กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เจ้าหน้าที่ผู้ทำการตรวจค้น/ตรวจยึด/จับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.นพวัตติ์ ธารีจรัญพัฒน์ สว.กก.1   บก.ปอศ., ร.ต.อ.วีระศักดิ์ ชัยอินทร์ รอง สว.กก.1 บก.ปอศ., ร.ต.ท.ประกิจ เฉลิมหมู่ รอง สว.(ป.) กก.1 บก.ปอศ. กับพวกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 2 กก.1 บก.ปอศ. ได้ร่วมจับกุมผู้ต้องหา นางสาวชุติกาญจน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “มีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม และเลียน เครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร”  พร้อมด้วยของกลาง เคสโทรศัพท์มือถือ ปลอม และเลียนเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้ จดทะเบียนแล้วในราชอาณาจักรฯ จำนวน กว่า 7,000 ชิ้น

สถานที่จับกุม โกดังกักเก็บสินค้าไม่มีเลขที่ ตำบลคลองมะเดื่อ อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร

พฤติการณ์  ด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ.ได้รับการร้องเรียนว่ามีการลักลอบจำหน่ายสินค้า ประเภทเคสโทรศัพท์มือถือ ละเมิดเครื่องหมายการค้าจำนวนมาก จึงได้ร่วมกับผู้รับมอบอำนาจจาก ผู้ผลิตแบรนด์สินค้าหลากหลายแบรนด์ อาทิ  APPLE และ CASETIFY ซึ่งเป็นผู้เสียหาย นำหมายค้นของศาล ทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางฯ เข้าตรวจค้นโกดังกักเก็บสินค้าไม่มีเลขที่ หมู่ 7 ตำบลคลองมะเดื่อ อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อตรวจสอบ

ผลการตรวจค้น พบสินค้าประเภทเคสโทรศัพท์มือถือที่ปรากฏเครื่องหมายการค้าแบรนด์สินค้าต่างๆ  ซึ่งเป็นเครื่องหมายการค้าที่มีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายภายในราชอาณาจักรไทย จัดเก็บไว้ ภายในพื้นที่โกดัง จำนวนกว่า 7,000 ชิ้น

จากการตรวจสอบพบว่าเคสโทรศัพท์ดังกล่าว เป็นสินค้าที่ปรากฏลวดลายเลียนแบบเครื่องหมาย การค้าแบรนด์สินค้าชั้นนำ เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความสนใจในตัวสินค้า ซึ่งผู้ต้องหาสั่งนำเข้ามาจากต่างประเทศ เพื่อจำหน่ายในประเทศไทย ถือเป็นสินค้าต้นทุนต่ำ ทำให้วัสดุที่ใช้ผลิตไม่มีคุณภาพและไม่ได้มาตรฐาน

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังตรวจพบเครื่องสกรีนสำหรับพิมพ์ลายเคสโทรศัพท์ขนาดใหญ่ จำนวน หลายเครื่อง ซึ่งผู้ต้องหาใช้สำหรับพิมพ์ลายลงบนเคสโทรศัพท์ปลอมเครื่องหมายการค้าฯ ส่งจำหน่ายไปยัง ร้านค้า และแพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าออนไลน์ต่างๆทั่วประเทศ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ. จึงได้ ดำเนินการตรวจยึด สินค้าปลอมและเลียนทั้งหมดไว้เป็นของกลาง รวมถึงเครื่องสกรีนดังกล่าวไว้ เพื่อตรวจสอบรูปแบบหรือลวดลายว่าเข้าข่ายละเมิดเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นหรือไม่ และทำการจับกุมตัว นางสาวชุติกาญจน์ฯ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา และสิทธิตามกฎหมายดังกล่าวข้างต้นให้ทราบนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการขยายผลเส้นทางการนำเข้าสินค้าปลอม รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งใน และนอกประเทศเพื่อดำเนินคดี ตามกฎหมายจนถึงที่สุดต่อไป

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ รายงาน