นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการ เที่ยวไทยคนละครึ่ง ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงบประมาณ หลังจากนั้นจะส่งให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ส่งเรื่องสู่ครม.พิจารณาต่อไป โดยใช้วงเงินราว 3,000 ล้านบาท ดำเนินโครงการฯ

จากการหารือล่าสุดเกี่ยวกับ เงื่อนไขโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง รัฐบาลช่วยจ่าย 50% ส่วนอีก 50% ประชาชนจ่ายเงิน เดินทางท่องเที่ยวใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ ทั้งเมืองหลัก 22 จังหวัด และเมืองรองน่าเที่ยว 55 จังหวัดตามชื่อโครงการ

แนวทางกระจายสิทธิ เที่ยวไทยคนละครึ่ง เมืองหลัก vs เมืองรอง

จากจำนวนทั้งหมด 1 ล้านสิทธิ์ มีการจำกัดให้ประชาชนใช้สิทธิได้คนละไม่เกิน 10 สิทธิ (10 ห้อง หรือ 10 คืน) อยู่ระหว่างพิจารณาเงื่อนไขใหม่เพื่อกระจายการใช้สิทธิไปในเมืองรองมากขึ้นไว้ โดยมีการหารืออยู่ 2 แนวทาง ได้แก่

แนวทางที่ 1 กำหนดสัดส่วนการใช้สิทธิระหว่างเมืองหลักกับเมืองรองที่ 5:5 สิทธิ

แนวทางที่ 2 กำหนดสัดส่วนการใช้สิทธิระหว่างเมืองหลักกับเมืองรองที่ 4:6 สิทธิ

เงื่อนไขโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง

โดยจะต้องรอข้อสรุปอย่างเป็นทางการ โดยจะมีการพิจารณาปรับเงื่อนไขใหม่ กำหนดให้ประชาชนสามารถใช้สิทธิโครงการนี้เพื่อท่องเที่ยว ได้เฉพาะวันธรรมดา ตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์เท่านั้น

เช่น เข้าพักโรงแรมคืนวันศุกร์ ก็สามารถใช้สิทธิต่อเนื่องในวันเสาร์ได้ ไม่สามารถใช้สิทธิเข้าพักคืนวันเสาร์-อาทิตย์ได้ ถ้าต้องการเข้าพักในคืนวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ ต้องเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง

อย่างไรก็ตาม กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังพิจารณาเช่นกันว่าจะกำหนดให้ กลุ่มข้าราชการสามารถใช้สิทธิโครงการนี้ เพื่อกระตุ้นให้เที่ยวไปด้วยทำงานไปด้วยได้ด้วย

เปิดลงทะเบียนเที่ยวไทยคนละครึ่งเมื่อไหร่

แม้ยังไม่มีการประกาศวันเปิดลงทะเบียนเที่ยวไทยคนละครึ่งอย่างเป็นทางการ แต่หากผ่านการเห็นชอบจาก ครม. โครงการนี้จะเป็นอีกหนึ่งแรงกระตุ้นท่องเที่ยวช่วงกลางปี 2568 ที่ประชาชนและผู้ประกอบการรอคอย โดยเฉพาะเมืองรองที่จะได้อานิสงส์จากนโยบายการกระจายสิทธินี้โดยตรง

สรุป เตรียมตัวให้พร้อม! เที่ยวไทยคนละครึ่ง รอบใหม่จ่อกลับมา พร้อมเงื่อนไขเข้มขึ้น เน้นกระจายสู่เมืองรองและเที่ยววันธรรมดาเป็นหลัก ช่วยดันเศรษฐกิจท้องถิ่นให้คึกคักทั่วประเทศ