เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2568 เว็บไซต์ต่างประเทศ Mirror ได้มีการรายงานเหตุอุทาหรณ์สลด กรณีของชายชาวเดนมาร์กวัย 69 ปี มีอันต้องเสียชีวิตอย่างไม่คาดฝัน ภายหลังจากดื่มน้ำมะพร้าวไปได้เพียงอึกเดียว เนื่องจากไม่รู้ว่าน้ำมะพร้าวนั้นเน่าเสียแล้ว จนเป็นเหตุให้สมองได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง จนกระทั่งถึงแก่ชีวิตภายในระยะเวลา 26 ชั่วโมง หลังจากถูกพาตัวส่งโรงพยาบาล

ตามรายงานทางการแพทย์ ระบุว่า ชายรายดังกล่าว (ไม่เปิดเผยชื่อของผู้เสียชีวิต) อาศัยในเมืองออร์ฮูส ทางตะวันออกของประเทศเดนมาร์ก เขาได้ใช้หลอดดูดน้ำมะพร้าวจากลูกที่ผ่านการปลอกเปลือกด้านนอกแล้ว แต่เพียงแค่อึกเดียวที่กลืนเข้าคอ เขาก็รู้สึกได้ว่ารสชาติของมันผิดปกติ

จากนั้น เมื่อผ่าลูกมะพร้าวเปิดดูก็ต้องตกใจอย่างมาก เมื่อพบว่ามะพร้าวลูกนี้เน่าแล้ว มีลักษณะเหมือนเป็นยางเหนียว ๆ สีเขียวและสีขาวขุ่น เขารีบนำมันทิ้งถังขยะโดยที่ไม่ได้คิดอะไรในตอนแรก จนกระทั่ง เวลาผ่านไปประมาณ 3 ชั่วโมง เขาก็เริ่มมีอาการไข้ เหงื่อออก และอาเจียน ภายหลังจากเจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินได้รับแจ้งให้มาที่บ้านของเขาพบว่า เขามีอาการมึนงง หน้าซีด และไม่สามารถทรงตัวได้

ต่อมา ชายรายดังกล่าวถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เพื่อรับการรักษาโดยทันที ผลการตรวจ CT-Scan แสดงให้เห็นว่า สมองของเขามีอาการบวมอย่างรุนแรง แต่ในขณะนั้น แพทย์ไม่ทราบว่าสาเหตุคืออะไร แพทย์วินิจฉัยว่า เขามีภาวะความผิดปกติของผิวสมองทางเมตะบอลิก (Metabolic encephalopathy) ซึ่งเกี่ยวกับการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย ส่งผลให้เกิดความไม่สมดุลของสารเคมีในสมอง

อย่างไรก็ตาม แพทย์พยายามให้ความช่วยเหลือช่วยรักษาชายรายนี้ในห้องไอซียู ทว่าหลังจากผ่านไป 26 ชั่วโมง พบว่าสมองตาย แพทย์จึงก็ได้ประกาศการเสียชีวิตของเขาในที่สุด โดยผลการชันสูตรพลิกศพพบว่า มีเชื้อราในหลอดลม และการวิเคราะห์ผลมะพร้าวพบว่า มีเชื้อราชนิด Arthrinium Saccharicola ซึ่งเป็นเชื้อราที่พบได้ในน้ำมะพร้าวเน่า โดยจะผลิตสารพิษชื่อ 3-nitropropionic acid ที่ทำให้สมองเสียหายอย่างรุนแรง

ทั้งนี้ แหล่งข่าวได้มีการรายงานเพิ่มเติมอีกว่า น้ำมะพร้าวที่ชายผู้เสียชีวิตดื่มเข้าไปนั้น มาจากลูกมะพร้าวที่เขาซื้อมาเป็นเวลา 1 เดือน โดยที่เก็บไว้ในห้องครัว ไม่ได้แช่ตู้เย็น จึงทำให้มันเน่าเสีย และน่าเศร้าที่เขาไม่รู้

ข้อมูล Mirror