เกือบไม่รอด! ชายวัย 40 ซิ่งเก๋งหนีตร. กลัวโดนจับ คว้าถุงยาบ้าใส่ปาก รีบเคี้ยวบดขยี้กลืนลงท้อง ช็อกตาตั้ง

เกือบไม่รอด! ชายวัย 40 ซิ่งเก๋งหนีตร. กลัวโดนจับ คว้าถุงยาบ้าใส่ปาก รีบเคี้ยวบดขยี้กลืนลงท้อง ช็อกตาตั้ง

วันที่ 17 เม.ย.2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน ขณะที่ จ.ส.ต.ปภาวิน ตาเมือง และ จ.ส.ต.ศิริวิทย์ เดชทวีโชติ สายตรวจจักรยานยนต์ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ กำลังตรวจตราในพื้นที่ บนถนนสุวรรณภูมิ สาย 3 ก่อนออกถนนเทพรัตน ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นรถเก๋งสีดำต้องสงสัยคันหนึ่ง จอดอยู่ข้างทาง ท่าทีคนขับมีพิรุธ ตำรวจจึงแสดงตัว

แต่พอชายคนขับเห็นตำรวจ จึงรีบเหยียบคันเร่งขับรถหลบหนี ตำรวจทั้งสองนายจึงไล่ล่าติดตาม จนกระทั่งมาถึงปากซอยมัณฑนา บนถนนเทพรัตน ขาออก กม 17 ตำรวจจึงประกบข้าง ก่อนจะเรียกให้คนขับจอดรถ แต่คนขับไม่ยอมจอดและพยามขับหลบหนี จนไปต่อไม่ได้เนื่องจากมีรถด้านหน้า พอคนขับจวนตัวจะถูกจับกุม จึงตัดสินใจเปิดประตูฝั่งซ้ายวิ่งหลบหนี แต่สุดท้ายไม่รอดและถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด

แต่ระหว่างที่ตำรวจกำลังจะจับกุมชายคนดังกล่าวนี้ ปรากฏว่าเจ้าตัว ซึ่งมียาบ้าอยู่ในมือจำนวนมากตัดสินใจกลืนยาบ้าเข้าปากและเคี้ยวบดขยี้หลังทำลายหลักฐาน ตำรวจเองก็พยามบอกให้คายออกมาเพราะเกรงว่าอาจจะช็อกได้เนื่องจากกลืนยาบ้าไปจำนวนมาก แต่เจ้าตัวไม่ยอมคายแถมยังพยามเคี้ยวให้แหลกเพื่อกลืนลงท้อง สุดท้ายเริ่มเกอิดอาการช็อกและเหงื่อออกตัวเย็น ตำรวจจึงต้องรีบประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยมาช่วยเหลือ

โดยจากการตรวจสอบภายในช่องปากและลำคอพบห่อถุงพาสติกใส่ที่ภายในบรรจุยาบ้าจำนวนมากคาดว่าเกือบร้อยเม็ด ตำรวจจึงเก็บถุงพาสติกดังกล่าวไว้เป็นหลักฐาน ส่วนตัวชายคนขับ ทราบชื่อภายหลังคือ นาย เมธา อายุ 40 ปี กู้ชีพให้ความช่วยเหลือส่งโรงพยาบาลบางเสาธง โดยตำรวจสั่งอายัดตัวเพื่อรอดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จ.ส.ต. ปภาวิน ตาเมือง ผบ.หมู่ ป. สภ.บางพลี บอกว่า ขณะที่กำลังออกตรวจคู่กับบัดดี้นั้น สังเกตเห็นรถเก๋งคันดังกล่าว จอดอยู่ข้างทาง พอสายตรวจขับมาใกล้ถึงรถ เจ้าตัวรีบเร่งเครื่องขับหลบหนี จนสามารถตามมาถึงและพบว่าเจ้าตัวพยามจะทิ้งยาเสพติดแต่ตำรวจหันไปเห็นเขาจึงกลืนยาบ้าและพยามวิ่งหลบหนีแต่สุดท้ายไปไม่รอดและพบว่าเจ้าตัวอาการทรุดจึงรีบแจ้งรถพยาบาลมารับตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติ พบเคยถูกดำเนินคดีข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติดมาแล้ว 4 ครั้ง

ผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรปราการ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ