เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 29 มี.ค.68 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ่อน้ำพุร้อนแม่กาษา บ้านแม่กาษา อ.แม่สอด จ.ตาก หลังจากในโลกโซเชียลได้มีการแห่แชร์ภาพ ขณะเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่ประเทศเมียนมา จนทำให้บ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้กลายเป็นสีสนิม โดยก่อนกน้านี้ตรงบริเวณบ่อน้ำพุร้อนเป็นสีเขียวคล้ำด้วยตะไคร่น้ำที่เกาะอยู่ตรงก้อนหินปูน  น้ำพุร้อนแม่ภาษา เป็นน้ำพุขนาดเล็กที่ผุดขึ้นมาจากดิน มีความร้อนประมาณ 70-80 องศาเซลเซียส ธารน้ำร้อนที่พุ่งออกมาผสมกับน้ำจากผิวดินที่เป็นน้ำเย็น เกิดเป็นธารน้ำอุ่น มีกลิ่นกำมะถันอ่อนๆ และไอน้ำลอยกรุ่นขึ้นมา ตาน้ำร้อนมี 2 แห่ง ถ้าเป็นแห่งเล็กมีการนำแผ่นปูนมาวางปิดกั้นไว้ป้องกันอันตราย สิ่งมีชีวิตอาจตกลงไป   ส่วนบ่อที่เปลี่ยนสี เป็นตาน้ำมีขอบบ่อกั้นไว้ สามารถต้มไข่โดยแช่ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที น้ำพุร้อนแม่ภาษา เป็นน้ำพุร้อนซึ่งไม่มีกลิ่นฉุนจากก๊าซกำมะถัน จึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวเมียนมา    

หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศเมียนมาเมื่อวานนี้ ( 28 มี.ค.68 ) ส่งผลทำให้ใต้ชั้นดินและปูนของบ่อน้ำพุร้อนเปลี่ยนแปลง น้ำพุร้อนที่ไหลทะลักขึ้นมาบนดินบริเวณสถานที่ท่องเที่ยวบ่อน้ำพุร้อนแม่กาษา ไหลขุ่นเป็นสีแดงสนิมทั่วทั้งบ่อและสายธารน้ำร้อนที่ไหลไป จึงทำให้นางนุชจนาฏ  ลังกาวงค์  แม่ค้าร้านขายของและพักอาศัยอยู่ที่บ่อน้ำพุร้อนแม่กาษา ตื่นเต้นถ่ายรูปแชร์ลงในเฟซบุ๊ค  

นางนุชจนาฏ  แม่ค้าผู้เห็นเห็นการณ์ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า....เหตุการณ์แบบนี้คือน้ำพุร้อนเป็นสีแดงหรือสีสนิมเคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง ช่วงที่เกิดสึนามิ น้ำพุร้อนไหลออกมาเป็นสีแดงและนานกว่านี้ แต่รอบนี้ที่เกิดแผ่นดินไหวในเมียนมาก็เป็นสีเดียวกันแต่พอช่วงเย็นๆน้ำพุร้อนก็กลับมาใสเช่นเดิม ถ้าแผ่นดินไหวจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้เสมอ เกิดมาแล้ว 2 ครั้งหากเกิดแผ่นดินไหวถึงจะเปลี่ยนสี ตนเองเห็นว่าแปลกดีจึงโพสต์ลงเฟซบุ๊ค โดยก่อนหน้านั้นไม่ได้เป็นสีแดง แต่พอหลังจากเกิดแผ่นดินไหว ก้อนหินปูนกลายเป็นสีแดงด้วย  

ซึ่งในวันนี้ยังคงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวเมียนมา เดินทางมาพักผ่อนท่องเที่ยว ซื้อไข่ไก่และไข่นกกระทา มาแช่ทิ้งไว้ในบ่อน้ำพุร้อนเป็นปกติ ไม่ได้มีอาการกลัวแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.ตาก รายงาน