
เปิดข้อหา พีช หนุ่มบีเอ็ม เฉี่ยวลุง-ขับกระบะ สาหัส
เมื่อวันที่ 18 เมษายน 68 เพจ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ได้เผยข้อความระบุว่า ตำรวจทางหลวง เตรียมแจ้งข้อหาประมาทร่วม ‘พีช หนุ่มบีเอ็ม-ลุง ขับกระบะ‘ เหตุการณ์ ’ช่วงแรก‘ รถออกจากด่าน พีท โดนใบขับขี่หมดอายุ-ตรวจสอบป้ายแดงด้วย ส่วนเหตุการณ์ ’ช่วงสอง‘ พีทปาดกระบะจนลุงบาดเจ็บสาหัส เป็นคดีอาญา ส่งให้ สภ.ลำลูกกา ดำเนินคดีพีท วันที่ 18 เม.ย.68 ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พันตำรวจเอกกึกก้อง ดิศวัฒน์ ผู้กำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง พร้อมด้วย พันตำรวจโทธิติ พันธ์สวัสดิ์ รองผู้กำกับ (สอบสวน) สถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง / พันตำรวจโทจำเริญหนูรัก สารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมสรุปคดีในส่วนความผิดตามพระราชบัญญัติจราจร กรณีขับรถเบียดกันบนทางพิเศษ ระหว่างนายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือพีช กับ ลุงและป้า ภายหลังการประชุม พันตำรวจเอกกึกก้อง ระบุว่า
สำหรับกรณีดังกล่าว แบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยกองบังคับการตำรวจทางหลวงรับผิดชอบในส่วนแรก คือช่วงที่รถทั้ง 2 คันได้ขับออกจากช่องทางจ่ายเงิน M-Flow จากนั้นรถกระบะได้เบี่ยงจากเลนซ้ายไปขวา โดยไม่เปิดสัญญาณไฟจราจร ส่วนรถ BMW ที่อยู่ในเลนขวาไม่ได้มีการชะลอความเร็ว ทำให้เกิดเหตุปาดกัน เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนพิจารณาร่วมกันแล้วว่าจะแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกกับทั้ง 2 ฝ่าย โดยมีโทษปรับไม่เกิน 4,000 บาท /ทั้งนี้ หากทั้ง 2 ฝ่ายไม่รับสารภาพ ก็ต้องส่งฟ้องต่อศาลแล้วให้ศาลเป็นผู้พิจารณา
แต่ในส่วนของนายพีช จะมีข้อหาเพิ่มเติม คือ ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากตรวจสอบพบว่าใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ 27 มิถุนายน 2564 ซึ่งล่าสุด ญาติผู้ใหญ่ของนายพีช ได้ประสานว่าช่วงเย็นวันนี้ไหนพี่จะเข้ามาพบกับตำรวจที่สถานตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ส่วนเรื่องความเร็วที่ใช้ระหว่างเข้าด่านเก็บเงิน M-Flow จะเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ จะต้องไปทำการตรวจสอบอีกครั้ง เนื่องจากวันดังกล่าวเป็นวันหยุดสงกรานต์ ไม่เสียค่าผ่านทาง ส่วนการตรวจวัดแอลกอฮอล์ ในวันเกิดเหตุ ตำรวจทางหลวง ได้มีการตรวจวัดแล้วที่บริเวณหน่วยบริการทางหลวง ไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ โดยพนักงานสอบสวนได้โชว์เอกสารที่มีการตรวจวัด ระบุเวลาในการตรวจคือ 10.56.30 น. ปริมาณแอลกอฮอล์ 0 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ และมีลายมือชื่อของนายพีชเซ็นไว้ด้วย สำหรับกรณีทะเบียนป้ายแดง เบื้องต้นมีการตรวจสอบในวันเกิดเหตุพบว่า มีตราปั๊มนูน เหมือนกับแผ่นป้านทะเบียนจริง แต่ตรวจสอบทะเบียนไม่พบในฐานข้อมูล จึงจะต้องส่งให้ทางกรมการขนส่งทางบกตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งหลังจากนี้จะให้ทางนายพีช นำเอกสารทะเบียนป้ายแดงมายืนยันด้วยว่าทางโชว์รูมเป็นผู้ออกให้หรือไม่ รวมถึงนำรถ BMW มาให้ตำรวจทางหลวงตรวจสอบ หากพบความผิด จึงจะส่งทั้งเอกสารและรถให้ทางพนักงานสอบสวน สภ.ลำลูกกา ไปดำเนินคดีอาญาในความผิดปลอมแปลงเอกสารทางราชการ ต่อไป
สำหรับในคดีความผิดในช่วงที่ 2 ที่นายพีชขับรถไล่ปาดจนชนรถกระบะ ทำให้ลุงคนขับได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งเป็นคดีอาญา ผู้รับผิดชอบคือพนักงานสอบสวน สภ.ลำลูกกา ส่วนข้อหาตาม พ.ร.บ.จราจรฯ เกี่ยวกับการขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่นนั้น ก็จะส่งข้อมูลให้ทาง สภ.ลำลูกกา ดำเนินคดีไปพร้อมกัน เพื่อไม่ให้เป็นการฟ้องซ้ำ โดยหากช่วงเย็นวันนี้ นายพีชเข้ามาพบตำรวจตามที่นัดหมาย ก็จะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาเลย แต่หากไม่มาก็จะต้องดำเนินการออกหมายแจ้งให้มารับทราบความผิด และเปรียบเทียบปรับ ส่วนด้านลุงคนขับรถกระบะ ต้องรอให้รักษาตัวหายก่อน จึงจะมีการเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาภายหลัง เพราะเป็นคดีเล็กน้อย