มื่อวันที่ 29 มี.ค. 2568 นางสาวเพชรรินทร์ (สงวนนามสกุล) 24 ปี น้องสาวของนางสาวชุติมน (สงวนนามสกุล) 26 ปี ผจก.ร้านสปาแห่งหนึ่ง นำกล้องวงจรปิด มาร้องสื่อเพื่อขอความเป็นธรรม หลังพี่สาววิ่งหนีขณะเกิดแผ่นดินไหวแต่กลับพลัดตกตึก ย่านพระราม 9

นางสาวเพชรรินทร์ บอกว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา มีตำรวจโทรฯ หาเธอ บอกว่า พี่สาวพลัดตกตึกคอนโดเสียชีวิตจากชั้น 13 มายังชั้น 5 เมื่อเธอทราบข่าวก็ตกใจจึงรีบไปยังสน.หัวหมากเพื่อยืนยันตัวบุคคล โดยตำรวจได้บอกกับเธอว่า ทางทีมช่างคอนโดได้ประสานตำรวจมาช่วง 5 โมงเย็น ว่าพบร่างของพี่สาวเธอเสียชีวิตอยู่ที่ชั้น 5 ของคอนโด

หลังจากนั้นเธอได้ไปยังคอนโดของพี่สาว เพื่อคุยกับนิติคอนโด แต่เมื่อไปถึง เธอก็ได้วงจรปิด บริเวณหน้าห้องของพี่สาว จะเห็นว่า ช่วงเวลา 13.19 น. เป็นช่วงเวลาที่เกิดแผ่นดินไหว พี่สาววิ่งออกจากห้องโดยหยิบโทรศัพท์ ออกมาด้วย 1 เครื่อง จากภาพจะเห็นว่า พี่สาวของเธอวิ่งออกมาด้วยความตื่นตระหนก จะเห็นว่าพี่สาววิ่งไปทางลิฟต์ จากนั้นก็วิ่งออกมา ไปอีกทาง จากนั้นก็หายไปจากกล้องวงจรปิด

ซึ่งเธอได้ไปดูที่เกิดเหตุ ก็เห็นว่า ทางสุดท้ายที่พี่สาววิ่งไปคือทางตัน ที่เป็นกระจกกั้น ด้านหลังเป็นระเบียงปูนที่ไม่มีอะไรกั้น จากการถามตำรวจ สันนิษฐานว่าพี่สาวน่าจะปีน หน้าต่างกระจกออกไป เพื่อหาทางรอด แต่เป็นจังหวะที่แผ่นดินไหวทำให้พลัดตกจากชั้น 13 ลงมาชั้น 5

ซึ่งเธอได้ตั้งข้อสังเกตว่า หากขณะนั้นทางคอนโดเปิดประตูบันไดหนีไฟ ไว้อย่างชัดเจน หากพี่สาวเห็นก็จะต้องลงบันไดหนีไฟ แตกขนาดนั้น เธอไม่รู้ว่าทางคนโตปิดประตูไว้หรือไม่ ทำให้พี่สาวไม่สามารถออกทางบันไดหนีไฟได้ อีกทั้งกว่าจะพบศพ ก็เลยมาหลายชั่วโมงแล้ว และ เธอได้ถามทางนิติถึงทรัพย์สินของพี่สาว ที่เป็นโทรศัพท์มือถือทางนิติก็บอกว่าไม่พบ ก็ยิ่งทำให้ญาติติดใจ จนต้องมาร้องขอความเป็นธรรม

นางสาว เพชรรินทร์ ยังบอกอีกว่า ได้ไปดูจุดเกิดเหตุแล้ว วันนี้ประตูบันไดหนีไฟเปิด เมื่อถามรปภ. ก็บอกว่าประตูบันไดหนีไฟปกติเปิดอยู่แล้ว แต่ขณะเกิดเหตุก็ไม่รู้ว่าปิดหรือเปิดอย่างแน่ชัด

เมื่อถามว่าคอนโดดังกล่าวพี่สาวอยู่กับใคร เธอบอกอยู่กับแฟนของพี่ซึ่งขนาดเกิดเหตุแฟนของพี่ออกไปทำงานตั้งแต่ 11 โมงและญาติไม่ได้ติดใจแฟนพี่สาว เพราะขนาดนั้นก็ไม่ได้อยู่กับพี่ และเมื่อหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวเธอได้ไลน์ไปถามพี่สาวว่าเป็นอย่างไรบ้างแต่ก็ไม่มีการตอบกลับและพยายามติดต่ออีกครั้งตอนประมาณ 5 โมงเย็นก็ไม่มีการตอบกลับอีกเช่นกัน

โดยตอนนี้ทางญาติได้มารับศพพี่สาวจากสถาบันนิติเวชตำรวจไปบำเพ็ญพิธีทางศาสนาที่จังหวัดสุรินทร์ที่เป็นบ้านเกิดแล้ว แต่อยากขอให้สื่อมวลชนช่วยประสานขอความเป็นธรรมให้กับครอบครัวด้วยถึงบันไดหนีไฟของคนโตว่ามีการเปิดไว้หรือไม่ขณะนั้น