไม่มีความมั่นใจในเรื่องคดีความ

จากนั้นช่วงหนึ่ง นายกเบี้ยว ไดโฟนอินให้สัมภาษณ์ในรายการว่า เมื่อคืนนี้ตนได้เจอตัวน้องพีชแล้ว ก็ได้คุยกับน้องพีชอยู่ ขณะนี้ตนก็กำลังให้สัมภาษณ์กับสื่อ และพยายามให้น้องพีชออกรายการ แต่น้องพีชยังตกใจและกลัวอยู่ ส่วนผู้เสียหายที่บาดเจ็บนั้น เมื่อเช้าก่อนที่ตนจะไปออกรายการก็ไปแวะเยี่ยมคุณลุงคุณป้า ซึ่งได้เข้าไปพบกับคุณป้าและลูกสะใภ้ที่ดูแลคุณป้าอยู่ ก็ถามอาการคุณป้าว่าเป็นอย่างไร ส่วนคุณลุงคุณหมอยังไม่อนุญาตให้เยี่ยม ตนจึงสอบถามอาการกับคุณหมอ ซึ่งคุณหมอบอกว่าคุณลุงรู้สึกตัวแล้ว แต่ยังต้องอยู่ห้องไอซียูอีกสักระยะ ตนจึงฝากคุณหมอดูแลคุณลุงคุณป้าให้ด้วย ถ้ามีอะไรสามารถโทรหาตนได้เลย จากนั้นตนก็ไม่รบกวนและกลับออกมา

ส่วนเรื่องการเยียวยาและการชดใช้ค่าเสียหายนั้น ตนยินดี ไม่ว่าจะถูกหรือจะผิด ตนก็เห็นใจคุณลุงคุณป้า เพราะแกอยู่ต่างจังหวัด ไม่ได้เป็นคนกรุงเทพฯ เดินทางมาไกลตนก็ไม่ได้มีอิทธิพลใดๆ ตนช่วยเหลือประชาชนอยู่แล้ว สามารถถามชาวธัญญะบุรีดูได้ เวลาประชาชนเดือดร้อนเราดูแลช่วยเหลืออยู่แล้ว และนับประสาอะไร เมื่อลูกเราเกิดอุบัติเหตุ แล้วคุณลุงคุณป้าก็ไม่ค่อยมี ตนก็พร้อมที่จะดูแลคุณลุงคุณป้า

ทั้งนี้ทางทีมงานของ กัน จอมพลัง ได้สอบว่า ทางญาติได้แจ้งกับโรงพยาบาลไว้แล้วว่าไม่ให้เข้าเยี่ยม เพราะว่าญาติต้องออกมาข้างนอกกันหมด ทางนายกเบี้ยวใช้สิทธิ์อะไรเข้าเยี่ยมคุณป้า นายกเบี้ยว กล่าวว่า “น้องครับ ผมไม่ได้อยู่ๆ จะเดินเข้าไปนะครับ ผมได้เจอทั้งรปภ. ก็ถามว่าคุณลุงคุณป้าอยู่ไหม ทางรปภ. คุณหมอและพยาบาลหลายท่านก็พาตน กับลูกน้อง ซึ่งเป็นมีตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาเทศบาล ถือกระเช้าขึ้นไป และคุณป้าอยู่ในห้อง ทางพยาบาลเข้าไปแจ้งกับคุณป้า และลูกสะใภ้คุณป้าแล้ว ไม่ใช่อยู่ๆ ตนเปิดประตูเข้าไป เรารอจนกว่าพยาบาลจะออกมาและอนุญาตให้เข้าไป

เมื่อถามว่า ได้เห็นคลิปภาพแล้วใช่หรือไม่ มองอย่างไรบ้าง นายกเบี้ยว กล่าวว่า ตนเห็นภาพแล้วการกระทำของลูกชายลูกชาย ตนก็ไม่ได้เข้าข้างก็ว่าไปตามผิด เพราะตนก็งงเหมือนกัน เมื่อก่อนน้องพีชไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้ แล้วระยะหลังตนกับลูกก็ไม่ได้เจอกันเลย ลูกก็ไปอยู่กับเพื่อนบ้าง มาบ้านบ้าง เราก็รู้สึกเสียใจที่เราดูแลลูกไม่ดีเท่าที่ควร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขอโทษลูกหลานคุณลุงคุณป้า ขอให้เชื่อว่าตนไม่ได้มาหลอก หรือมาอะไร ตนเห็นใจอยู่แล้ว

ลูกสาวคุณลุงคุณป้า ถามว่าทางเราอยากคุยกับคุณพีช พอจะเป็นไปได้มั้ย นายกเบี้ยว กล่าวว่า ได้ครับ เมื่อเช้าตนบอกคุณป้าว่าน้องพีชห่วงคุณลุงกับคุณป้ามาก เขาสำนึกแล้วเขาอยากจะมาเยี่ยม แต่ก็ยังไม่กล้ามา เขาก็ให้ตนมาแทน จริงๆ และบอกว่า อย่าให้แกเป็นไรนะ ต้องช่วยนะ ตนก็ขออนุญาตคุณป้าว่าถ้าโอกาสหน้าน้องพีชจะเข้าเยี่ยมมาได้หรือไม่ น้องพีชอยากมาอยู่แล้ว

ลูกสาวคุณลุงคุณป้า ถามว่าเป็นไปได้มั้ยที่จะให้นายพีชมาคุยกับเราตอนนี้ได้หรือไม่ นายกเบี้ยว กล่าวว่า น้องพีชมาออกรายการกับตน

ขณะที่ทางทีมงาน กัน จอมพลัง กล่าวว่า จริงๆ แล้วก่อนที่จะพาลูกไปออกรายการ ควรติดต่อขอโทษญาติผู้เสียหายก่อนหรือไม่ น่าจะเป็นสิ่งแรกที่พึงกระทำกระทำ ซึ่งลูกสาวของลุงกับป้าบอกว่าได้พยายามโทรศัพท์เข้าเครื่องของนายพีชแล้วทางนายพีชไม่เคยติดต่อกลับมาเลย หลังจากประสบอุบัติเหตุเขาไม่มีการโทรกลับมาเลยว่าเขาจะรับผิดชอบ หรือแสดงความรับผิดชอบอย่างไรบ้าง

ด้านนายกเบี้ยว กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุ เมื่อวานทั้งวันตนก็ติดต่อน้องพีชไม่ได้ ตนก็ออกไปตะเวนหา ทั้งตนและภรรยาออกไปตามหา เพิ่งเจอน้องพีชเมื่อคืนนี้เอง และพยายามกล่อมน้องพีช เพราะเขาไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ และไม่เคยเจอข่าวดังแบบนี้ ตนหัวอกพ่อก็ต้องค่อยๆ พูดปลอบลูกแล้วบอกว่าพีชทบทวนดู เขาก็บอกว่าเขาทบทวนแล้ว เขายอมรับผิดทุกอย่างไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะด้านคดี ซึ่งคดีจะถูกจับผิดก็ยินดีที่จะรับกรรม รับใช้ดูแลคุณลุงคุณป้า ซึ่งเท่าที่ตนคุยก็ได้รายละเอียดมาแบบนี้ ซึ่งน้องพีชก็อยากไปกราบขอโทษคุณลุงคุณป้า แต่ตอนยังไม่กล้า เพราะกลัวคุณลุงคุณป้าและน้องๆ จะโกรธ ตนจึงบอกว่า ขอป๊าไปก่อน พีชถึงบอกว่าให้ป๊ารีบไป

ขณะที่ กัน จอมพลัง ต่อสายโทรศัพท์จากต่างประเทศ เข้ามาในรายการ เพื่อพูดคุยกับนายกเบี้ยวว่า วันนี้พอเกิดเรื่องลูกของท่านนายกฯ ตอนลงสมัครรับเลือกตั้ง ขอคะแนนเสียง ไหว้ประชาชน แต่พอเกิดเรื่องทำไมไม่เห็นมาขอโทษครอบครัวเขาเลยทำไมเห็นแต่นายกออกมาเอง นายกเบี้ยว กล่าวว่า เขายังอายุไม่เยอะ ยังเป็นวัยรุ่น ตนจึงบอกว่าพีช เมื่อเกิดเหตุการณ์แล้วทำไมพีชถึงไม่กล้าสู้ เขาก็บอกว่าเมื่อเกิดเหตุแล้วเขาก็ไปที่โรงพัก ประกันก็มาเคลมแล้วเขาก็คิดว่าไม่มีอะไร แต่เขาก็ไม่เห็นสื่อออกข่าวทุกช่อง เขาก็ตกใจและกลัว

เมื่อน้องเขากลัว เขาก็ปิดมือถือ ตนก็กลุ้มใจและตามหาลูกทั้งวัน เพิ่งมาเจอน้องพีชตอนกลางคืนนี้จริงๆ จึงได้พาตัวกลับมาบ้าน เมื่อเราเห็นสภาพจิตใจลูกเราไม่ดีก็ต้องค่อยๆ พูด ไม่ว่าจะถูกจะผิดก็ต้องค่อยๆ พูด เราไม่มีเจตนาหลบหนี

กัน จอมพลัง ถามอีกว่าในมุมที่ท่านเป็นนักการเมือง เวลาที่มีปัญหาประชาชนเขาคาดหวังจะเจอนักการเมืองไหม หรือเวลามีปัญหานักการเมืองไม่ออกเจอชาวบ้านจะออกมาเฉพาะตอนขอคะแนน มันดูผิดปกติไหม นายกเบี้ยว กล่าวว่า ชาวบ้านเวลาเดือดร้อนเขาก็อยากเจอนักการเมือง เพื่อช่วยแก้ไข แต่น้องพีชยังไม่เคยได้เป็นสมาชิกสภาอะไรสักตำแหน่ง เพิ่งลงสมัคร

กัน จอมพลัง จึงถามว่า ถ้าเขาเป็นนักการเมือง เขาจะไม่หายแบบนี้ใช่หรือไม่ นายกเบี้ยว กล่าวว่า ก็ต้องดูแลทุกข์สุขประชาชน สามารถสอบถามได้ว่านายกเบี้ยวดูแลทุกข์สุขของพี่น้องธัญญะบุรีเป็นอย่างไรบ้าง ในเมื่อเราตัดสินใจมาเป็นบุคคลสาธารณะแล้ว จุดประสงค์ของเราคือดูแลทุกข์สุขของพี่น้อง ส่วนกรณีของคุณลุงคุณป้าคุณกันสบายใจได้ว่า ตนยินดีดูแลคุณลุงคุณป้าจนหายดีเป็นปกติทุกอย่าง

กัน จอมพลัง ถามว่าตอนนี้น้องสภาพจิตใจไม่ดีไม่แข็งแรง แล้วเขาไม่ห่วงสภาพจิตใจของลุงกับป้า เขานอนไม่หลับบ้างหรือไม่ นายกเบี้ยว กล่าวว่า เขาห่วงแน่นอนเขาจึงให้ตนไปเยี่ยมคุณลุงกับคุณป้า ตนจึงบอกว่าเมื่อวานเพิ่งไปมาแล้วเขาก็ให้ตนไปอีก เพราะถึงอย่างไรเขาก็ต้องมากราบขอโทษแน่นอน เขาเป็นวัยรุ่นต้องให้โอกาสวันสองวัน เขาไม่หนีไปไหน ขอให้น้องขอโทษสังคม ขอโทษคุณลุงคุณป้า

เมื่อถามว่า การไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล ทางครอบครัวแจ้งว่าตอนที่เขาไม่อยู่ เขาไม่สะดวกให้ใครเข้ามาเยี่ยม แต่เป็นจังหวะที่ท่านนายกมาเยี่ยม ท่านนายกบอกว่าพยาบาลจะพามา นายกเบี้ยวพยายาม ชี้แจงว่า ตนเองไม่ได้ใช้อภิสิทธิ์ ผมไปจอดรถและเดินไปกับลูกน้องที่เป็นสมาชิกสภาเทศบาล ไม่ได้เป็นนักเลงกุ๊ยถือกระเช้าไปกับตนสองคน และเราก็ติดต่อไปที่รปภ. ก่อน รปภ. ก็พาไปพบเจ้าหน้าที่ผู้ชายที่ดูแลโรงพยาบาล เขาก็พาตนขึ้นไป และพยาบาลก็เดินมา ให้ตนรอที่หน้าห้อง ยังไม่ได้ให้จากนั้นพยาบาลก็เข้าไปที่ห้อง คงไปแจ้งคุณป้าลูกสะใภ้คนที่เฝ้าแล้วเขาก็อนุญาตให้ตนเข้าไป

ด้าน กัน จอมพลัง กล่าวว่า ตนได้ประสานสอบถามไปที่ผู้ช่วยรมว.สาธารณสุข เพื่อให้ประสานกับผอ.โรงพยาบาลในเรื่องนี้แล้ว ผอ.โรงพยาบาลตอบทางกระทรวงมาว่าไม่มีการอนุญาตให้เข้าเยี่ยม ตนจึงแปลกใจว่าทำไมจึงเข้าไปเยี่ยมคุณป้าได้ นายกเบี้ยวยืนยันว่า ตนไม่ได้ถืออภิสิทธิ์ในการเข้าไปเยี่ยม ซึ่งเราได้ติดต่อและสอบถามเจ้าหน้าที่แล้ว ตนยืนยันมีเจตนาดี และยืนยันว่าตนไม่ได้ไปทำคอนเทนต์จับมือคุณป้ามอบกระเช้า

เมื่อถามว่า การที่ลูกลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ จะให้ลูกไปต่อหรือถอนตัว นายกเบี้ยว กล่าวว่า การสมัครถอนตัวไม่ได้ เราไม่สามารถที่จะไปบอกว่าขอถอนตัว เนื่องจากมีเหตุการณ์นี้ เพราะตามระเบียบถอนตัวไม่ได้ ต้องปล่อยเลยตามเลย แล้วแต่ประชาชนที่จะลงคะแนนให้ ได้ก็ได้ไม่ได้ก็แล้วแต่ประชาชน

เมื่อถามว่า รถBMW คันนี้เป็นชื่อของใคร นายกเบี้ยว กล่าวว่า เป็นชื่อของพีช เมื่อถามว่านายกรู้หรือไม่ว่าใบขับขี่ของพีชหมดอายุตั้งแต่ปี 2564 นายกเบี้ยว กล่าวว่า ตนไม่ทราบเลย ซึ่งตนขอโทษสังคมด้วย ที่ตนไม่มีเวลาให้กับลูกเรา ไม่ได้เจอกันเลยนานๆ เจอกันที แทบจะไม่ได้พูดคุยกันเลย ซตนดูแลลูกบกพร่องต่อสังคม จากนี้ไปตนก็ให้เวลากับลูกตนบ้าง

อย่างไรก็ตามในรายการได้เปิดคลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นเสียงของนายพีช พูดคุยกับพยานที่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว โดยมีใจความที่นายพีชต่อว่าพยานที่นำคลิปเหตุการณ์ไปลง พร้อกับขู่ฟ้อง อีกทั้งยืนยันว่าได้พูดคุยกับลูกผู้เสียหายแล้ว และขอให้ลบคลิป พร้อมกับสอบถามว่าบ้านพยานอยู่ที่ไหน ทั้งที่ลูกสาวของลุงกับป้ายืนยันว่า นายพีชไม่เคยติดต่อมาพูดคุย

หลังจากที่นายกเบี้ยว ได้ยินคลิปเสียงดังกล่าวก็ชี้แจงว่า เขาอาจจะตกใจหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ตนก็ขอโทษแทนน้องด้วย

ขณะที่ ป้าสมศรี ผู้บาดเจ็บ ให้สัมภาษณ์ว่า ยังรู้สึกเครียดและรู้สึกเจ็บอยู่ เราจะทำยังไงดี เพื่อหาความยุติธรรม รู้สึกดีใจที่ หนุ่ม กรรชัย และ กัน จอมพลังมาช่วย

เมื่อถามว่า วันนี้นายกเบี้ยวเข้าไปเยี่ยมใช่หรือไม่ ป้าสมศรี กล่าวว่า “เราไม่รู้ตัว เขาจู่โจมค่ะ” เมื่อถามว่าเขามาขออนุญาตก่อนไหม ป้าสมศรี กล่าวว่า ไม่ๆ เขาจู่โจมมาเลยเมื่อถามว่าพยาบาลไม่ได้ว่าอะไรใช่หรือไม่ ป้าสมศรี กล่าวว่า พยาบาลบอกว่านายกอยู่หน้าประตูแล้วจะทำอย่างไ รตนจึงบอกว่าไม่ให้เข้าได้ไหม แต่เขาก็เข้ามาเองซึ่งพยาบาลก็พยายามกันแล้วเหมือนกัน

สำหรับอาการของตนตอนนี้ก็ยังรู้สึกเจ็บซี่โครง เพราะซี่โครงช้ำด้านขวา และเจ็บตรงที่ไหปลาร้า เพราะไปกระแทกกับสายเบลท์ และเจ็บหน้าอกอยู่ รวมถึงคอเคล็ดอยู่ ส่วนอาการของคุณลุงซี่โครงหัก 6 ซี่ ปอดข้างขวาช้ำ และกระดูกตรงกลางอกร้าว อาการแย่ ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในไอซียู อาการ 50:50

ตอนเกิดเหตุการณ์ตนก็ยังงงอยู่ และถามสามีว่า พ่อไปทำอะไรให้เขา เราไม่รู้ตัวว่าเราปาดหน้าเขา เราไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงมาทำแบบนี้ เขาเปิดกระจกชี้หน้าด่า ตนจึงบอกว่าป้าขอโทษถ้าลุงกับป้าทำอะไรผิด ป้าขอโทษ มันก็ชี้หน้าด่า ครั้งที่สองตนยกมือไหว้แล้วก็ร้องไห้บอกว่า ป้าขอโทษ เขาก็บอกว่าลุงมาเบียดรถข้างขวาทำให้ไปชนกับแบริเออด้านหน้ารถของเขาเสียหาย รถแพงนะ มีปัญญาใช้ไหม ให้จอดรถ ตนก็ร้องไห้ เพราะกลัว ก็ถามลุงว่าเราจะจอดดีไหม ลุงบอกว่ามันเป็นทางด่วนเราจะจอดได้อย่างไร เพราะเราไม่ผิด อีกทั้งกลัวเขามีอาวุธ ไม่คิดว่าเขาจะหักรถให้เราชนกับแบริเออ ถ้าลุงขับรถเร็วกว่านี้เกิดรถพลิกไปอีกทางหนึ่งก็จะทำให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน เราก็อาจตายได้ทั้งครอบครัว ตอนนี้กลางคืนก็นอนไม่หลับ

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ