จากกรณีเกิดเหตุแผ่นดินไหวจนตึก สตง. ที่จตุจักรถล่ม มีผู้เสียชีวิตล่าสุด 13 ราย ญาติรับร่างไปแล้ว 9 ราย เหลืออีก 4 ราย เป็นต่างด้าว 2 ราย และอีก 2 รายเป็นหญิงไม่ทราบชื่อที่ค้นพบเมื่อวาน (31 มี.ค.) เบื้องต้นอยู่ระหว่างตรวจสอบพิสูจน์อัตลักษณ์

ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. ได้พูดคุยกับนาย รุ่งโรจน์ อายุ 43 ปี เดินทางมาตรวจดีเอ็นเอพิสูจน์อัตลักษณ์หลังทราบข่าวว่าพบหญิงรายหนึ่งซึ่งลักษณะตรงกับแฟนสาวของตนคือ นางสาว วิพาคำ พรมภัคดี อายุ 40 ปี ลูกด้วยกัน 2 คน อายุ 21 กับ 16 ปี

โดยเปิดเผยว่า วันนี้ตนมารับร่างแฟน เนื่องจากตนเห็นแหวนดาว 5 แฉกและเสื้อผ้าจึงจำได้ว่าเป็นแฟนของตน ที่เจ้าหน้าที่พบร่างเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งตนทำงานอยู่ที่ตึกดังกล่าวได้ประมาณ 2 ปีเป็นคนคุมเครนชั้นล่าง ส่วนแฟนมาทำได้ 1 ปีเป็นคนคุมลิฟต์ ซึ่งวันเกิดเหตุอยู่ที่ชั้น 28 ส่วนตนอยู่ชั้นล่างจึงรอดมาได้

ต่อมาตนก็ได้ติดต่อแฟนไม่ได้ และไปที่เกิดเหตุทุกวันเพื่อติดตามหาภรรยาของตน ซึ่งช่วงแรกตนก็คิดว่ายังคงมีโอกาสรอด พอเข้าวันที่ 3 ตนก็คิดว่าหมดหนทางแล้ว กระทั่งมาทราบข่าวสลด โดยตนกับภรรยา มีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตอายุ 21 ปี วันที่ 3 นี้จะเข้าเกณฑ์ทหาร ส่วนคนเล็กอายุ 16 ปี ซึ่งก่อนเกิดเหตุก็ไม่ได้มีลางสังหรณ์ แต่แปลกแค่ภรรยามาถอนหงอกให้ ปกติไม่เคยมาทำ หลังจากนี้ก็คงต้องทำใจและเดินหน้าต่อไปให้ได้

ต่อมา ได้มีโอกาสพูดคุยกับ พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผบก.พฐก. เปิดเผยว่า มีประเด็นที่น่าสนใจ ศพที่ได้พิสูจน์ทราบแล้ว มาจากการพิมพ์มือเป็นต่างด้าว แต่ไม่มีญาติรับร่าง อยากให้ทางบริษัทของผู้เสียชีวิตเข้ามาติดต่อเป็นตัวแทนญาติ เพื่อไม่ให้ร่างตกค้างเพราะไม่มีญาติมารับ โดยขณะนี้มีประมาณ 40 ครอบครัวที่เข้ามาตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์และดีเอ็นเอ

ทางนี้ก็ขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ครอบครัวที่สูญหายเข้ามาติดต่อที่นิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจเพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์และดีเอ็นเอ โดยที่นิติเวชจะเปิดทำการตั้งแต่ 8.30 น.-20.00 น. ยอมรับว่าสภาพศพตรวจสอบยากขึ้นแต่ก็ไม่เกินความสามารถของแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ.