
อุกอาจ! สองหนุ่มบุกทวงเงินลูกหนี้ แต่ตกลงกันไม่ได้ ลั่นไกใส่เพื่อนลูกหนี้เสียชีวิตคาโรงงาน
เมื่อเวลา 19.43 น. วันที่ 29 มี.ค. 2568 กล้องวงจรปิดภายในโรงงานแห่งหนึ่งริมถนนเทพารักษ์ กม19 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จับภาพได้ในขณะที่ นายกาญ อายุประมาณ 53 ปี เจ้าหนี้ ขี่รถจักรยานยนต์มากับเพื่อนคือ นายต๋อย อายุ 48 ปี ซึ่งมาทวงเงินที่ นายแมน ลูกจ้างของโรงงานที่เกิดเหตุแห่งนี้ ซึ่งติดเงินพันกว่าบาท โดยขณะนั้นมีเพื่อนของนายแมนนั่งอยู่ด้วยรวมทั้งหมด 3 คน หนึ่งในนั้นคือ นายนิรุจน์ อายุ 28 ปี ผู้เสียชีวิตรวมอยู่ด้วย
ระหว่างที่ นายกาญ เจ้าหนี้ กำลังเจรจาทวงถามเงินจาก นายแมน ที่ยืมไป มีจังหวะหนึ่งที่ คาดว่า นายกาญ เจ้าหนี้ คงจะพูดจาอะไรสักอย่าง จนทำให้ นายนิรุจน์ ที่เป็นเพื่อนของ นายแมน และนั่งอยู่ตรงนั้น เกิดความไม่พอใจลุกไปผลักอก นายกาญ จนล้มทั้งยืน จากนั้นทำให้ นายต๋อย ที่เป็นเพื่อนของ นายกาญ ที่เห็นเข้าและยืนคุมเชิงอยู่ จึงผลักอก นายนิรุจน์ กลับไป ทำให้ นายนิรุจน์ ไม่พอใจและเปิดฉากสาวหมัดใส่กันอยู่สักพัก นายต๋อย จึงวิ่งออกจากโรงงานไป และดูเหมือนว่าเรื่องราวจะจบลงด้วยดี
แต่ นายกาญ ที่เป็นเจ้าหนี้เข้าพูดคุยและโต้เถียงกับ นายนิรุจน์ อีกครั้ง กระทั่งไม่นาน นายต๋อย กลับเข้ามาพร้อมกับปืนเหน็บเอวเข้ามาด้วย ซึ่งภาพวงจรปิดอีกมุมจับภาพได้ในขณะที่ นายต๋อย เดินกลับมาจากโรงงานข้างเคียงพร้อมกับอาวุธปืน จากนั้น จึงมีการเข้ามาเคลียร์กันอีกครั้ง แต่ไม่ลงตัวจนเกิดการชกต่อยกันเกิดขึ้นอีกครั้ง นายต๋อย ซึ่งเหน็บปืนมาด้วยที่เอวจึงเดินกลับมาที่ข้างรั้วโรงงานเพื่อบรรจุกระสุนปืน ก่อนจะชักปืนยิงใส่ นายนิรุจน์ ไปหนึ่งนัด กระสุนเข้าที่ชายโครงข้างขวา ภาพจากกล้องอีกมุมจะเห็นหลังจากที่ นายนิรุจน์ ถูกยิงและล้มลงตรงข้างรถหน้าประตูออฟฟิต ส่วน นายต๋อย ผู้ก่อเหตุวิ่งหลบหนีเข้าโรงงานข้างไป
หลังเกิดเหตุไม่นาน เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิร่วมกตัญญูและกู้ชีพโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 พยามเข้าปั้มหัวใจยื้อชีวิต นายนิรุจน์ แต่ไม่เป็นผล และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ พนักงานสอบสวนจึงร่วมกับเจ้าหน้าที่ พฐ และแพทย์นิติเวชสถาบันรามาจักรกรีนฤบดินทร์เข้าตรวจสอบ และชันสูจน์พลิกศพ ก่อนจะนำร่างผู้เสียชีวิตส่งไปยังนิติเวชโรงพยาบาลรามาสมุทรปราการอีกครั้ง โดยมีแฟนสาวของ นายนิรุจน์ นั่งทรุดลงกับพื้นด้วยความเสียใจ
ทางด้าน นายสุวิทย์ หรือนายแมน อายุ 28 ปี คนนี้เป็นลูกหนี้ของ นายกาญ บอกว่า เรื่องเกิดขึ้นเพราะว่าตนเองไปยืมเงินจาก นายกาญ รวมแล้วพันกว่าบาทและผลัดคืนเงินมากว่าเดือนแล้ว จนมาวันนี้ ขณะที่ตนเองกับเพื่อนรวมถึงผู้เสียชีวิต นั่งเล่นเกมกันอยู่ นายกาญ เจ้าหนี้ ขับรถจักรยานยนต์มากับผู้ก่อเหตุเพื่อมาทวงถามเรื่องคืนเงินที่ยืมไป ซึ่งตอนแรกก็พูดคุยเคลียร์กันเกือบจะลงตัวแล้ว แต่ นายกาญ และเพื่อนของ นายกาญ พูดจาคล้ายกับข่มขู่ทำให้นายนิรุจน์ ไม่พอใจ จึงลุกยืนต่อว่าและผลักอก นายกาญ จนล้มลง ก่อนจะชกต่อยกับเพื่อนของนายกาญ จนกระทั่งเพื่อนของนายกาญ กลับไปเอาปืนจากโรงงานที่เพื่อน นายกาญ ทำงานอยู่โรงงานข้างกันมาก่อเหตุดังกล่าว
ล่าสุด ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงหลังเกิดเหตุ ฝ่ายสืบสวนของ สภ.บางพลี นำกำลังพร้อมอาวุธครบมือไปปิดล้อมห้องพักของ นายต๋อย ซึ่งกระโดดหลบหนีข้ามกำแพงของโรงงานไปหลังเกิดเหตุ โดยไปพบตัว นายต๋อย นั่งรอมอบตัวอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใกล้ห้องพัก ตำรวจจึงคุมตัวมาชี้จุดที่ซ่อนปืนไว้ที่โต๊ะทำงานภายในโรงงานข้างเคียง
ทางด้าน นายต๋อย หรือ นายสมชาย อายุ 48 ปี ผู้ก่อเหตุ ให้การยอมรับว่า ก่อเหตุจริง สาเหตุเพราะว่าเขาทำร้ายตนก่อน ตนไม่ได้ข่มขู่อะไรเขาก่อนเลย ก็พูดดี ๆ แต่เขาเข้ามาทำร้ายเราต่อยตน ตนกับเขาไม่ได้รู้จักกันมาก่อน แต่เรื่องที่เกิดคือ เราเคยมาทวงเงินเขาตั้งแต่ต้นแล้ว ในวันนี้นายสงกรานต์ (คนที่เป็นเจ้าหนี้) เขาชวนตนไปเป็นเพื่อนทวงเงินกับเขาหน่อย แต่คือแบบทางนั้นเขาไม่พอใจ ทำร้ายตนก่อน โดยที่ตนไม่ได้ทำอะไรเขาเลย ปืนที่ใช้ก่อเหตุคือตนกลับมาเอา ตอนที่โดนต่อยจนล้มตอนนั้นปืนอยู่ที่เอว ส่วนปืนเป็นปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 ซุปเปอร์ ไม่มีทะเบียน และซื้อมาไว้เมื่อสิบกว่าปีก่อนแล้ว
ขณะที่ ภรรยาของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ปกติหลังเลิกงานประมาณ 4 โมงเย็น เขาก็จะมาก่อไฟเผาถ่านแล้ว เดี๋ยวมันก็จะดับของมันเอง เพราะว่ามันเป็นเตาไร้ควัน ตอนเกิดเหตุตนอยู่ที่บ้านกำลังทำลาบหมู ตนก็ไม่รู้เรื่องอะไร ตนก็งงเหมือนกัน เพราะแกเป็นคนใจเย็น เป็นคนที่จิตใจดี ไปทำบุญกันตลอด เป็นคนมีเมตตา ตนยังงงอยู่เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับแก แกเจอหนักมากว่านั้น แกก็ไม่ทำร้ายใคร แต่ไม่รู้ว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น เรื่องติดหนี้กันตนไม่รู้ คนที่เสียชีวิตเป็นใครก็ยังไม่รู้ วันนี้แกก็ไปทำงานพอเลิกงานสี่โมงครึ่งแล้วก็มาเผาถ่านเป็นงานเสริม เพราะที่ทำงานไม่มีโอ ก็เลยมาหาทำงานเป็นรายได้เสริมของเราเอง ปกติแกเป็นคนใจเย็น เป็นคนมีสติ เจอหนักมากว่านี้แกก็ผ่านมาหมด ไม่เคยไปตีไปทำร้ายใคร ครั้งสุดท้ายที่ตนเจอแก ก็ตอนประมาณห้าโมงครึ่งคือตนเลิกงานซื้อกลับข้าวเข้ามาตนก็แวะหา แกก็ตอบกลับว่าเดี๋ยวเข้าไป แล้วก็หายไปเลย แล้วแกก็โทรมาบอกว่าทะเลาะกันกับเขา แล้วเขามาตบต่อยตาแก และเขาก็บอกว่าไม่ได้ตั้งใจยิงแต่ยิงสาด
โดยทางตำรวจจึงแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองผิดกฎหมาย พกพาอาวุธปืนไปในเมืองทางสาธารณะ และยิงปืนในที่สาธารณะ คุมตัว นายต๋อย ผู้ก่อเหตุมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพโดยมีกำลังตำรวจดูแลความสงบและความปลอดภัยอย่างเข้มงวดใช้เวลาไม่นานจึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผกก.สภ.บางพลี ระบุ สำหรับคดีนี้ เกิดจากที่ตัวผู้ก่อเหตุเขาเป็นเดือดเป็นแค้นแทนเพื่อนในกรณีที่อีกฝ่ายได้ยืมเงิน จำนวนสองพันบาท แล้วปรากฎว่าไม่คืน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็รู้จักกันและก็นั่งคุยกันอยู่บริเวณจุดที่มีการเผาถ่านบริเวณหลังโรงงาน พอมาบริเวณจุดเกิดเหตุได้มีการทวงเงินแทนเพื่อนแล้วปรากฎว่าฝ่ายผู้เสียชีวิตก็ไม่ใช่เป็นฝ่ายที่ยืมเงินด้วยซ้ำเป็นเดือดเป็นแค้นแทนเพื่อนแล้วก็ได้เกิดโทสะ เข้าไปชกต่อยฝ่ายผู้ก่อเหตุก่อน ฝ่ายผู้ก่อเหตุก็เลยใช้อาวุธปืนที่ติดตัวมายิงผู้เสียชีวิต ในตอนแรกก็ได้รับบาดเจ็บ แต่สุดท้ายพยายามยื้อชีวิตแล้วแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเป็นเหตุให้เสียชีวิต อาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ซึ่งเขาบอกว่าได้ซื้อมานานแล้ว ซึ่งเรืองนี้เราจะขยายผลต่อว่าซื้อมาจากไหน แล้วก็ถ้าใครที่ได้นำอาวุธปืนมาขายให้ผู้ก่อเหตุครั้งนี้เราก็จะขยายผลแล้วก็จับมาดำเนินคดีด้วย เบื้องต้นแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร
ผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรปราการ รายงาน